“ธันวาคม” เป็นเดือนที่มีวันสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพในระดับสากล อาทิ “วันเอดส์โลก” ตรงกับวันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปี โดย องค์การอนามัยโลก (WHO) ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2531 เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในการป้องกันโรคเอดส์ ลดจำนวนผู้ติดเชื้อ HIV รายใหม่และทำให้สังคมเข้าใจวิธีการอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อ HIV โดยไม่ตีตราเลือกปฏิบัติ ขณะเดียวกันยังมี “วันหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” ตรงกับวันที่ 12 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่ง องค์การสหประชาชาติ (UN) ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2555 ในการส่งเสริมให้ทุกประเทศจัดทำระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพและทุกคนเข้าถึงได้
สำหรับประเทศไทย ทั้ง 2 วันนี้มีความเชื่อมโยงกัน เนื่องจากไทยมีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ครอบคลุมประชาชนชาวไทยทุกคน ซึ่งรวมถึงบริการตรวจคัดกรองโรคและยาต้านไวรัสสำหรับผู้ติดเชื้อ HIV ทำให้การควบคุมโรคเอดส์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ล่าสุด ในวันที่ 11 ธ.ค. 2565 ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) ชื่นชมไทยที่สามารถเป็นผู้นำด้านการรับมือโรคเอดส์ระดับโลก ด้วยการเป็นประเทศที่ก้าวหน้าอย่างมากในการยุติการแพร่ระบาดของเชื้อ HIV
นอกจากนั้น ในปี 2559 ไทยยังได้รับการรับรองว่าสามารถขจัดการแพร่เชื้อ HIV จากแม่สู่ลูกได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและขณะนี้ได้ยังได้เข้าร่วมกับพันธมิตรระดับโลก (Global Partnership) เพื่อขจัดการตีตราและการเลือกปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับ HIV ในทุกรูปแบบโดยตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมาประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ลดลงเกือบ 2 ใน 3 ของอดีต หรือลดลงราวร้อยละ 65
ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงร้อยละ58 และข้อมูล ณ ปี 2564 พบว่าประมาณร้อยละ 94 ของผู้ติดเชื้อ HIV ในประเทศไทยทราบสถานะของตนเอง ร้อยละ 91
ของผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยอยู่ในระหว่างการรักษา และร้อยละ 97 ของผู้ที่ได้รับการรักษาประสบความสำเร็จในการยับยั้งไวรัส อีกทั้ง UNAIDS ยังชื่นชมไทยในประเด็นการเป็นผู้นำในการบูรณาการบริการ HIV เข้ากับโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งกลายเป็นกลไกที่ตอบสนองต่อการแก้ไขปัญหา HIV ที่ยั่งยืน
อีกด้านหนึ่ง ยังมีตัวอย่างในระดับพื้นที่ กับ “Huarin HIV Model” ซึ่งเป็นการจัดบริการดูแลผู้ป่วย HIV ที่ ต.ทุ่งสะโตก อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เป็นต้นแบบที่ คณะผู้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารของโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 51 (The 51st UNAIDS Programme Coordinating Board Meeting : PCB) ซึ่งมาประชุมกันที่จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 13-16 ธ.ค. 2565 เดินทางไปเยี่ยมชมในวันที่ 12 ธ.ค. 2565 หรือ 1 วันก่อนหน้าการประชุม
วราภรณ์ รัตนาวิบูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) บ้านหัวรินต.ทุ่งสะโตก เปิดเผยว่า ในพื้นที่มีผู้ป่วย HIV จำนวน 69 ราย โดยมีผู้ป่วยที่รับยาผ่าน Drop in Center ของ รพ.สต.บ้านหัวริน จำนวน 23 ราย ซึ่งในส่วนนี้ได้รับการสนับสนุนด้านยาต้านไวรัสตามสิทธิประโยชน์หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทำให้ผู้ป่วย HIV สามารถรับการรักษาได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วนอีก 42 ราย จะรับยาที่โรงพยาบาลสันป่าตอง และอีก 4 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังไม่ได้รับการรักษา
สำหรับการดูแลผู้ป่วย HIV ในพื้นที่ ทาง รพ.สต.บ้านหัวริน มีจุดเด่นอยู่ที่การแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการ โดยใช้ความร่วมมือของภาคีเครือข่ายตั้งแต่ในระดับชุมชนไปจนถึงระดับอำเภอ ทั้งภาครัฐภาคเอกชน ภาคประชาชน ผู้นำศาสนา และผู้นำชุมชน จนเกิดเป็นเครือข่ายบริการสุขภาพ และดำเนินการผ่านแผน Huarin HIV Model โดยได้ปฏิบัติร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2563 ทั้งนี้ แผนดังกล่าวจะถูกแบ่งออกเป็น 5 ขั้น ประกอบด้วย 1.ระดับครอบครัว เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมให้ผู้ป่วย HIV ได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากครอบครัว
2.ระดับกลุ่ม (หรือชุมชน) ของผู้ป่วย HIVโดยเป็นการทำให้ผู้ป่วยเข้าสังคมมากขึ้น และต่อยอดไปสู่การสร้างอาชีพ 3.ระดับเจ้าหน้าที่ เช่น Care giver อาสาสมัครประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ติดเชื้อ HIV มีส่วนมีบทบาทในการดูแลสุขภาพคนในชุมชน เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อ 4.ระดับตำบล โดยดำเนินการผ่านคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิต (พชอ.) ในการช่วยเหลือ และสร้างเสริมคุณภาพชีวิต และ 5.ระดับอำเภอ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันทั้งเครือข่ายในการแก้ไขปัญหาระบบสุขภาพในภาพใหญ่
“จากการดำเนินการตามแผนนี้ ต้องบอกว่าตอบโจทย์มาก เพราะปัจจุบันไม่มีการตีตราและกีดกันในสังคม ผู้ป่วย HIV สามารถอยู่ร่วมกันกับประชาชนทั่วไปได้ เกิดการยอมรับ เวลามารับยาที่คลินิกก็ไม่มีการแบ่งแยกว่าผู้ป่วย HIV ต้องมาวันนี้ แต่สามารถมารับยาพร้อมกับผู้ป่วยทั่วไปได้ แล้วก็ผู้ป่วยทั่วไปก็พร้อมให้ผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีบทบาทในการดูแลรักษา เช่นCare giver ให้การรักษากับเขาได้ปกติ” วราภรณ์ กล่าว
พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู รองผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 1 เชียงใหม่ กล่าวว่า ที่ รพ.สต.บ้านหัวริน นอกจากจะมีความโดดเด่นในเรื่องการจัดบริการการดูแลผู้ป่วย HIV ผ่านการทำงานร่วมกับชุมชน รวมถึงสถาบันทางศาสนาอย่างวัดหัวริน ในการลดดการตีตรา และเลือกปฏิบัติกับผู้ป่วยแล้ว ยังเป็นศูนย์บริการด้าน HIV ที่ให้บริการอย่างครบวงจร ตั้งแต่การค้นหาผู้ป่วยไปจนถึงการนำเข้าระบบการรักษา
“ในส่วนของ สปสช. ได้มีการสนับสนุนในเรื่องสิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ในการจัดบริการ เช่น การให้ยาต้านไวรัสกับผู้ติดเชื้อ HIV การตรวจเชื้อ HIV ฟรี การตรวจไวรัลโหลดตามกำหนด การติดตามผลเลือดที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ รวมถึงเรื่องการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (P&P) ในการตรวจเชิงรุกให้กับทั้งหน่วยบริการของรัฐ และภาคประชาสังคมเพื่อให้กลุ่มเสี่ยงเข้าถึงการตรวจ และรับการรักษาได้ทันท่วงที” พญ.วลัยรัตน์ กล่าว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี