นอกเหนือจากเรื่องการหยั่งเสียงโดยสำนักโพลต่างๆ ที่ว่า ผู้นำพรรคการเมืองใดที่ได้รับความนิยมชมชอบ ชื่นชมมากกว่ากัน (Popularity) เรื่องการแข่งขันว่าด้วยการเสนอนโยบายและมาตรการประชานิยมแบบลดแลกแจกแถม และเรื่องการก้าวข้ามความขัดแย้งเพื่อความปรองดองสมานฉันท์ โดย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้ว ก็จัดได้ว่า การโฆษณาประชาสัมพันธ์รวมทั้งการหาเสียงโดยพรรคการเมืองต่างๆ ทั้งหมดต่างยังไม่มีความโดดเด่นที่พอจะจับตา หรือจับใจประชาชนพลเมืองให้เกิดความสนอกสนใจและความคาดหวังที่ดีต่ออนาคตของประเทศ และความผาสุกของเขาผู้เป็นเจ้าของประเทศ ไปจนถึงผู้ที่จะต้องได้รับการบริการตอบสนองจากเหล่าบรรดาพรรคการเมืองและนักการเมืองที่กำลังอาสาเข้ามารับใช้ประเทศชาติ
บรรยากาศการหาเสียง และการไปปรากฏตัวของบรรดานักการเมืองจึงดูไม่คึกคัก ไม่เร้าใจ และไม่เป็นที่น่าสนใจต่อสาธารณชน เพราะขาดซึ่งสาระเนื้อหาที่จะสะท้อนความคิดอ่านที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับประเด็นปัญหาของบ้านเมือง และฉะนั้นจึงขาดวิสัยทัศน์และขาดความเอาจริงเอาจังกับความสุขทุกข์ยากของประชาชนพลเมืองและความเป็นไปของบ้านเมืองในโลกกว้าง ที่มีความท้าทายต่างๆ นานา และมีผลกระทบต่อประเทศไทยอยู่ทุกขณะเป็นเนืองนิตย์
การที่บรรดาพรรคการเมืองและนักการเมืองทั้งหลายขาดการมีมุมมองประเทศไทยอย่างกว้างๆ ครอบคลุมประเด็นหลักต่างๆ (The big picture) และเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ไม่สามารถที่จะมียุทธศาสตร์อันเกรียงไกร (Grand strategy) ให้กับประเทศชาติและประชาชนพลเมืองได้ ก็เป็นเรื่องที่น่าวิตกเป็นอย่างยิ่งเพราะถ้าบรรดานักการเมืองและพรรคการเมืองขาดภาพรวมเกี่ยวกับประเทศชาติ ไม่สามารถสะท้อนซึ่งประเด็นปัญหาต่างๆ ของบ้านเมืองได้ และไม่รู้ว่าจะต้องทำการอย่างไรในการนำพาประเทศไปข้างหน้า ก็หมายความว่าบรรดาพรรคการเมืองและนักการเมืองขาดคุณภาพ ไม่มีความพร้อมใดๆ ที่จะรับใช้บ้านเมืองอย่างจริงจัง เท่ากับว่าเขาเหล่านี้เข้ามา “เล่นการเมือง” มากกว่าเข้ามา “ทำงานการเมือง” และเมื่อเป็นการมาเล่นมากกว่าความเอาจริงเอาจัง บ้านเมืองก็กลับกลายเป็นของเล่นของกลุ่มคนบางคนที่อ้างว่า “อาสา” เข้ามารับใช้บ้านเมือง
เรื่องการบ้านการเมืองมิใช่เป็นของ “เล่นๆ” เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความผาสุก ปลอดภัย และความมั่นคงของชีวิต ซึ่งรวมทั้งเรื่องศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ด้วย ฉะนั้น ความเอาจริงเอาจัง การอุทิศตน และการเสียสละเพื่อส่วนรวมจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง ที่จะเข้ามาเสแสร้งทำโน่นทำนี่กันเป็นเรื่องเล่นๆ มิได้ และที่สำคัญทรัพยากรของชาติ ศักยภาพและโอกาสของชาติมิใช่เป็นเรื่องที่จะเข้ามาตักตวง กอบโกย หรือคดโกง เพื่อหาประโยชน์เข้าตน
ก็แน่นอนว่า บรรดาพรรคการเมือง และนักการเมืองก็ต่างอุดมด้วยข้อมูลข่าวสารต่างๆ เพื่อมีทรัพยากรที่จะศึกษาพัฒนาความรู้ เสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ The big picture ของประเทศไทย และการวาง Grand strategy ที่เหมาะสมได้
นอกจากนั้น บรรดานักการเมืองส่วนใหญ่ต่างก็เคยได้เห็นโลกกว้าง ฉะนั้น จะอ้างว่าไม่ได้สัมผัสหรือรู้เห็นความเป็นไปในโลกกว้างนั้นๆ ในเชิงเปรียบเทียบกับประเทศไทยคงมิได้ ซึ่งถ้ามีจิตสำนึก ความถนัด และความมุ่งมั่นที่ดี ก็ไม่เป็นการยากลำบากแต่อย่างใดที่จะคิดอ่านและทำการเพื่อประเทศชาติ เว้นเสียว่าได้เริ่มต้นเส้นทางทางการเมืองด้วยความละโมบในอำนาจในตำแหน่งหน้าที่ เพื่อหาประโยชน์เข้าตนและพวกพ้องและหลอกลวงสังคมกันต่อไป
บทความนี้ขีดเขียน และตีพิมพ์ในช่วงปลายเดือนเมษายน หรือก่อนการไปหย่อนบัตรเลือกตั้งเพียงแค่สองสัปดาห์กว่าๆ ก็หวังว่ายังจะมีพรรคการเมืองและนักการเมืองที่ทิ้งเรื่องประชานิยมไว้ข้างหลัง และทิ้งการสร้างภาพเพื่อความนิยมชมชอบแล้วมุ่งหน้าด้วยความนึกคิด สติปัญญา องค์ความรู้ที่จะมีข้อเสนอต่อสังคมไทยที่จะจับต้องได้ ในการที่จะยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้มีความมั่นคง และมีความเสมอภาคยิ่งขึ้น อีกทั้งก็จะยกระดับประเทศไทยที่จะสามารถแข่งขันและยืนอยู่ในเวทีระหว่างประเทศด้วยความทะนงและมั่นใจ
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี