วันพฤหัสบดี ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เขียนเพื่อคิด
เขียนเพื่อคิด

เขียนเพื่อคิด

กษิต ภิรมย์
วันพุธ ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
มาตรการกำแพงภาษีของทรัมป์ จะเป็นคีโมรักษาหรือฆ่าเศรษฐกิจอเมริกัน?

ดูทั้งหมด

  •  

หลังจากจีนสวนสหรัฐฯด้วยการตั้งกำแพงภาษีสินค้าสหรัฐฯ 34% อย่างเท่าเทียม ทำให้ทรัมป์ต้อง บลัฟกลับด้วยการเพิ่มมาตรการภาษีจีนไปอีก 50% (รวมเป็น 10+10+34+50 = 104%) เนื่องจากทรัมป์ประกาศล่วงหน้าไปแล้วว่าใครสวนสหรัฐฯ จะต้องโดนบวกอัตราภาษีเพิ่ม ดังนั้นสหรัฐฯ จะเสียหน้าไม่ได้ ไม่งั้นประเทศอื่นๆ จะไม่เกรงกลัวอย่างที่ควรจะเป็น

ยิ่งกว่านั้น ทรัมป์รู้แล้วว่า จะปล่อยจีนไว้ไม่ได้ เพราะขนาดจีนโดนสหรัฐฯ เตะตัดขาเรื่องกีดกันทางเทคโนโลยีในสมัยที่แล้วของทรัมป์ บวกกับฟองสบู่อสังหาฯ จีนปริแตก แต่รัฐบาลจีนยังคงสามารถขับเคลื่อนประเทศจีนต่อได้อย่างร้อนแรง แถมหันไปสนิทแนบแน่นกับรัสเซียเพิ่มขึ้นอีกด้วย


นั่นจึงไม่แปลก ที่ทรัมป์จะยอมเสี่ยงกับการท้าตีท้าต่อยด้วยมาตรการกำแพงภาษีบ้าดีเดือด ที่เสมือนการใช้คีโม เพื่อกำจัดจีนที่เป็นมะเร็งร้ายของสหรัฐฯ แล้วไปวัดใจกันว่า พลังกาย อย่างคุณภาพชีวิตของชาวอเมริกันชนที่เคยสู้กับค่าครองชีพในประเทศ ด้วยการบริโภคสินค้าราคาถูกที่มาจากค่าแรงต่ำๆ จากประเทศด้อยพัฒนาต่างๆมาหลายทศวรรษ จะสามารถรับแรงกดดันจากภาวะราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค พุ่งทะยานฉับพลันจากมาตรการกำแพงภาษีทรัมป์ได้นานแค่ไหน? และหากถ้าทนไม่ได้ก็อาจจะออกมาประสานเสียง ร่วมขบวนขับไล่ไปกับบรรดาฝ่ายไม่เอาทรัมป์ จนกลายเป็นการขับไล่ประธานาธิบดีครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ก็เป็นได้

ชาวโลกก็คงต้องจับตาดูกันว่า คนอเมริกันจะตายจากราคาสินค้าแพงขึ้นก่อน หรือว่าบรรดานายทุนเจ้าของโรงงานจะถอดใจย้ายโรงงานกลับเข้าสหรัฐฯ ก่อน (ซึ่งการย้ายฐานการผลิตต่างๆ กลับ ก็ต้องใช้เวลาเป็นปี ไม่ได้จะเสร็จในพริบตาเดียว)

นอกจากนั้นมาตรการนี้ สหรัฐฯ ก็ยังประกาศใช้กับมิตรประเทศอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้ค่าครองชีพในสหรัฐฯ เด้งไปไม่รู้กี่เท่า ชนิดว่ายังประเมินกันเป๊ะๆ ไม่ได้เลยทีเดียว โดยเราต้องไม่ลืมว่า ถ้าราคาสินค้าในตลาดสหรัฐฯ พุ่งทะยาน บรรดาแฟนคลับเดนตายทรัมป์ที่ส่วนมากเป็นชาวผิวขาวรากหญ้าในสังคมอเมริกัน ที่ปกติก็แทบจะอดมื้อกินมื้ออยู่แล้ว จะทนอดมื้อกินมื้อเพื่อทรัมป์ไปได้นานแค่ไหน? อีกทั้งนี่เป็นวาระที่ 2 ของทรัมป์ โดยเหลืออีกสามปีกว่าๆ ไม่มากไปกว่านี้ทำให้ประเทศต่างๆ ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับสหรัฐฯ ก็น่าจะเลือกที่จะไม่ยอมทรัมป์ และทนประคองตัวรอดสมัยที่สองของทรัมป์ไปให้ได้ เพื่อรอ ปธน.สหรัฐฯ คนใหม่มาช่วยหันหัวเรือสหรัฐฯ ให้กลับสู่กติกาเศรษฐกิจสากลของ WTO ซึ่งก็ยังไม่สายที่จะกลับมาเติบโตกับการพึ่งพิงกัน แบบโลกาภิวัตน์อีกหน

ส่วนถ้าทรัมป์จะบ้าพอที่จะหาวิธีฝืนเพื่อดำรงตำแหน่ง ปธน.สมัยที่ 3 อย่างที่มีฝ่ายฮาร์ดคอร์คาดการณ์กันไว้ สังคมอเมริกันก็คงมีสิทธิ์แตกเป็นเสี่ยงๆ และเราอาจได้เห็นบางรัฐแยกตัวเป็นอิสระเนื่องจากไม่ทนอีกแล้วก็เป็นได้

ส่วนประเทศเล็กๆ อย่างไทย ก็เหมือนหญ้าแพรกที่พร้อมจะแหลกราญเมื่อช้างสารชนกันอยู่แล้ว ยิ่งเรามาได้สารตั้งต้นชั้นดีอย่างรัฐบาล มีกิน มีใช้ มีศักดิ์ศรีไปด้วยกันที่เอาแต่คิดว่าการแจกเงินหมื่นกะปริดกะปรอยจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในภาพรวม รวมทั้งเชื่อว่าเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์+กาสิโนจะช่วยให้ เศรษฐกิจไทยรอดพ้นสึนามิกำแพงภาษีของทรัมป์ไปได้ แค่คิด ชีวิตก็ซู่ซ่ากันแล้วครับพี่น้องชาวไทย!!

ยิ่งเมื่อพวกเราได้ฟังแผนเจรจาสหรัฐฯ ของท่านผู้นำสตรีอายุน้อยที่สุดในโลก ที่รัฐบาลไทยใช้เวลาเตรียมกันมา 3 เดือน ก็รู้สึกโหวงๆ ในท้อง ยิ่งพยายามฟังก็ยิ่งท้อใจ ว่าแผนที่ว่ามันจะไปเกิดประสิทธิภาพ สร้างประสิทธิผลกับความบ้าดีเดือดของ ปธน.ทรัมป์ในเวลานี้ได้อย่างไร?

ในเมื่อเราหวังพึ่งฝีมือรัฐบาลไม่ได้ ก็คงต้องพึ่งตนเอง พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วล่ะครับ วันนี้อะไรออมได้ออม เก็บได้เก็บ เตรียมเผชิญหน้ากับการหดตัวทางเศรษฐกิจโลกครั้งใหม่ที่ยังบอกไม่ได้ว่าจะยาวนานแค่ไหน

เอาเป็นว่า ขอให้บุญรักษากันถ้วนหน้าแล้วกันนะครับ

วรพจน์ ตั้งพันธุ์เพียร

ในการนี้ผมก็มีข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่า ปัญหาค่าครองชีพสูงขึ้นสำหรับชาวอเมริกันเป็นการทั่วไป จากผลกระทบของกำแพงภาษีที่สูงขึ้น ทำให้ราคาสินค้านำเข้าเป็นภาระเพิ่มขึ้นต่อชาวอเมริกันนั้น ก็คงไม่กระทบในเรื่องสินค้าอาหาร เพราะสหรัฐอเมริกาผลิตได้เองอย่างเพียงพอ ไม่ต้องพึ่งพาสินค้าอาหารนำเข้าจากต่างประเทศ อีกทั้งสินค้าอุปโภค-บริโภคที่นำเข้าจากต่างประเทศ ก็มิใช่เรื่องที่จำเป็นจริงๆ ต่อชีวิตประจำวัน สามารถที่จะลดการบริโภคได้ หรือลดความฟุ่มเฟือยได้ อีกทั้งประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็คงจะมุ่งเพิ่มพูนค่าแรงขั้นต่ำ หรือรายได้ต่อหัวต่อเดือนให้เหมาะสมกับค่าครองชีพ พร้อมกับการเพิ่มการจ้างงานที่จะเกิดขึ้นจากการขยายโรงงานที่มีอยู่และการนำเอาโรงงานที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลกกลับมาตั้งอยู่ที่สหรัฐอเมริกา แต่นั่นเป็นการคาดการณ์ของผม ก็ขึ้นอยู่กับว่าทางประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะแก้ปัญหาภายในดังกล่าวของสหรัฐอเมริกาอย่างไร แต่ก็เชื่อว่าเขาคงมีความคิดว่าด้วยมาตรการแก้ไขสถานการณ์อยู่แล้ว เพียงแต่รอเวลาที่จะประกาศออกมา และให้เรื่องการขึ้นภาษีศุลกากรประสบความสำเร็จไปในระดับหนึ่งเสียก่อน

ในมุมกว้างฐานเสียงของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ยังคงมั่นคงดีอยู่ และประชาชนพลเมืองก็พร้อมที่จะแบกภาระเฉพาะหน้าของราคาสินค้าที่สูงขึ้น ด้วยความคาดหวังและเชื่อมั่นว่าทุกสิ่งทุกอย่างก็จะดีขึ้นในที่สุดภายใต้การนำพาของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
17:23 น. ฉก.พญานาคราชจับเนื้อเถื่อนลอตใหญ่
17:14 น. 'หมอภาคย์'นำชุดทหารรบพิเศษ ลุยน้ำท่วมเขต 8 หาดใหญ่ ช่วยผู้ป่วย-ผู้ติดค้าง
17:13 น. อามินทร์ส่งต่อไก่แช่แข็งช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมหาดใหญ่
17:12 น. นักวิชาการจุฬาฯ แนะภาครัฐพัฒนาโมเดลสื่อสารสุขภาพยุคใหม่เสนอยุทธศาสตร์ด้าน Health Literacy ป้องกันวิกฤตเชื้อดื้อยา
17:11 น. จาการ์ตาแซงหน้าโตเกียว ขึ้นแท่นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก
ดูทั้งหมด
ยิปซี 12 นักษัตร พยากรณ์ระหว่างวันที่ 23 - 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 26 พ.ย.-2 ธ.ค.68
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงคว้าเหรียญทองศิลปะบังคับม้า ประเภททีม ประเดิมการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย
'แก๊งนางฟ้า'ยังไม่จบ! เกิดอะไรขึ้น 'เจนี่-แอน' ฟาดแรง 'ไม่คิดจะเจอกับตัว-เห็นแก่ตัวที่สุด'
กรมอุตุฯประกาศเตือนฉบับ 1 พายุ'โคโตะ' ไทยอุณหภูมิลดลง-อากาศเย็นถึงหนาว
ดูทั้งหมด
จวนสิ้นปีขอให้มีความสุข
ลึกลับในสนามข่าว 27 พฤศจิกายน 2568
เมื่อมองไปรอบๆ บ้านเรา
กองแช่งลุย
บทเรียนการประเมินสถานการณ์จากข้อมูลน้ำ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

จาการ์ตาแซงหน้าโตเกียว ขึ้นแท่นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก

(คลิป) อดีตจนท.คุก แฉ ใครคือตราบาป เบื้องหลังปมจีนเทาVIP

ครอบครัววอนช่วยตามหา น้องแพดเม่ 4 ขวบ เรือคว่ำวันน้ำแรงสูญหาย

คืบหน้า ไฟไหม้ตึกสูงฮ่องกงดับพุ่ง55ราย จนท.ควบคุมเพลิงขนาดใหญ่ได้แล้ว

ไม่ใช่แค่7 เจ็ตสกีภูเก็ตยืนยันเอง นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาแล้ว31ศพ อพยพคน 1,879 ชีวิต

แดดโผล่รอบ 7 วัน! ตรังเริ่มคลี่คลายน้ำลด-ไม่มีฝนเพิ่ม ชาวบ้านได้รับผลกระทบนับแสนชีวิต

  • Breaking News
  • ฉก.พญานาคราชจับเนื้อเถื่อนลอตใหญ่ ฉก.พญานาคราชจับเนื้อเถื่อนลอตใหญ่
  • \'หมอภาคย์\'นำชุดทหารรบพิเศษ ลุยน้ำท่วมเขต 8 หาดใหญ่ ช่วยผู้ป่วย-ผู้ติดค้าง 'หมอภาคย์'นำชุดทหารรบพิเศษ ลุยน้ำท่วมเขต 8 หาดใหญ่ ช่วยผู้ป่วย-ผู้ติดค้าง
  • อามินทร์ส่งต่อไก่แช่แข็งช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมหาดใหญ่ อามินทร์ส่งต่อไก่แช่แข็งช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมหาดใหญ่
  • นักวิชาการจุฬาฯ แนะภาครัฐพัฒนาโมเดลสื่อสารสุขภาพยุคใหม่เสนอยุทธศาสตร์ด้าน Health Literacy ป้องกันวิกฤตเชื้อดื้อยา นักวิชาการจุฬาฯ แนะภาครัฐพัฒนาโมเดลสื่อสารสุขภาพยุคใหม่เสนอยุทธศาสตร์ด้าน Health Literacy ป้องกันวิกฤตเชื้อดื้อยา
  • จาการ์ตาแซงหน้าโตเกียว ขึ้นแท่นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก จาการ์ตาแซงหน้าโตเกียว ขึ้นแท่นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เมื่อมองไปรอบๆ บ้านเรา

เมื่อมองไปรอบๆ บ้านเรา

27 พ.ย. 2568

จีน-ไทย มิใช่อื่นไกล แต่เป็นพี่น้องกัน : ในรอบใหม่

จีน-ไทย มิใช่อื่นไกล แต่เป็นพี่น้องกัน : ในรอบใหม่

20 พ.ย. 2568

สังคมนิยมปักธงที่สหรัฐอเมริกาแล้ว

สังคมนิยมปักธงที่สหรัฐอเมริกาแล้ว

13 พ.ย. 2568

สนามการเมืองไทยจะคึกคักอย่างมีสาระเนื้อหาหรือไม่?

สนามการเมืองไทยจะคึกคักอย่างมีสาระเนื้อหาหรือไม่?

6 พ.ย. 2568

ญี่ปุ่นเข้มข้นในทิศทางเรื่องความมั่นคง

ญี่ปุ่นเข้มข้นในทิศทางเรื่องความมั่นคง

30 ต.ค. 2568

ทีมผู้คิด ผู้ทำ ของนายกรัฐมนตรี

ทีมผู้คิด ผู้ทำ ของนายกรัฐมนตรี

23 ต.ค. 2568

ทรัมป์พยายามเล่นเรื่องสันติภาพ แล้วปูติน กับสี จิ้นผิง จะว่าอย่างไร?

ทรัมป์พยายามเล่นเรื่องสันติภาพ แล้วปูติน กับสี จิ้นผิง จะว่าอย่างไร?

16 ต.ค. 2568

การปฏิรูปองค์การสหประชาชาติ รอสหรัฐอเมริกานำพา

การปฏิรูปองค์การสหประชาชาติ รอสหรัฐอเมริกานำพา

9 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved