ในแวดวงการเมืองร่วมสมัยได้เกิดศัพท์ภาษาอังกฤษใหม่ขึ้นมาคือ คำว่า Princelings (พรินเซลิ่ง) ซึ่งเป็นคำที่บัญญัติขึ้นมาให้กับบรรดาลูกหลานของผู้นำจีนในพรรคคอมมิวนิสต์ ที่อยู่ในฐานะที่เป็นกลุ่มอภิสิทธิ์ชน ที่มีโอกาสในการเติบใหญ่ขึ้นมาในแวดวงการเมืองของจีน ทั้งในระดับพรรค และในระดับรัฐบาลมากกว่าเด็กจีนในวัยเดียวกันโดยทั่วไป
ตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ซึ่งปัจจุบันควบตำแหน่งเลขาธิการพรรค และประธานคณะกรรมาธิการทหารด้วย โดยมีบิดาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของวงการการเมืองจีน ที่แม้ว่าช่วงหนึ่งจะถูกคลื่นของการปฏิวัติสังคมซัดให้ไปตกระกำลำบากในสมัย เหมา เจ๋อตุง แต่ก็ยังได้รับการเรียกตัวกลับมาใช้งาน จนเป็นใหญ่ในช่วงของ เติ้ง เสี่ยวผิง
ตัวประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เองก็ผ่านชะตากรรมที่ตกต่ำอยู่พักหนึ่ง ก่อนได้กลับมาเข้าเรียนและไต่เต้าขึ้นมาตามตำแหน่งเส้นทางอำนาจของพรรคดังที่ทราบกันดีอยู่ ส่งผลให้ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ถูกนับเป็นหนึ่งในกลุ่ม Princelings นี้ โดยคำว่า The Princelings นี้ ก็อาจจะแปลเป็นภาษาไทยได้หลายอย่างด้วยกัน เช่น
- เจ้าหญิง เจ้าชายน้อย แห่งกลุ่มอิทธิพล หรืออภิสิทธิ์ชน
- กลุ่มลูกท่านหลานเธอ
- กลุ่มมีเส้นมีสาย
- กลุ่มมีผู้อุปถัมภ์ค้ำชู และปกป้อง
- กลุ่มเจ้าขุนมูลนาย เป็นต้น
กลุ่มอภิสิทธิ์ชนทางแวดวงการเมืองนั้น เป็นเรื่องธรรมดาของสังคมมนุษย์โดยทั่วไปที่มีความแตกต่างและเหลื่อมล้ำ ไม่ว่าสังคมนั้นๆ จะมีโครงสร้างและรูปแบบทางการเมืองอย่างไร เพราะเรื่องการอุปถัมภ์ และการมีและการใช้เส้นสาย หรือการสร้างเครือข่ายเพื่อค้ำจุน หรือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องการที่จะรักษาและเสริมสร้างกลุ่มและหมู่เหล่าของตนไว้
ในสังคมไทยก็มิได้แตกต่างไปจากสังคมหรือประเทศอื่นๆ เพราะไทยเราก็มีกลุ่ม The Princelings เช่นกัน ทั้งรุ่นใหม่ล่าสุด และรุ่นเก่าหน่อย และเก่ามาก ดังจะเห็นได้จากผู้ที่กำลังอยู่ในสนามการเมืองของไทย โดยดูได้จาก “นามสกุล” และจากท้องถิ่นที่ครอบครัวตั้งอยู่และเติบโตมา
ชื่อที่โดดเด่นที่สุดในวันนี้คงจะไม่มีใครเกิน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และตามมาด้วย นางสาวชนม์ทิดา อัศวเหม,นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์, นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์, นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ, นางสาวจิตภัสร์ กฤดากร (ภิรมย์ภักดี) ไปจนถึง
นายสุรบถ หลีกภัย เป็นต้น ซึ่งต่างจัดได้ว่าเป็นกลุ่ม Princelings รุ่นใหม่และล่าสุด ส่วนกลุ่มที่มีอายุมากกว่าหน่อยคือ บรรดาลูกๆ หลานๆ ในตระกูลศิลปอาชา ตระกูลคุณปลื้ม ตระกูลอัศวเหม ตระกูลชิดชอบ ตระกูลเทียนทอง ตระกูลคงอุดม ตระกูลชาญวีรกูลตระกูลกลิ่นประทุม ตระกูลอยู่บำรุง เป็นต้น
ทั้งนี้ก็ยังมีอีกหลายๆ ตระกูลที่เติบใหญ่อยู่ในระดับจังหวัด และกำลังหาช่องทางหรือเพียรพยายามที่จะเข้ามาเติบใหญ่ในการเมืองในระดับชาติ โดยฝ่ายบิดา มารดา ต่างเริ่มปูทางทางการเมืองให้แก่ลูกหลานในครอบครัวเอาไว้
การมี และการใช้เส้นสาย เป็นเรื่องที่ห้ามได้ยากลำบาก ก็เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ “พวกเดียวกัน ก็ต้องร่วมด้วยช่วยกัน”ดังกล่าวนั่นเอง
แต่ประเด็นก็คือ เมื่อมีอำนาจหน้าที่แล้วจะใช้มันอย่างไร? และเพื่อใคร?
คำตอบก็ขึ้นอยู่กับสติปัญญา ความรู้ผิดชอบ หรือจิตสำนึกของแต่ละคน โดยเฉพาะเมื่อผู้ใดเกิดขึ้นมา แล้วได้เปรียบกว่าคนอื่น ก็เป็นธรรมดาที่สังคมจะต้องเรียกร้องให้บรรดา The Princelings ทั้งหลาย ต้องอุทิศตนให้กับบ้านเมืองเป็นสำคัญ แต่ที่ผ่านๆ มาก็ดูเสมือนว่ากลุ่ม Princelings เหล่านี้ยังไม่มีใครลงดินและไม่ติดดิน ก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นจากแวดล้อมของความสุขสบายต่างๆ ออกมาเป็นนักเคลื่อนไหวและนักต่อสู้เพื่อสังคม เพื่อความยุติธรรม และเพื่อความเสมอภาคได้ แต่สังคมก็ยังรออยู่ว่า จะมีผู้ใดได้สติและกลับใจกลับเนื้อกลับตัว
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี