ในช่วงฤดูกาลหาเสียงในขณะนี้ พรรคการเมืองต่างๆ ได้ออกถ้อยแถลงให้สัมภาษณ์ และกล่าวคำปราศรัยต่างๆ นานา เพื่อเสริมสร้างคะแนนนิยมและการโน้มน้าวให้ประชาชนพลเมืองผู้มีสิทธิ์ออกเสียง มาหย่อนบัตรลงคะแนนให้กับพรรคของตน
แต่ก็มีข้อสังเกตว่า นโยบายมาตรการต่างๆ นั้น มักเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความเป็นไป หรือชีวิตปากท้องและความผาสุกของสังคมและประชาชนพลเมืองภายในประเทศเป็นหลัก หรือกล่าวได้ว่า ทั้งหมดเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความเป็นไปภายใน (Domestic) เท่านั้น โดยยังไม่มีพรรคการเมืองใดเลยที่แสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องการต่างประเทศ ที่เสนอจุดยืน และท่าทีว่าด้วยนโยบายต่างประเทศ ทั้งๆ ที่ประเทศไทยอยู่ติดกับประเทศต่างๆ ถึง 4 ประเทศ คือ มาเลเซีย พม่า ลาว และกัมพูชา นอกจากนั้นแล้ว ประเทศไทยก็ยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม จีน บังกลาเทศ อินเดีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย อีกทั้งไทยก็ร่วมใช้ประโยชน์จากแม่น้ำโขงร่วมกับจีน พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม และร่วมใช้แม่น้ำสาละวิน และแม่น้ำสายเล็กๆ ร่วมกับพม่าอยู่หลายสาย
นอกจากนั้น สินค้านำเข้าและส่งออกของไทยทางเรือก็ต้องผ่านมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตก (หรือทะเลจีนตอนใต้) และทะเลจีนตะวันออกเป็นสำคัญ โดยน่านทะเลดังกล่าวอยู่ท่ามกลางการพิพาทว่าด้วยเขตอาณาของมิตรประเทศต่างๆ ของไทย ไปจนถึงการขัดแย้งต่อกรระหว่างประเทศมหาอำนาจ โดยเฉพาะจีนกับสหรัฐอเมริกา และไทยเรายังมีประเด็นปัญหาคั่งค้างว่าด้วยการปักปันเขตแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งการแบ่งเขตแดนรอบๆ ปราสาทพระวิหาร ตามข้อตัดสินของศาลยุติธรรมโลก แล้วก็ยังมีประเด็นปัญหาการก่อการร้ายสากล การบ่อนทำลายระบบไซเบอร์ การโจรสลัดทางทะเล และอาชญากรรมข้ามชาติ ตลอดแนวชายแดนไทยต่างๆ ดังที่เป็นที่ทราบกันดีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการค้ามนุษย์ การค้ายาเสพติด บ่อนการพนัน และศูนย์ติดต่อด้วยระบบการสื่อสารสมัยใหม่ Call Center โดยพวกมิจฉาชีพส่วนใหญ่หรือแทบทั้งหมด มักจะเป็นการดำเนินการด้วยคนจีน ทั้งๆ ที่ประเทศจีนที่เป็นระบบเผด็จการสุดยอด มีการเข้มงวด กวดขัน ควบคุมพลเมืองของเขาอย่างไม่มีประเทศใดเสมอเหมือน แต่ก็ยังปล่อยให้พลเมืองของเขาสามารถออกจากประเทศ มาบ่อนทำลายมิตรประเทศได้
ในโลกกว้างประเทศไทยก็มีพันธกรณีต่างๆ กับประชาคมโลก ทั้งที่เป็นไปตามหลักกฎหมายและข้อตกลงระหว่างประเทศ เช่น ในเรื่องการรักษาและฟื้นฟูธรรมชาติแวดล้อม และการลดระดับสภาวะโลกร้อน และการร่วมกันแก้ไขโรคระบาด ไปจนถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน เรื่องผู้อพยพลี้ภัย เรื่องผู้ลี้ภัยทางการเมือง เรื่องแรงงานทาส เรื่องการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมให้กับพลเมืองโลกที่ยากไร้ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา
อีกทั้งประเทศไทยก็มีพันธกรณีในเรื่องการลดและยุติการใช้น้ำมันและก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน และเสริมสร้างการพัฒนาและการใช้พลังงานหมุนเวียนและทดแทน ไปจนถึงการดำเนินการในเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน 17 ประการ (Sustainable Development Goals - SDG)
นอกจากนั้นประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียน ก็มีพันธกรณีต่อการขับเคลื่อนและพัฒนาอาเซียน เพื่อบริการและรับใช้พลเมืองอาเซียนซึ่งมีประมาณ 650 ล้านคน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีสิทธิเสรีภาพมากขึ้น ซึ่งไทยก็ยังเป็นประเทศสมาชิกความร่วมมือรอบอ่าวเบงกอล ความร่วมมือในแถบมหาสมุทรอินเดียและแถบมหาสมุทรแปซิฟิกต่างๆ เช่น เอเปก
ทั้งหมดนี้นำมาซึ่งคำถามที่ว่า พรรคการเมืองทุกพรรคที่กำลังอาสาเข้ามารับใช้บ้านเมืองนั้น มีความรู้ในเรื่องเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน? และประสงค์ที่จะให้ประเทศไทยมีบทบาทและท่าทีอย่างไร? เพื่อประเทศไทยจะได้รับผลประโยชน์และร่วมช่วยจรรโลงความเจริญก้าวหน้าของอนุภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรืออินโด-แปซิฟิก เพราะประเทศไทยต้องอยู่ร่วมกับประชาคมโลกทั้งใกล้และไกล มีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อีกทั้งไทยต้องมีขีดความสามารถในการแข่งขัน และในการรักษาเนื้อรักษาตัว ควบคู่กันไปด้วย ก็เป็นความจำเป็นที่ประเทศไทยจะต้องรู้ตัวว่าจะต้องทำการอย่างไร และการรู้ตัวนี้จะต้องมาจากพรรคการเมืองทั้งหลาย เพราะเป็น
ผู้อาสาเข้ามารับใช้บ้านเมือง เพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นสำคัญ และเพื่อความสง่างาม มีราศี เกียรติภูมิ และศักดิ์ศรีประเทศไทยในแวดวงการเมืองระหว่างประเทศ
ถ้าพรรคการเมืองไม่มีความรู้ ไม่มีความคิดอ่านใดๆ เกี่ยวกับการต่างประเทศที่ดีพอ พรรคการเมืองเหล่านั้นก็ไม่ควรจะอาสาเข้ามารับใช้บ้านเมือง เพราะประเทศไทยและสังคมไทยไม่สามารถที่จะยืนอยู่กับความมืดมนทางปัญญาของบรรดาพรรคการเมืองเหล่านี้ได้
ขณะที่เขียนบทความนี้ ก็เป็นเวลาก่อนวันเลือกตั้งเกือบ 2 สัปดาห์ ก็ถือว่ายังไม่สายเกินไปที่บรรดาพรรคการเมืองไทยทั้งหลายจะได้มีข้อคิด ข้อเสนอ เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของไทย ซึ่งถ้าหากพรรคไหนไม่สามารถกระทำการดังกล่าวได้ ประชาชนพลเมืองก็ควรจะได้พิจารณาว่า ควรจะหย่อนบัตรให้คะแนนพรรคที่ว่าหรือไม่? หรือจะให้คะแนนเขาไป แล้วรับไว้แต่ความซึมเศร้า และความอดสูใจต่อคุณภาพของพรรคการเมืองไทยไปเรื่อยๆ
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี