“ชีวิตคือการต่อสู้” ขณะนี้ประชาชนคนไทยกำลังเดือดร้อนทุกหัวระแหงเนื่องมาจากเศรษฐกิจที่ทรุดตัวลงอย่างเร็ว ทำให้เกิดวิกฤต “ข้าวยากหมากแพง” ทำให้หน่วยงานของรัฐจำเป็นต้องเข้มงวดกับการใช้จ่าย ข้าราชการที่เงินเดือนน้อยรายจ่ายมากกว่ารายรับต้องหางานนอกเวลามาสร้างรายได้เพิ่มเพื่อนำเงินมาดูแลครอบครัว...
มีข้าราชการบางคนจากหลายหน่วยงานที่ต้องลาออกจากปัญหาภาวะเงินเดือนน้อยรายจ่ายมากกว่ารายรับเพื่อมาหาอาชีพอิสระในการหารายได้นำเงินมาเลี้ยงครอบครัว ซึ่งในหน่วยงานเหล่านี้มีหน่วยงานของตำรวจรวมอยู่ด้วย... โดยตำรวจที่ลาออกมาบางคนมีตำแหน่งเป็นถึงระดับสารวัตรกองปราบปราม ลาออกจากชีวิตตำรวจมาขับ “แกร็บนำเงินมาเลี้ยงครอบครัว” นอกจากนี้ยังมีนายตำรวจอีกหลายคนที่ต้องสลัดเครื่องแบบตำรวจทิ้งเพื่อมาทำการค้าเลี้ยงครอบครัวด้วยเหตุผลดังกล่าว คือ “เงินเดือนน้อยรายจ่ายมากกว่ารายรับ”
จากการสอบถามตำรวจหลายๆ คนที่ลาออกมาจากการเป็นตำรวจเพื่อมาเป็นพ่อค้า ประกอบธุรกิจของตัวเอง ขณะที่บางคนยึดอาชีพขายกับข้าวนานาชนิดใส่รถเข็นไปขายในบริเวณที่มีชุมชน ซึ่งเขาสามารถขายหมดทุกวันเป็นรายได้ที่พวกเขาพอใจ เป็นอาชีพอิสระและเป็นนายของตนเองไม่ต้องคอยประจบเจ้านายเพื่อขอขั้นขอยศขอตำแหน่ง ที่สำคัญพวกเขาภูมิใจในอาชีพที่พวกเขาเป็นนายของตนเอง ถ้าไม่ขยันก็ต้องอดเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเอง โดยไม่ต้องไปคอยกราบกรานคอยยืนรับคำสั่งจากใครทั้งสิ้น...
ทราบมาว่าขณะนี้หน่วยงานของ “ตำรวจ” ทั่วประเทศมีตำรวจลาออกจากราชการจำนวนหนึ่งเพื่อนำเงินที่เขาควรจะได้มาทำมาหากินได้รับเงินทุกวัน ที่สำคัญทำให้
พวกเขามีความใกล้ชิดครอบครัวมากขึ้น ทำให้พวกเขารู้ซึ้งถึงคำว่า “ครอบครัว” ซึ่งถ้าพวกเขารับราชการต่อไปเรื่อยๆ ชีวิตจะอยู่กับที่ไม่สามารถที่จะสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้ครอบครัวได้ เพราะในแต่ละวันพวกเขาจะต้องคอยรับใช้ผู้บังคับบัญชาไม่มีเวลาที่จะดูแลลูกๆ ของพวกเขาไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว พวกเขาคิดเสมอว่า ถ้าลาออกจากการเป็นข้าราชการจะได้เงินจำนวนหนึ่งมาสร้างครอบครัวและลงทุนค้าขาย หรือทำมาหากินในสิ่งที่ตนเองต้องการจะมีความสุขมากกว่าการใส่เครื่องแบบ...
สิ่งที่สำคัญลูกๆ ของพวกเขาจะได้มีความสุขมีพ่อแม่อยู่พร้อมหน้ากันตลอดเวลาไม่มีผู้บังคับบัญชามาคอยกดดัน จนกระทั่งไม่มีเวลาดูแลครอบครัวสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่สำคัญมากที่ครอบครัวต้องการความรักความอบอุ่นจากหัวหน้าครอบครัว... ขณะนี้ตำรวจที่รับราชการมีความคิดอย่างพวกเขากันมากเป็นความสุขที่สามารถหาได้เครื่องแบบเป็นตราประทับและเป็นข้อบังคับที่เราปฏิเสธไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าอยากเป็นอิสระเพื่อความสุขของครอบครัว เราไม่ควรจมปรักอยู่กับเครื่องแบบและเครื่องแบบจะไม่อยู่กับเราตลอดไป แต่ครอบครัวจะต้องอยู่กับเราตลอดไปจะแยกกันต่อเมื่อถึงเวลาที่เขากำหนดมาให้แล้ว นี่เป็นเพียงส่วนน้อยที่ข้าราชการตำรวจส่วนหนึ่งกำลังจะทิ้งเครื่องแบบออกมาเป็นหัวหน้าครอบครัวที่สมบูรณ์แบบต่อไป...สวัสดีครับ...
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี