มีคำถามตรงประเด็นว่า ทำไมพรรคก้าวไกลต้องการยกเลิก มาตรา 112 เหตุที่ถามคำถามนี้ เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่า ป้ายหาเสียงของพรรคก้าวไกลติดประกาศว่ายกเลิกมาตรา 112
นอกจากป้ายหาเสียงพรรคก้าวไกลจะติดป้ายว่ายกเลิก มาตรา 112 ก็ยังพบเป็นประจำว่าพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พูดเป็นประจำว่าต้องแก้ไข มาตรา 112 อันที่จริงกำลังตามหาคำจากปากของพิธาที่แสดงให้ได้ยินตรงๆ ชัดๆ ว่าประกาศยกเลิกมาตรา 112 แต่ยังหาไม่พบในขณะนี้ ก็จึงยังไม่พูดว่าพิธาต้องการยกเลิก มาตรา 112 แม้หลายคนเข้าใจตรงกันว่าพิธาต้องการให้ยกเลิก มาตรา 112
เมื่อป้ายหาเสียงของพรรคก้าวไกลบอกว่ายกเลิก มาตรา 112 ส่วนพิธาบอกเป็นประจำว่าต้องแก้ไข มาตรา 112 ก็เลยเกิดคำถามว่า ตกลงแล้วก้าวไกลกับพิธาจะเอาอย่างไรกับ มาตรา 112 จะยกเลิก หรือจะแก้ไข
ประเด็นต่อมาคือ ทำไมต้องยกเลิก มาตรา 112 มาตราดังกล่าวเป็นอุปสรรคอย่างหนักต่อการดำเนินชีวิตของคนไทยส่วนใหญ่ หรืออย่างไร คนไทยส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อนจาก มาตรา 112 กระนั้นหรือ หากไม่มี มาตรา 112 แล้ว คนไทยจะมีความสุขมากขึ้นหรือ
ถามกลับว่า หากไม่มีมาตรา 112 คนไทยจะเคารพสถาบันพระมหากษัตริย์มากขึ้นหรือ หรือว่าจะกล่าวร้าย ด่าทอ อาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี และองค์รัชทายาท มากขึ้นกว่าเดิม หรือไม่
ทำไม มาตรา 112 จึงเป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกล และพิธา ต้องการยกเลิก หรือต้องการแก้ไข มาตราดังกล่าวมีผลกระทบด้านลบอย่างร้ายแรงสถานใดต่อพรรคก้าวไกล และต่อพิธา กระนั้นหรือ
แล้วการที่คนบางคนถูกลงโทษ (ส่วนใหญ่ก็เป็นคนหน้าเดิมๆ ที่จงใจก่อเรื่องเป็นประจำ) เพราะถูกศาลตัดสินว่ากระทำผิด ตามข้อบัญญัติที่ระบุไว้ใน มาตรา 112 เป็นเพราะถูกศาลกลั่นแกล้ง กระนั้นหรือ ทำไมคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีปัญหากับมาตรา 112 แล้วทำไมคนหน้าเดิมๆ จึงมีปัญหากับมาตรา 112 และทำไมก้าวไกล กับพิธาจึงมีปัญหากับมาตรา 112
คนของก้าวไกล และตัวของพิธาเคยถูกมาตรา 112 เล่นงาน หรือเคยกระทำความผิดตามบทบัญญัติของมาตรา 112 กระนั้นหรือ ที่ถามเช่นนี้เพราะเห็นว่าพิธา และก้าวไกล พยายามจะล้มเลิกมาตรา 112 อย่างจริงๆ จังๆ และพยายามมาโดยตลอด
นอกจากพิธา และก้าวไกลจะพยายามให้ยกเลิก มาตรา 112 แล้ว ยังพบอีกว่า มีบางประเทศโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตกบางประเทศ เช่น สหรัฐฯ และประเทศในกลุ่มอียู พยายามแทรกแซงและก้าวก่ายกิจการภายในของไทย ด้วยการจงใจให้ประเทศไทยทบทวนหรือแก้ไขมาตรา 112
ถามว่าทำไมสหรัฐฯ และบางประเทศในกลุ่มอียูจึงต้องแสดงอาการราวกับว่าทุรนทุรายเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของไทย เป็นเพราะว่าประชาชนของประเทศดังกล่าวถูกลงโทษเพราะมาตรา 112 ของไทย กระนั้นหรือ
อันที่จริงเรื่องนี้ต้องถามกลับไปยังประเทศที่จงใจแทรกแซงกิจการภายในของไทยว่า หากมีคนจงใจหมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายผู้นำของประเทศนั้นๆ บ้าง ประเทศดังกล่าวมีกลไกอะไรสำหรับดูแลความปลอดภัย และเกียรติศักดิ์ศรีของผู้นำประเทศเหล่านั้นบ้าง หรือว่าอนุญาตให้ด่า ประณาม หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายได้โดยเสรี
ย้อนกลับมาถามพิธา และก้าวไกลว่าทำไมเสนอให้ยกเลิกแค่เพียงมาตรา 112 เท่านั้นทำไมไม่เสนอให้ยกเลิกมาตราเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทบุคคลทั่วไปด้วย ทำไมพิธาจึงมองว่าไม่ต้องมีมาตรา 112 แล้วทำไมยังต้องคงมาตราเกี่ยวกับความผิดฐานหมิ่นประมาทไว้
พิธาและก้าวไกลมองว่าพระมหากษัตริย์ พระราชินี และองค์รัชทายาท ไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายใดๆ ที่ถวายความคุ้มครองเป็นพิเศษให้ กระนั้นหรือ หากพิธาและก้าวไกลเชื่อเช่นนั้นจริง ก็ต้องถามย้ำว่า แล้วเหตุใดไม่ยกเลิกกฎหมายหมิ่นประมาท
พิธาต้องการให้คนที่ไม่จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี และองค์รัชทายาท ถูกประณาม ถูกด่า ถูกแสดงความอาฆาตมาดร้ายได้โดยไม่มีความผิดใดๆ ใช่ไหม ถ้าเช่นนั้นหากมีใครด่าประณาม ดูถูก แสดงความอาฆาตหมายเอาชีวิตของพิธา พิธาจะไม่ฟ้องศาลใช่หรือไม่ เพราะเมื่อต้องการให้คนสามารถด่าพระมหากษัตริย์ได้ ก็ทำไมจะด่าพิธาไม่ได้ หรือว่าพิธาเชื่อว่าตนเองมีความพิเศษเกินกว่าพระมหากษัตริย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี