วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เขียนให้คิด
เขียนให้คิด

เขียนให้คิด

เฉลิมชัย ยอดมาลัย
วันอาทิตย์ ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
ทำลายอัตลักษณ์ แต่อ้างว่าสร้างสรรค์

ดูทั้งหมด

  •  

ประเด็นที่ไม่เล็ก แต่ทว่าไม่ค่อยมีคนทั่วไป แม้กระทั่งคนในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเองก็ตาม ไม่ให้ความสนใจคือ การ Rebranding(การเปลี่ยนโฉม การแปลงโฉม) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นที่คนผู้ซึ่งรู้ประวัติความเป็นมาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอย่างลึกซึ้งถึงแก่น ต่างตั้งคำถามว่า เหตุใดต้อง Rebranding จุฬาฯ แล้วคนที่เสนอตัวเป็นผู้ Rebrandingจุฬาฯ นั้น แน่ใจหรือว่าตนเองมีความรู้ลึกซึ้งว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคืออะไร


ส่วนคนที่อนุมัติให้ Rebranding จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้นแน่ใจจริงๆ หรือว่าตนเองมีความรู้ และเข้าใจความเป็นมาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อย่างแท้จริง

การเป็นผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำเป็นต้องคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ ถี่ถ้วน และรอบด้าน ต้องพิจารณาถึงผลดี และผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับจุฬาฯ ให้ถ่องแท้ เพราะการเป็นผู้บริหารจุฬาฯ ไม่ได้หมายความว่าตนเองจะสามารถทำอะไรแบบส่งเดช สักแต่ว่าทำๆ ไปเท่านั้น ผู้บริหารจุฬาฯ ต้องมีความสำเหนียกและตระหนักรู้ว่า ตนเองนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของประชาคมจุฬาฯ ดังนั้น เมื่อจะทำอะไรที่ส่งผลเสียต่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็จำเป็นต้องไถ่ถามความเห็นจากสมาชิกของประชาคมจุฬาฯ ก่อน มิใช่คิดว่าตนเองมีอำนาจ เพราะมีตำแหน่งผู้บริหาร ก็ทำส่งเดชไป จนก่อให้เกิดความสับสนอลหม่าน และความเสียหายต่อภาพรวมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ผู้บริหารจุฬาฯ เคยถามตัวเองบ้างไหมว่า เข้าไปรับตำแหน่งผู้บริหารเพราะเหตุผลอะไร เข้าไปเพื่อทำลาย หรือสร้างสรรค์ เข้าไปเพราะต้องการสร้างผลประโยชน์ให้กับจุฬาฯ หรือเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเอง

ผู้บริหารจุฬาฯ เคยถามตัวเอง และเคยถามสมาชิกประชาคมจุฬาฯ และสาธารณชนที่มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยหรือไม่ว่า จำเป็นต้อง Rebranding จุฬาฯ หรือไม่ 

ผู้บริหารจุฬาฯ ต้องตอบสาธารณชนให้ได้ว่า จุฬาฯ ตกต่ำมากมายเสียจนต้อง Rebranding จุฬาฯ กระนั้นหรือ ที่ผ่านมานั้น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีความเสียหาย มีตราบาป มีจุดด่างพร้อย มีรอยมลทินใดหรือ จึงต้อง Rebranding จุฬาฯ

แล้วการอ้างว่า Rebranding จุฬาฯ คือการเปลี่ยนแปลงตราพระเกี้ยวให้ดูแปลกประหลาด พิสดาร ไปจากตราพระเกี้ยวเดิม เท่านั้นหรือ การเปลี่ยนแปลงตราพระเกี้ยวคือการ Rebranding จุฬาฯ หรือ หรือว่าผู้บริหารจุฬาฯ เข้าใจด้วยระดับสติปัญญาของตนเองว่า นี่คือการ Rebranding จุฬาฯ

คนที่มีสติปัญญาพอสมควรต่างรู้ดีว่าการเปลี่ยนแปลงถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาของโลก แต่ขณะเดียวกันก็รู้ดีด้วยว่า เรื่องบางเรื่องนั้นไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง และไม่ควรเปลี่ยนแปลง แต่จำเป็นอย่างมากที่จะต้องเก็บรักษาของเดิม เอกลักษณ์เดิม รากเหง้าเดิมของตนเองไว้ เพราะมันคือเครื่องบ่งบอกความแตกต่างระหว่างความเป็นผู้มีรากเหง้ากับผู้ไร้ราก

การเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ตนเองไม่มีความรู้ ไม่มีความเข้าใจ และไม่มีความลึกซึ้งในสิ่งที่ตนเองบังอาจเข้าไปเปลี่ยนแปลง ย่อมแสดงให้สาธารณชนเห็นได้ชัดว่า ผู้กระทำในเรื่องนั้นๆ มีระดับสติปัญญาอันชาญฉลาดลึกล้ำหรือตื้นเขินไร้ปัญญา

ข้ออ้างที่ว่าเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ดูง่ายขึ้น นับเป็นข้ออ้างดาษๆ ของคนที่ดูเสมือนว่ามีปัญญา แต่ทว่าแท้จริงแล้ว ไม่น่าจะมีปัญญา 

มีคำถามว่าทำไมจึงต้องเปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยใช้ข้ออ้างว่าเพื่อให้ดูง่ายขึ้น ถ้าอ้างเช่นนั้นก็ต้องถามต่อไปว่า การคงตราสัญลักษณ์เดิมไว้ ทำให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเชย เฉิ่ม ไร้รสนิยม หรืออย่างไร แล้วเมื่อเปลี่ยนตราสัญลักษณ์แล้ว จุฬาฯ มีความทันสมัย ล้ำยุคมากขึ้น หรือเป็นที่นิยมศรัทธาของคนทั่วไป มากขึ้นกระนั้นหรือ

พระเกี้ยว คือ ตราสัญลักษณ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้รับพระราชทานมาจากพระมหากษัตริย์ผู้พระราชทานกำเนิดให้สถาบันการศึกษาแห่งนี้ ตั้งแต่ก่อนจะได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในกาลต่อมา ดังนั้นจึงถือได้ว่าตราพระเกี้ยวประจำจุฬาฯ คือตราพระราชทาน 

ดังนั้น ผู้ที่กระทำการใดๆ ต่อตราพระเกี้ยว จึงจำเป็นต้องสำเหนียกอยู่ตลอดเวลาต้องถวายความเคารพต่อพระมหากษัตริย์ด้วย แล้วต้องเข้าใจด้วยว่า ตราพระเกี้ยวไม่ใช่ตราสินค้าทั่วไปที่วางจำหน่ายในท้องตลาด เพราะจุฬาฯ ไม่ใช่สินค้า แม้จะมีคนที่อยู่ในภาคการตลาดบางคนจะเข้าใจเอาเองว่าจุฬาฯ คือสินค้า 

ถามว่าคนที่มีความประสงค์จะเข้าไปศึกษาต่อในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองจุฬาฯ ว่าเป็นสินค้าหรือ การเลือกเข้าไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยอาจจะดูเสมือนการเลือกซื้อสินค้า แต่ก็ต้องถามอีกครั้งว่า ตกลงแล้ว จุฬาฯ คือสินค้า กระนั้นหรือ 

หากจุฬาฯ เป็นสินค้าตามความเข้าใจของคนในภาคการตลาด ก็คงต้องทำ promotion ลด แลก แจก แถม ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง หรือให้ทดลองใช้สินค้าก่อนจะจ่ายเงินซื้อ ใช่หรือไม่ 

ที่ผ่านมานั้น จุฬาฯ วางตำแหน่งของตัวเองไว้ว่าเป็นสินค้ากระนั้นหรือ หากจุฬาฯ เป็นสินค้าจริงๆ ตามความคิดของคนการตลาด ก็ต้องถามต่อไปว่าสินค้าตัวนี้มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของผู้คนทั่วไปมากน้อยเพียงใด คนทั่วไปไม่สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้ หากขาดสินค้าตัวนี้ เช่นนั้นหรือ จุฬาฯ ต้องแย่งชิงลูกค้า เพื่อให้ตัวเองกลายเป็นสินค้ายอดนิยม ด้วยการเปลี่ยนตราสัญลักษณ์ของตัวเอง เช่นนั้นหรือ 

ที่ผ่านๆ มานั้น คนทั่วไปไม่รู้บ้างเลยหรือว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคืออะไรหรือ มีหน้าที่อะไร มีพันธกิจสำคัญอะไร แล้วคนทั่วไปไม่รู้เลยหรือว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีจุดเด่น มีความแตกต่างจากมหาวิทยาลัยอื่นๆ อย่างไร

ถ้าถามด้วยภาษาของนักการตลาด ก็ต้องถามว่า Brand จุฬาฯ ในอดีตไม่เป็นที่รู้จักของคนไทย และคนต่างชาติเลยกระนั้นหรือ เวลาคนทั่วไปได้ยินคำว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แล้วเขาเกิดความสับสนกับBbrand สินค้าตัวไหนหรือ ความเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ผ่านมาเกิน 1 ศตวรรษไม่เป็นที่รับรู้รับทราบของสาธารณชนเลยกระนั้นหรือ 

จำเป็นหรือที่สถาบันอุดมศึกษาที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทยต้องได้รับการ Rebranding จากเด็กเมื่อวานซืน เด็กที่ไม่สามารถตอบกับสาธารณชนได้ว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคืออะไร มีจุดเด่นในเรื่องใด มีความสำคัญต่อสังคมมากเพียงใด 

น่าสมเพชเสียเหลือเกินที่ประชาคมจุฬาฯ ยอมให้เด็กเมื่อวานซืนเข้ามากระทำการอันเปรียบเสมือนกระทำย่ำยีต่อจุฬาฯ หากการเปลี่ยนตราพระเกี้ยวแล้วทำให้จุฬาฯ ดีขึ้นจนติดอันดับมหาวิทยาลัย Top Ten ของโลกได้จริงๆ มหาวิทยาลัยอื่นๆ ทั่วโลกเขาคงเปลี่ยนตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยของเขากันไปหมดแล้ว

การแสดงอาการร้อนวิชา ชิงสุกก่อนห่ามของคนที่ไม่ประสาต่อโลกไม่เคยทำให้สังคมดีขึ้น แต่กลับจะทำให้เกิดความวิบัติบรรลัยมากกว่า ขอย้ำว่าการเปลี่ยนตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยไม่เคยทำให้คุณภาพของมหาวิทยาลัยดีขึ้น ไม่เคยทำให้คุณภาพทางวิชาการของมหาวิทยาลัยดีขึ้นไม่เคยทำให้คนที่มีความประสงค์จะเข้าไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเพิ่มจำนวนขึ้น 

ตราสัญลักษณ์ หรือ Brand คือสิ่งที่ช่วยทำให้คนทั่วไปมองเห็นแล้วเข้าใจได้โดยง่ายว่าสินค้าตัวนั้นคืออะไร ธุรกิจนั้นคืออะไร จำหน่ายสินค้าอะไร สินค้าแตกต่างไปจากสินค้าของเจ้าอื่นๆ อย่างไร เพราะฉะนั้นสินค้าจึงจำเป็นต้องมี Brand มีชื่อ มีตราสัญลักษณ์ หรือ Trademark และมีสีประจำ รวมทั้งมีคำขวัญหรือ slogan เพื่อให้คนที่เป็นลูกค้าจดจำได้ดี และนึกถึงอยู่ตลอดเวลา 

แน่นอนว่า Branding มีความสำคัญต่อสินค้ามาก เพราะทำให้สินค้าเป็นที่รับรู้ของสาธารณชนได้ดี การที่สาธารณชนจะจดจำ Brand ได้ ต้องใช้เวลานาน แต่เมื่อลูกค้าจดจำ Brand ได้แล้ว ก็ทำให้พอจะมั่นใจได้ว่าสินค้าตัวนั้นจะเป็นที่รับรู้ และอยู่ในความทรงจำ รวมถึงจะเป็นที่นิยมของลูกค้าไปอีกนานแสนนาน จนกว่าลูกค้าจะเลิกให้ความสำคัญและเลิกเชื่อถือในคุณภาพของสินค้าตัวนั้น ซึ่งนั่นก็หมายถึงกาลอวสานของสินค้าดังกล่าว

ยังคงย้ำเหมือนเดิมว่า ประชาคมจุฬาฯ ไม่เคยคิดว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นสินค้าที่ต้องเร่ขายตัวเองตามท้องตลาด แต่เป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูงที่ผู้คนจำนวนไม่น้อยให้ความเชื่อมั่นศรัทธา และต้องการเข้าไปศึกษา เพราะมีความเชื่อมั่นในคุณภาพการศึกษาที่จะได้รับจากจุฬาฯ เพราะฉะนั้นตราพระเกี้ยวจึงไม่ใช่ตราสินค้า แล้วก็ไม่จำเป็นต้อง Rebranding จุฬาฯ เพราะจุฬาฯ ไม่ได้ต้องการเปลี่ยนพันธกิจของตนเอง จุฬาฯ ไม่ได้สอนหนังสือ เลิกทำวิจัย เลิกอบรมด้านวิชาการในแขนงต่างๆ 

การ Rebranding เกิดมาจากสาเหตุหลักๆ ต่อไปนี้

1 Brand เดิมไม่สามารถเป็นที่รับรู้ จดจำ และนิยมของลูกค้าได้อีกต่อไป

2 ธุรกิจเดิมต้องการเปลี่ยนแปลงสินค้า ต้องการหาลูกค้าใหม่ๆ และตัองการพัฒนาสินค้าตัวใหม่

3 ผู้คนทั่วไปไม่รู้จัก Brand เดิมอีกต่อไป หรือ Brand เดิมไม่เป็นที่เชื่อมั่นศรัทธาของลูกค้าอีกแล้ว

4 Brand เดิมที่ใช้อยู่มีผู้ทำ Brand เลียนแบบ จนทำให้ผู้คนสับสนว่า Brand ไหนคือของดั่งเดิม หรือ Brand ไหนทำขึ้นมาเพื่อเลียนแบบ

จากเหตุผลเพื่อการ Rebranding ดังกล่าวในข้างต้น ทำให้มีคำถามว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาแห่งแรกของประเทศไทย ที่มีอายุเกิน 1 ศตวรรษ มีความจำเป็นต้อง Rebranding กระนั้นหรือ แล้วการ Rebranding แค่การเปลี่ยนตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัย จะทำให้จุฬาฯ ได้รับความนิยมจากผู้ที่สนใจศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษามากขึ้นอย่างล้มหลาม มีชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาเรียนในจุฬาฯ มากขึ้น หรือทำให้นักเรียนไทยทุกคนต้องมุ่งหน้าเข้าไปเรียนที่จุฬาฯ ทั้งประเทศจริงหรือ 

อันที่จริง คนที่พยายามจะ Rebranding จุฬาฯ จำเป็นต้องถามตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกว่า เลือกเรียนที่จุฬาฯ ด้วยเหตุผลใด แล้วการที่ไปลอกเลียนแนวคิด Rebranding มาจากที่อื่น แล้วพยายามยัดเยียดให้เกิดการ Rebranding จุฬาฯ มันทำให้จุฬาฯ ดีขึ้น หรือทำเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเอง โดยไม่ได้คำนึงว่ามันส่งผลเสียหายร้ายแรงต่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

จงจำไว้ว่าการ Rebranding ไม่ใช่แค่เพียงการเปลี่ยนชื่อให้ดูพิสดารโดยใช้ภาษาที่หาคำแปลไม่ได้ แล้วเปลี่ยนการแต่งตัวโดยลอกเลียนแบบการแต่งตัวของผู้อื่น หรือการเปลี่ยนหน้าตาด้วยการทำศัลยกรรมจนผิดเพี้ยนไปจากหน้าเดิมที่มีมาโดยกำเนิด หากการRebranding ทำได้เพียงเท่านั้น ขอแนะนำให้คนคิดเรื่อง Rebrandingไปเกิดใหม่เสียดีกว่า เพราะอยู่ต่อไปก็ไม่ได้ทำให้คุณค่าของตนเองเพิ่มมากขึ้น แล้วจงสำเหนียกด้วยว่า การสร้างสรรค์เกิดจากสติปัญญาที่ลึกซึ้ง หาได้เกิดจากการลอกเลียนแบบ หรือการสร้างภาพ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
18:00 น. (คลิป) เมื่อกล้องวงจรปิด 'ชั้น14และบ้านจันทร์ส่องหล้า' เสียพร้อมกัน นอนบ้านไม่ได้นอนชั้น14 ด้วยหรือไม่
17:57 น. KNU ประกาศชัยชนะตีฐานทหารเมียนมาตรงข้ามช่องทางพุน้ำร้อนเมืองกาญจน์แตกกระเจิง
17:53 น. คดี‘ชั้น 14’พ้นพิษ! ‘บิ๊กต่าย’สั่งกองวินัยเตรียมสอบ‘หมอ รพ.ตำรวจ’
17:50 น. ได้โอกาสส่งออก! ‘อินโดนีเซีย’เผยปี’68คาดผลผลิตข้าวเหลือเกินบริโภคในปท.
17:32 น. 'DSI'ลงนามด่วนถึง'ผบ.ตร.-ปลัด มท.' ร่วมมือสอบสวนเอาผิดฟอกเงินคดีฮั้วเลือก สว.
ดูทั้งหมด
ภาพอบอุ่นใจความรักที่งดงามของ 'กษัตริย์จิกมี-สมเด็จพระราชินี-เจ้าชาย-พระธิดา' ในยามค่ำคืนของทะเลทรายโกบี
(คลิป) 'ฐปณีย์' เละคาบ้าน! ด้อยค่าคนไม่เห็นด้วย 'เมียจ่าปืน' ออกโรงตอกกลับไม่ใช่ IO
‘ลาออก’ไปเถอะ! ฉะ‘นายกฯ’มีสติปัญญาแค่นี้ แผ่นเสียงตกร่องชู‘กาสิโน’แก้เศรษฐกิจ
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 4-10 พ.ค.68
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
ดูทั้งหมด
อวสาน‘ทักษิณ’คุกรออยู่
ความต่างของ สิงคโปร์ กับ ไทย
คุกนรก (1)
นักการเมือง ‘ส้มสารพิษ’
บุคคลแนวหน้า : 9 พฤษภาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

(คลิป) เมื่อกล้องวงจรปิด 'ชั้น14และบ้านจันทร์ส่องหล้า' เสียพร้อมกัน นอนบ้านไม่ได้นอนชั้น14 ด้วยหรือไม่

ได้โอกาสส่งออก! ‘อินโดนีเซีย’เผยปี’68คาดผลผลิตข้าวเหลือเกินบริโภคในปท.

ปตท. ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติส่วนเพิ่มแหล่งอาทิตย์เสริมความมั่นคงพลังงานไทย

'DSI'ลงนามด่วนถึง'ผบ.ตร.-ปลัด มท.' ร่วมมือสอบสวนเอาผิดฟอกเงินคดีฮั้วเลือก สว.

ไม่ปล่อยให้ผ่านมือ!'รอง ผกก.สืบฯฮีโร่'ขับรถกลางดึกเจอโจรผัวเมียงัดตู้เติมเงินจับทันที

ครั้งประวัติศาสตร์!อังกฤษลุยถ้วยใหญ่ยุโรป6ทีม

  • Breaking News
  • (คลิป) เมื่อกล้องวงจรปิด \'ชั้น14และบ้านจันทร์ส่องหล้า\' เสียพร้อมกัน นอนบ้านไม่ได้นอนชั้น14 ด้วยหรือไม่ (คลิป) เมื่อกล้องวงจรปิด 'ชั้น14และบ้านจันทร์ส่องหล้า' เสียพร้อมกัน นอนบ้านไม่ได้นอนชั้น14 ด้วยหรือไม่
  • KNU ประกาศชัยชนะตีฐานทหารเมียนมาตรงข้ามช่องทางพุน้ำร้อนเมืองกาญจน์แตกกระเจิง KNU ประกาศชัยชนะตีฐานทหารเมียนมาตรงข้ามช่องทางพุน้ำร้อนเมืองกาญจน์แตกกระเจิง
  • คดี‘ชั้น 14’พ้นพิษ! ‘บิ๊กต่าย’สั่งกองวินัยเตรียมสอบ‘หมอ รพ.ตำรวจ’ คดี‘ชั้น 14’พ้นพิษ! ‘บิ๊กต่าย’สั่งกองวินัยเตรียมสอบ‘หมอ รพ.ตำรวจ’
  • ได้โอกาสส่งออก! ‘อินโดนีเซีย’เผยปี’68คาดผลผลิตข้าวเหลือเกินบริโภคในปท. ได้โอกาสส่งออก! ‘อินโดนีเซีย’เผยปี’68คาดผลผลิตข้าวเหลือเกินบริโภคในปท.
  • \'DSI\'ลงนามด่วนถึง\'ผบ.ตร.-ปลัด มท.\' ร่วมมือสอบสวนเอาผิดฟอกเงินคดีฮั้วเลือก สว. 'DSI'ลงนามด่วนถึง'ผบ.ตร.-ปลัด มท.' ร่วมมือสอบสวนเอาผิดฟอกเงินคดีฮั้วเลือก สว.
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ปากแจ๋ว ปากพล่อย อ้างวิชาการบังหน้า

ปากแจ๋ว ปากพล่อย อ้างวิชาการบังหน้า

4 พ.ค. 2568

ประเทศวิบัติ เพราะนักการเมืองโง่มีอำนาจรัฐ

ประเทศวิบัติ เพราะนักการเมืองโง่มีอำนาจรัฐ

27 เม.ย. 2568

อันวาร์, มิน อ่อง หล่าย, ทักษิณ และแพทองธาร

อันวาร์, มิน อ่อง หล่าย, ทักษิณ และแพทองธาร

20 เม.ย. 2568

แพทองธารไม่เห็นปัญหา reciprocal tariff

แพทองธารไม่เห็นปัญหา reciprocal tariff

13 เม.ย. 2568

แก้ปัญหา US tariff ด้วยสติปัญญาของแพทองธาร!!!

แก้ปัญหา US tariff ด้วยสติปัญญาของแพทองธาร!!!

6 เม.ย. 2568

แผ่นดินไหว ภัยพิบัติที่รัฐบาลไทยไม่เคยเตรียมตัว

แผ่นดินไหว ภัยพิบัติที่รัฐบาลไทยไม่เคยเตรียมตัว

30 มี.ค. 2568

ดูเตอร์เต-ทักษิณ ความเหมือนที่ต่างกันกับสงครามปราบยาเสพติด

ดูเตอร์เต-ทักษิณ ความเหมือนที่ต่างกันกับสงครามปราบยาเสพติด

23 มี.ค. 2568

ทักษิณ ชินวัตร กลัวถูกซักฟอกกลางสภา แต่อยากมีอำนาจการเมือง

ทักษิณ ชินวัตร กลัวถูกซักฟอกกลางสภา แต่อยากมีอำนาจการเมือง

16 มี.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved