เมื่อวาน ได้ถ่ายทอดความทรงจำอีกมุมหนึ่ง เมื่อครั้งสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2องค์พระประมุขแห่งสหราชอาณาจักร เสด็จพระราชดำเนินทรงเยือนจังหวัดสกลนครเมื่อปี 2539
เป็นเกร็ดเรื่องราวการเตรียมรับเสด็จ การจัดการกับภาพของการทารุณกรรมสุนัข โดยอดีตนายอำเภอเมืองสกลนคร ผู้ทำหน้าที่ถวายรายงานในโอกาสเฝ้าฯรับเสด็จพระองค์ท่านเมื่อครั้งนั้นด้วยอย่างไร
“ดร.ชา” ได้บันทึกไว้ใน “เรื่องเล่า ดร.ชา สนุก และสร้างสรรค์ฯ” ยังมีตอนที่กล่าวถึงเหตุการณ์อันน่าประทับใจ ในวันรับเสด็จจริงยุคนั้น
ท่านเล่าไว้ว่า
“...การคัดเลือกบ้านราษฎร ที่จะให้สมเด็จพระราชินีนาถฯ เสด็จทอดพระเนตร
ก่อนจะถึงวันเสด็จ ฯ เยือนสกลนคร ทางวัง กระทรวงการต่างประเทศ และจังหวัดสกลนคร ได้พิจารณาร่วมกันว่า สมควรจะให้สมเด็จพระบรมราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จฯทอดพระเนตรวิถีชีวิตชาวชนบทไทย ณ บ้านหลังใดดี ในที่สุดได้มีความเห็นร่วมกันว่า สมควรให้เสด็จ ฯ ทอดพระเนตร บ้านของ นายวังพันธุลา ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านนานกเค้า ตำบลห้วยยาง อำเภอเมืองสกลนคร
สาเหตุที่เลือกเอาบ้านนายวัง พันธุลา ก็เพราะเป็นบ้านทรงไทยโบราณชั้นเดียว มีใต้ถุนสูง นอกจากอาชีพทำนาแล้ว เจ้าของบ้านยังมีอาชีพเสริมด้วยการทอกี่กระตุก และบริเวณรอบบ้านมีการเลี้ยงหมู เป็ด ไก่ ตามวิถีชีวิตของชาวชนบทไทยโดยทั่วไป
นอกจากนี้ ยังได้มีการมอบหมายภารกิจในวันเสด็จฯ ไว้ว่า ให้ผมในฐานะนายอำเภอท้องที่ เป็นผู้คอยรับเสด็จ ณ บริเวณหน้าบ้านของนายวัง พันธุลาให้ภรรยาของผมและภรรยาของผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองสกลนคร เป็นผู้ทูลเกล้าฯ ถวายพวงมาลัยกร
ส่วนตัวนายวัง พันธุลา และภรรยาให้นั่งพับเพียบอยู่กับพื้น โดยให้ผมเป็นผู้ถวายรายงานเบิกตัวนายวัง พันธุลา หลังจากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (พระราชอิสริยยศในขณะนั้น) จะทรงเป็นผู้นำเสด็จฯ เข้าทอดพระเนตรกิจกรรมภายในบ้านของนายวัง พันธุลา ด้วยพระองค์เอง
...เมื่อถึงวันเสด็จ ฯ คือ วันที่ 31 ตุลาคม 2539 สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าฟ้าฟิลิป ดยุก แห่งเอดินเบอระ ได้เสด็จโดยเครื่องบินพระที่นั่งถึงท่าอากาศยานสกลนคร
หลังจากนั้น ได้เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ เพื่อเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งได้เสด็จประทับอยู่ก่อนแล้ว
หลังจากได้ทรงพักผ่อนพระอิริยาบถตามสมควรแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ พระราชอิสริยยศในขณะนั้นได้นำเสด็จฯโดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปยังบ้านนานกเค้า และได้เสด็จฯ ถึงบ้านของนายวัง พันธุลา เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงบ้านนายวัง พันธุลา ผมได้ถวายความเคารพพร้อมกับกล่าวถวายรายงานเป็นภาษาอังกฤษตามที่ได้เตรียมการไว้ว่า “May It Please Your Majesty. I Am The Chief District Officer Of Muang Sakon Nakhon. My Name Is Chartri Direksri.”
หลังจากนั้น ทั้งสองพระองค์ให้ยื่นพระหัตถ์ให้ผมสัมผัสตามธรรมเนียมฝรั่ง
อาจารย์ศิริพร ภรรยาของผม ได้ทูลเกล้าฯ ถวายมาลัยกรแด่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และภรรยาผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองสกลนคร(พ.ต.อ.สุพจน์) ได้ทูลเกล้าฯ ถวายมาลัยกรแด่เจ้าฟ้าฟิลิป ดยุกแห่งเอดินเบอระ
ผมได้ยินเจ้าฟ้าฟิลิปฯ ตรัสถามผู้ทูลเกล้าฯ ถวายมาลัยกรแด่พระองค์ด้วยพระสุรเสียงเบาๆ ว่า “Hand made?” (ทำด้วยมือหรือ)
ต่อจากนั้น ผมได้ขอเบิกตัวนายวัง พันธุลา เจ้าของบ้านว่า “May I introduceMr.Wang Puntula, the owner of this house.”
นายวัง พันธุลา และภรรยาได้ก้มลงกราบแทบพระบาทของทั้งสองพระองค์ตามแบบธรรมเนียมไทย
หลังจากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้ทรงนำเสด็จฯทอดพระเนตรวิถีชีวิตชาวชนบทไทยภายใต้ถุนบ้านและบริเวณรอบบ้านของนายวัง พันธุลา พอได้สมควรแก่เวลาแล้ว ก็เสด็จพระราชดำเนินกลับพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ เพื่อพักผ่อนพระอิริยาบถตาม พระราชอัธยาศัยต่อไป
...เมื่อปีพ.ศ.2539 ซึ่งเป็นปีแห่งการฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พร้อมด้วยเจ้าฟ้าฟิลิป ดยุกแห่งเอดินเบอระ ได้เสด็จพระราชดำเนินจากกรุงลอนดอนเยือนราชอาณาจักรไทย รวมทั้งจังหวัดสกลนคร ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม -1 พฤศจิกายน 2539 ผมในฐานะนายอำภอเมืองสกลนครในขณะนั้น ได้มีโอกาสถวายการต้อนรับในวโรกาสเสด็จพระราชดำเนินเพื่อทอดพระเนตรวิถีชีวิตของชาวชนบทไทย ณ บ้านของนายวัง พันธุลา บ้านนานกเค้า ตำบลห้วยยาง อำเภอเมืองสกลนคร เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2539
เหตุการณ์ดังกล่าว นับเป็นความทรงจำที่ดีอย่างหนึ่งของผม จนยากที่จะลืมได้ และผมก็เชื่อว่า เป็นบุญวาสนาอย่างหนึ่งของผม ที่ได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งนายอำเภอเมืองสกลนครในช่วงเวลานั้นพอดี จึงได้มีโอกาสดังกล่าวอันเป็นสิริมงคลอันสูงสุดในชีวิตครั้งหนึ่งของผมและครอบครัว...”
นี่คือบันทึกความทรงจำจากคนไทย ผู้อยู่ในเหตุการณ์จริง
เรื่องราวเหล่านี้ เป็นภาพเล็กๆ ที่ช่วยเติมเต็มความทรงจำและประวัติศาสตร์
ตอกย้ำถึงความผูกพันลึกซึ้งระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์ของทั้งสองราชอาณาจักรได้เป็นอย่างดี
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี