วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ไม่ว่าผู้นำรัฐบาลไทยกี่ชุดก็ตามจะพยายามทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก แต่ก็ยังไม่เคยพบว่ารัฐบาลใดจะทำความฝันนั้นให้กลายเป็นจริงขึ้นมาได้ แม้กระทั่งเมื่อกว่า 20 ปีมาแล้วที่มีความเพ้อฝันว่าจะทำให้ไทยกลายเป็น NICs (Newly Industrialized Countries) แต่สุดท้ายแล้วเมื่อประเทศไทยกลายเป็นจุดอ่อนของเศรษฐกิจโลก เพราะเป็นต้นตอสำคัญของวิกฤตต้มยำกุ้ง ก็ทำให้ความเพ้อฝันเรื่องจะเป็น NICs พังทลายลงโดยพลัน เหลือเพียงความวิบัติของประเทศ
มาเมื่อสองสามปีที่ผ่านมา ประเทศไทย (และทั่วโลก) ต้องเผชิญวิกฤตโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจระลอกใหม่พร้อมกันทุกประเทศ และวิกฤตดังกล่าวก็ยังส่งผลกระทบด้านลบอย่างหนักมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะในกิจการด้านการท่องเที่ยวและบริการต่างๆ กลายเป็นคนไร้งานทำเกือบทั้งประเทศ
แต่ในวิกฤตเศรษฐกิจทั้งสองครั้งที่กล่าวมาในข้างต้นมีสิ่งหนึ่งที่ช่วยพยุง หรือเป็นเบาะกันกระแทกให้กับคนที่ประสบวิกฤต สิ่งนั้นคือการเกษตร หลายคนที่ตกงานแต่ทว่ายังมีที่ดินเป็นของตัวเองหรือของบรรพบุรุษ กลับไปใช้ชีวิตเป็นชาวไร่ชาวนา เป็นเกษตรกร ทำให้สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้ แม้จะไม่มีงานประจำทำเหมือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังสามารถมีกินมีใช้ มีที่อยู่อาศัยได้ ทำให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้ จนสุดท้ายหลายคนตัดสินใจไม่กลับเข้าไปทำงานประจำอีกต่อไป เพราะเห็นแล้วว่าการมีชีวิตอยู่กับท้องไร่ท้องนาทำให้มีชีวิตที่ดี มีอิสระ มีงาน มีเงิน และมีความอบอุ่นในครอบครัวมากกว่าการใช้ชีวิตแบบลูกจ้างทำงานประจำในเมืองใหญ่ๆ
กล่าวได้ว่าภาคการเกษตรช่วยบรรเทาวิกฤตเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ และยังช่วยทดแทนการสูญเสียรายได้ทางเศรษฐกิจได้อย่างดี ช่วยรองรับแรงงานที่ตกงานจากการถูกเลิกจ้างได้ ทำให้มีรายได้พอดำรงชีพ และยังสามารถเพิ่มรายได้จากการจำหน่ายสินค้าเกษตรอีกด้วย
แน่นอนว่าเมื่อวัดรายได้ของประเทศจากภาคอุตสาหกรรมเทียบกับภาคเกษตรกรรม จะพบว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศจากอุตสาหกรรมและภาคบริการมีมูลค่ามากกว่าจากภาคเกษตรกรรม แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าภาคเกษตรกรรมมีส่วนสำคัญในการรักษาสมดุล และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าในยามที่ประเทศประสบวิกฤตเศรษฐกิจ ตัวช่วยประการสำคัญตัวหนึ่งที่บรรเทาความรุนแรงของวิกฤตได้ก็คือภาคการเกษตร เพราะสามารถรองรับคนตกงานให้มีงานทำได้ และยังช่วยลดรายจ่ายของผู้ตกงานได้เป็นอย่างดี
เราไม่ปฏิเสธความจริงว่ารายได้สำคัญอันดับต้นๆของประเทศไทยในระยะ 4-5 ปีมานี้มาจากรายได้ภาคการท่องเที่ยวและบริการ และรายได้จากการส่งสินค้าออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ รวมถึงรายได้จากภาคอุตสาหกรรม แต่ก็ต้องไม่ลืมความจริงว่า เมื่อเราผลิตสินค้าอุตสาหกรรมเพื่อส่งออกมากเท่าไร เราก็ต้องสูญเสียเงินจำนวนมากเพื่อนำเข้าสินค้าที่จำเป็นต้องใช้ในการผลิตเพื่อส่งออก ดังนั้นแม้จะดูเสมือนว่ามีรายได้จากการส่งออกมากมาย แต่ก็ต้องสูญเสียเงินจำนวนมหาศาลเพื่อนำเข้าสินค้า เพราะเราไม่สามารถผลิตสินค้าทุกชนิดเพื่อส่งออกได้โดยลำพัง และยังต้องเสียเงินจำนวนมหาศาลเพื่อนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับภาคอุตสาหกรรม แล้วยังต้องเสี่ยงกับการถูกประเทศคู่ค้าเล่นเกมเตะสกัดด้วยการใช้มาตรการต่างๆ ทั้งด้านภาษีและด้านที่ไม่ใช่ภาษี เช่น การกำหนดโควตา หรือการใช้กลอุบายขัดขวางการนำเข้าโดยอ้างเรื่องสิทธิมนุษยชน การค้ามนุษย์ การปนเปื้อนสารเคมีและสารพิษต่างๆ รวมถึงข้ออ้างทางการเมือง เป็นต้น ทำให้ไทยไม่สามารถส่งออกสินค้าได้โดยง่ายดาย
ทางออกของปัญหาเศรษฐกิจที่เราสามารถนำมาแก้ปัญหาได้ด้วยตัวของเราเองก็คือ การกลับไปพึ่งพาการเกษตร แต่ต้องเป็นการเกษตรที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม เพื่อใช้ที่ดิน แรงงาน การบริหารจัดการ และเครื่องจักรกลให้นำไปสู่การผลิตเพื่อให้ผลิตภาพสูงสุด นำไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงสุดตามมา โดยเน้นการเพาะปลูกพืชเกษตรและสร้างผลผลิตการเกษตรที่ได้มาตรฐานตามความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

'อ.เจษฎ์'มาเอง! เปิด7ข้อเคลียร์ความเชื่อผิดๆปมดื่มนมไทย เปิดวาร์ปนมไทยที่เป็นนมโคแท้
'ปราชญ์ สามสี'ฟาด! 'พรรคส้ม' ใช้ 'สองมาตรฐาน' โจมตีกองทัพ แต่ปัดรับผิดคดีในพรรค
ผีตายยาก!เดอ ลิกต์ โขกทดเจ็บบุกแบ่งแต้มไก่
'กัน จอมพลัง' ควงลูกเมียเปิดใจน้ำตาซึม เผยความผิดพลาด เอาเวลาครอบครัวไปช่วยคนอื่น
'กัมพูชา'ขยับแรง! บุกทลาย2รังใหญ่แก๊งสแกมเมอร์ รวบผู้ต้องหากว่า600คนส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี