ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการรัฐประหารโดยไสยศาสตร์ทางกฎหมายที่จะล้มล้างฉันทามติและเจตนารมณ์ของปวงชนชาวไทยในการเลือกตั้งครั้งนี้ และเป็นที่หวั่นเกรงว่าจะเกิดเหตุกลียุคครั้งใหญ่ขึ้นในบ้านเมือง และคนทั้งหลายก็ตั้งความหวังว่าเหตุการณ์ร้ายจะไม่เกิดขึ้น
ในระหว่างการรอการประกาศผลรับรองอย่างเป็นทางการ ก็ยังมีความกังวลอีกว่าการรับรองผลการเลือกตั้งนั้นจะยืดยาวออกไปจนครบเวลาสุดท้ายที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ และระหว่างทางก็อาจมีเหตุที่จะทำให้การเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นโมฆะบางส่วนหรืออีกทั้งหมดก็ได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นความไม่ไว้วางใจของประชาชนอันเป็นผลมาจากปรากฏการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ซึ่งต้องถือว่าเป็นวิบากกรรมอย่างหนึ่ง
ในท่ามกลางวันเวลาดังกล่าว กระบวนการจัดตั้งรัฐบาลผสมก็เกิดขึ้นเป็นธรรมดาของการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นั่นคือพรรคการเมืองที่ได้รับฉันทามติจากประชาชนมากที่สุดก็จะทำการประสานงานพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งขณะนี้พรรคก้าวไกลมีความชอบธรรมและกำลังดำเนินการในการจัดตั้งรัฐบาลอยู่
เมื่อมีการประกาศแถลงการณ์ร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว แม้การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่มีผลในทางกฎหมาย แต่ในทางการเมืองก็เป็นธรรมเนียมปฏิบัติตลอดมาที่คณะรัฐบาลชุดใหม่จะได้ตั้งคณะทำงานเพื่อรับถ่ายโอนอำนาจจากรัฐบาลก่อน และโดยมากก็จะเป็นการดำเนินการผ่านระดับปลัดกระทรวง
ในขณะนี้เป็นที่ชัดเจนว่าพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยมีคะแนนเสียงรวมกันเกินครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกในสภาผู้แทนราษฎรเป็นจำนวนมาก และเมื่อรวมกับพรรคพันธมิตรแล้วก็จะมีจำนวนเสียงรวมกันกว่า 300 เสียง มากเพียงพอที่จะเป็นรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดิน
แต่โชคร้ายของประเทศที่นักไสยศาสตร์ทางกฎหมายได้วางกลอุบาทว์ทางการเมืองไว้ นั่นคือลบล้างหลักการประชาธิปไตย กำหนดให้ สว. ซึ่งปกติต้องมีหน้าที่กำกับ ตรวจสอบ ควบคุมรัฐบาล ให้มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกและแห่งเดียวในโลก โดยไม่รู้สึกละอายชาวโลกบ้างเลย
ดังนั้นการเลือกนายกรัฐมนตรีจึงต้องอาศัยเสียงไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกของทั้งสองสภา ซึ่งถ้าใช้เสียงในสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดตามนั้นก็จะกลายเป็นรัฐบาลเผด็จการโดยสภา เพราะมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรเด็ดขาด และจะเป็นการทำลายรัฐบาลนั้นไปในตัวเหมือนกำหนดให้มีสนิมอยู่ในเหล็กก็จะทำลายเหล็กนั้นให้พินาศไป
ดังนั้นพรรคก้าวไกลจึงไม่ยอมตกลงไปในกระบวนการดังกล่าว และพยายามแสวงหาความร่วมมือจาก สว. ที่ยังเห็นแก่ประเทศชาติและราษฎร และเคารพต่อฉันทามติของปวงชนชาวไทย เลิกประพฤติตนอยู่ใต้อาณัติของผู้ที่ตั้งตนเองมาเป็น สว. ซึ่งจะต้องติดตามดูผลกันต่อไป
แม้กระนั้นพรรคก้าวไกลก็ยังมีอุปสรรคอยู่ไม่น้อยจากสองสถาน คือจากขบวนการรัฐประหารโดยไสยศาสตร์ทางกฎหมายที่ได้เริ่มต้นปฏิบัติการเพื่อไม่ให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ในขณะนี้ กับอีกสถานหนึ่งคือจากบรรดานโยบายที่กำหนดขึ้นเอง โดยเฉพาะเรื่องมาตรา 112เรื่องการปฏิรูปสถาบันและหน่วยงานความมั่นคงอื่นๆ ซึ่งหลายเรื่องได้สะท้อนถึงความไม่เข้าใจในกลไกความมั่นคงของชาติบ้านเมือง
อุปสรรคเหล่านี้ถ้าหากพรรคก้าวไกลไม่ยอมลดราวาศอก ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จ นอกจากนั้นการต่อรองตำแหน่งต่างๆ อาจจะมีปัญหาไม่น้อย เริ่มต้นตั้งแต่ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรซึ่งพรรคก้าวไกลก็ต้องการ พรรคเพื่อไทยก็ต้องการ และพรรคพันธมิตรบางพรรคก็ต้องการ
แต่เนื่องจากจำนวน สส. ของพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยใกล้กับมาก ห่างกันไม่ถึง 10 เสียง ดังนั้น เมื่อพรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งประมุขฝ่ายบริหารไปแล้ว พรรคเพื่อไทยก็มีความชอบธรรมที่จะได้ตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ
นอกจากนั้น ยังมีปัญหาการต่อรองตำแหน่งงานต่างๆ ในคณะรัฐมนตรีและอื่นๆ อีกไม่น้อย เหล่านี้อาจเป็นอุปสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาล
โดยฉันทามติของประชาชน จะต้องให้กำลังใจแก่พรรคก้าวไกลในการผ่อนปรนและในการต่อรองทางการเมืองเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลประสบความสำเร็จ เพราะเป็นที่ชัดเจนยิ่งกว่าชัดเจนว่าฉันทามติของประชาชนถึง 70% ของประเทศต้องการเปลี่ยนแปลงการบริหารจากที่เป็นมา 8 ปีแล้ว
การฝ่าฝืนฉันทามติของประชาชนก็คือการฝ่าฝืนเสียงสวรรค์ จะไม่มีวันล่วงพ้นไปจากภัยพิบัติได้เลย จึงเป็นข้อควรสังวรแก่ทุกฝ่าย
แม้กระนั้น กระบวนการรัฐประหารโดยไสยศาสตร์ทางกฎหมายก็อย่าคิดลำพองคะนองเดชมากเกินไปว่าถ้าโค่นการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลได้แล้วจะฟื้นอำนาจเก่าเข้ามาปกครองบ้านเมืองอีก นั่นไม่ใช่ฐานะที่จะเป็นไปได้อีกแล้ว รังแต่จะก่อเกิดภัยพิบัติและหายนะแก่ชาติและประชาชนสุดคณานับ
เพราะถ้าเมื่อใดก็ตามถ้าหากพรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่ได้ พรรคเพื่อไทยที่ขบวนการรัฐประหารโดยไสยศาสตร์ทางกฎหมายเคยถล่มทลายมาตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ก็มีความชอบธรรมที่จะจัดตั้งรัฐบาลผสมต่อไปจากพรรคก้าวไกล และคาดหมายได้ว่าพรรคเพื่อไทยย่อมสรุปบทเรียนจากการจัดตั้งรัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จ และย่อมดำเนินการทุกประการที่จะจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี