วันอาทิตย์ ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันจันทร์ ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์

ดูทั้งหมด

  •  

ประเด็นที่ฝ่าย “ล้มเจ้า” นำมาบิดเบือนโจมตีมากที่สุดเรื่องหนึ่ง คือ ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์

นำมาซึ่งวาทกรรม “ภาษีกู”


นำมาซึ่งวาทกรรม “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์”

นำมาซึ่งวาทกรรม “วัดพระแก้วไม่ใช่สมบัติของแผ่นดิน” (ราวกับว่าใครจะขายเปลี่ยนมือได้)

ทั้งที่ในความเป็นจริง การบริหารจัดการทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ได้มีการปฏิรูป มีการเปลี่ยนแปลงให้เกิดความชัดเจนอยู่แล้ว เพียงแต่ฝ่าย “ล้มเจ้า” ต้องการสร้างความสับสน ปั่นกระแสความเกลียดชัง ปลุกความละโมบ ความมักใหญ่ใฝ่สูง จูงจมูกคนด้วยคำตอบสำเร็จรูปแบบผิดๆ ว่า ใครที่อกหักกับชีวิตในวันนี้ ล้วนเป็นผลมาจากสถาบัน

แต่ไม่ยักกล่าวถึงว่า น้องชายนายธนาธรยังมีคดีเสนอสินบนหวังได้เช่าที่สำนักงานทรัพย์สินฯ

ส่วนนายพิธาก็แจ้ง ป.ป.ช. ว่าตนเองมีชื่อครอบครองที่ดินสำนักงานทรัพย์สินฯ อย่างน่าสงสัย

ล่าสุด เพจ ฤๅ - Lue History ได้ “ไขกระจ่าง 82 ปี 4 ฉบับ “ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์” จัดระเบียบทรัพย์สินอย่างไร? และสาธารณสมบัติแผ่นดินอยู่ตรงไหน?” เนื้อหาน่าสนใจ ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง

ระบุ ดังนี้

...พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พ.ศ. 2561 ที่ได้ผ่านการรับรองจากรัฐสภาซึ่งเป็นแหล่งรวมเจตจำนงของประชาชนมานั้น ได้สร้างความสนอกสนใจไปจนถึงความเข้าใจผิด ความเข้าใจคลาดเคลื่อนรวมไปถึงการพยายามกล่าวว่าพระราชบัญญัตินี้ได้ “ฮุบ” ทรัพย์สินต่างๆ ให้กับพระมหากษัตริย์ ซึ่งเราจะพบได้ในหลายๆ เพจเฟซบุ๊ก

เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ฤๅ จึงขอเล่าพัฒนาการของ พ.ร.บ. ฉบับนี้โดยคร่าวตั้งแต่ถือกำเนิดมาจนถึงการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน รวมไปถึงการชี้ประเด็นสำคัญนั่นคือ “ทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดินหายไปไหน?” ว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร

พ.ร.บ. ที่เกี่ยวข้องกับการจัดระเบียบทรัพย์สินฯ ฝ่ายพระมหากษัตริย์นั้น ได้เกิดขึ้นหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง โดย พ.ร.บ. จัดระเบียบฯ ที่ออกมาในครั้งแรกคือฉบับ พ.ศ.2479 (น่าสังเกตว่าออกมาหลังการสละราชสมบัติและหลังจากนั้นก็มีการฟ้องยึดทรัพย์) หลังจากที่ออก พ.ร.บ. ฉบับนี้ได้เกิดเรื่องที่ไม่งามขึ้นในทางการเมือง

กล่าวคือ ที่ดินพระคลังข้างที่ที่นับว่าเป็นทรัพย์สินพระมหากษัตริย์และมีสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ดูแลอยู่ แต่ความรับผิดชอบในการควบคุมยังคงอยู่ที่คณะผู้สำเร็จราชการ ซึ่งได้เกิดเรื่องที่ว่ามีสมาชิกของคณะรัฐบาลระบอบใหม่ 34 คน สามารถซื้อที่ดินนี้ในราคาต่ำสุดและผ่อนชำระได้อย่างสะดวกสบายจนเกือบจะได้เปล่า ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจเป็นอย่างมาก

ใน พ.ร.บ. ฉบับ พ.ศ. 2479 นี้ได้แบ่งทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ออกเป็น 3 ประเภท คือ

1. ทรัพย์สินส่วนพระองค์ ซึ่งมีนิยามดังนี้ ทรัพย์สินที่เป็นของพระมหากษัตริย์ก่อนการขึ้นครองราชสมบัติ และพระองค์มีสิทธิ์ที่จะจำหน่ายสิ่งเหล่านั้นได้ก่อนครองราชสมบัติ, ทรัพย์สินนั้นได้ตกมาเป็นของพระองค์ในช่วงที่ครองราชสมบัติโดยมาจากผู้ที่ไม่ได้เป็นพระมหากษัตริย์ของสยาม, และเป็นทรัพย์สินที่ซื้อมาจากเงินส่วนพระองค์

2. ทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน มีนิยามคือ เป็นทรัพย์สินในพระมหากษัตริย์เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ เช่น พระราชวัง

3. ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มีนิยามคือ ทรัพย์สินในพระมหากษัตริย์นอกจากสองประเภทแรก

ทรัพย์สินประเภทที่หนึ่งนั้น เป็นทรัพย์สินของพระองค์โดยแท้ที่ได้มาก่อนการครองราชสมบัติ ซึ่งมีข้อสังเกตว่า พระมหากษัตริย์ไม่สามารถสืบมรดกของพระมหากษัตริย์องค์ก่อนมาสู่องค์ใหม่ได้ในฐานะมรดกปกติ ดังข้อความใน พ.ร.บ.นี้ที่ว่า “ทรัพย์สิน หรือสิทธิ์เช่นว่านั้นได้ตกมาเป็นของพระองค์ในเมื่อหรือภายหลังแต่เวลาที่ครองราชสมบัติโดยทางใดๆ จากบรรดาพระราชบุพการีใดๆ หรือจากบุคคลใดๆ ซึ่งไม่ได้เป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรนี้” นั่นหมายความว่า หากพระมหากษัตริย์พระองค์ก่อนจะมอบสิ่งใดให้กับพระองค์ใหม่จะต้องเป็นไปตามทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ไม่มีทางเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์

ทรัพย์สินประเภทที่สอง คือทรัพย์สินที่ใช้เป็นประโยชน์เพื่อแผ่นดินและสืบต่อกันไปในฐานะที่ได้เป็นพระมหากษัตริย์ เช่น พระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

ส่วนทรัพย์สินประเภทที่สามเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องในพระมหากษัตริย์ทั้งปวงที่ไม่ใช่สองประเภทแรก กล่าวคือ อะไรที่ไม่เข้าสองอย่างแรกต้องเป็นอย่างที่สามเท่านั้น

ต่อมา พ.ร.บ. พ.ศ. 2491 ได้มีการปรับแก้ข้อความโดยทรัพย์สินส่วนพระองค์นั้น เป็นทรัพย์สินที่ทรงมีอยู่ก่อนครองราชสมบัติ หรือเป็นสิ่งที่รัฐทูลเกล้าฯ ถวาย หรือได้มาไม่ว่าจะเป็นทางใดหรือเวลาใด นอกจากที่ได้มาในฐานะพระมหากษัตริย์รวมไปถึงดอกผลจากบรรดาทรัพย์สินด้วย (ส่วนอีกสองประเภทยังคงใจความเดิม) ดังนั้น ทรัพย์สินส่วนพระองค์จากเดิมที่มีความหมายแคบในฉบับนี้ได้สร้างความชัดเจนให้ครอบคลุมมากขึ้นรวมถึงตัดข้อความ “จากบรรดาพระราชบุพการีใดๆ หรือจากบุคคลใดๆ ซึ่งไม่ได้เป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรนี้” ออกไปด้วย

ตัดกลับมาในยุคปัจจุบัน โดยเริ่มที่ พ.ร.บ. ฉบับ 2560 เสียก่อน ในฉบับนี้ได้แก้ไขข้อขัดข้องจากกฎหมายเก่า นั่นคือ แต่ก่อนนั้นทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดินและทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่เป็นเครื่องอุปโภค-บริโภคให้อยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง ส่วนนอกจากนี้ให้อยู่ในการดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ดังนั้นการบริหารงานได้แยกออกเป็นสองหน่วยทำให้ไม่เกิดการรวมศูนย์และแก้ปัญหาเชิงเทคนิคในการบริหาร ดังนั้นในฉบับ พ.ศ. 2560 จึงได้ระบุในมาตรา 6 เพิ่มเติมขึ้นมาโดยรวบให้การจัดการอยู่ในการดูแลของสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ แต่ยังให้พระมหากษัตริย์มีพระราชอำนาจในการจัดผลประโยชน์ การจัดการ และการดูแลให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัยได้

ฉบับนี้เป็นฉบับแรกที่ทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดินได้ตัดออกไป นั่นก็เพราะว่าทรัพย์สินประเภทนี้ได้ถูกทำให้อยู่ในทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตามความในมาตรา 10 เท่านั้น แต่การจัดการดูแลและสถานภาพต่างๆ ยังเหมือนเดิม เพียงแต่เป็นไปเพื่อความสะดวกในการบริหารเท่านั้น ดังความว่า “ให้ทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดินและทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พุทธศักราช 2479 และที่แก้ไขเพิ่มเติมที่มีอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตามพระราชบัญญัตินี้” นอกจากนี้ ส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินนั้นจะไปทับซ้อนกับเรื่องสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 ซึ่งมีการระบุไว้อยู่แล้ว

นอกจากนี้ เราต้องไม่ลืมว่าสำนักพระราชวังมีหน่วยงานอยู่มาก และการดูแลทรัพย์สินส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติแผ่นดินก็เคยอยู่ในการดูแลของสำนักพระราชวัง ทำให้นอกจากการดูแลแตกกระจายแล้วยังเป็นภาระด้วย เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและเป็นเอกภาพทรัพย์สินส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติแผ่นดินจึงถูกย้ายให้มาอยู่ในการดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน

ต่อมาในฉบับ พ.ศ. 2561 จึงทำให้เกิดความชัดเจนไปอีกขั้น โดยแสดงออกมาเป็นแผนผังด้านล่าง โดยอ้างอิงจากมาตรา 4

กล่าวคือ “ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์” แบ่งเป็นสองขา

ขาแรกคือ “ทรัพย์สินในพระองค์” ซึ่งส่วนนี้คือทรัพย์สินที่ทรงมีก่อนขึ้นครองราชย์ ทรัพย์สินที่รัฐทูลเกล้าฯ ถวาย และทรัพย์สินที่ได้มาไม่ว่าทางใดเวลาใดอันเป็นการส่วนพระองค์ รวมไปถึงดอกผลจากทรัพย์สินที่ว่าด้วย

ส่วน “ทรัพย์สินในพระมหากษัตริย์” คือทรัพย์สินพระมหากษัตริย์นอกจากทรัพย์สินในพระองค์ นั่นหมายความว่าทรัพย์สินเฉพาะพระองค์และทรัพย์สินที่ได้มาจากการเป็นพระมหากษัตริย์ได้ถูกแยกออกจากกันอย่างเด็ดขาดมากขึ้นซึ่งทำให้การเสียภาษีเป็นไปอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ดังปรากฏว่า มีการกำหนดให้ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์จะต้องเสียภาษี หรือหากส่วนใดไม่เสียก็ต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติที่ออกมาจากรัฐสภา เช่น หากเป็นการเก็บภาษีที่ดินและโรงเรือนในส่วนพระราชวังจะได้รับการยกเว้นตาม พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน อันหมายถึงให้รัฐสภาเป็นผู้กำหนดเอาเองว่าสิ่งใดต้องเสียภาษีหรือไม่เสียภาษีอันเป็นการพ้นไปจากการเมืองนั่นเอง และยังคงเสียภาษีในส่วนที่เป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์เช่นเคยไม่มีการเปลี่ยนแปลงดังระบุไว้ในมาตรา 9 ของฉบับ พ.ศ. 2561 ว่า “ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์จะต้องเสียภาษีอากร  หรือได้รับยกเว้นภาษีอากร  ย่อมเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น”

นอกจากนี้การจัดการให้ทรัพย์สินเป็นไปตามพระราชอัธยาศัยเราเห็นแล้วว่าได้สร้างประโยชน์เพียงใดเช่น การพระราชทานเงินกว่า 2 พันล้านบาทให้แก่โรงพยาบาล 27 แห่ง หรือการอำนวยที่อยู่อาศัยแก่ประชาชนและพัฒนาย่านต่างๆ อันเป็นการพัฒนาสังคมนั่นเอง

โดยสรุปแล้ว การจัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ “อะไรเคยเป็นมาก็ยังคงเป็นไป” เพียงแต่มีการจัดการบริหารใหม่ให้ไม่แตกกระจายและจัดให้มีเอกภาพในการบริหารจัดการมากขึ้นเท่านั้น

ไม่ได้เป็นการฮุบทรัพย์สินใดๆ ทั้งสิ้น

จึงถือได้ว่า พระองค์ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดดังปฐมบรมราชโองการทุกประการ”

...

เห็นได้ว่า สถาบันพระมหากษัตริย์มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ชัดเจนขึ้น เป็นเสาหลักของประเทศชาติและประชาชน สอดคล้องกับโลกยุคใหม่

นักการเมืองไทยต่างหาก โดยเฉพาะที่อ้างเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ พอเข้ามาเล่นเกมอำนาจ ก็ใช้วิธีการและสันดานแบบนักการเมืองน้ำเน่า แบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
07:49 น. เศรษฐศาสตร์วันหยุด : เศรษฐกิจไทยปี 2569 อาการน่าเป็นห่วง
07:32 น. เช็กเรตติ้งการเมือง!วันนี้‘คนอีสาน’เชียร์‘พรรคการเมือง’ไหน หนุนใครนั่ง‘นายกฯ’
07:30 น. ยิปซี 12 นักษัตร พยากรณ์ : ระหว่างวันที่ 2- 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2568
07:19 น. ‘นายกฯ’ขออภัยบกพร่องการสื่อสาร หลังพูดไทยก็มีรุกล้ำกัมพูชา ยันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
07:16 น. สกู๊ปพิเศษ : ชู ‘Amazing Thailand Innovation Gadget’ สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่แบบรู้ใจ
ดูทั้งหมด
พร้อมกันหรือยัง!!! เปิดภาพพยากรณ์อากาศ 12-13 พ.ย. อุณหภูมิเย็นลงอีกครั้ง
มิติใหม่! 'หน้าเหมือนองค์หญิงมาก องค์หญิงจ๊ะ' สมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี ทรงไลฟ์สดแต่งพระพักตร์ครั้งแรก (ชมคลิป)
มาแล้ว!!! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 28 ต.ค.-3 พ.ย.68
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568
'พี่ดี้'ถึงกับห่อเหี่ยวอดสู เห็นประกาศรับสมัครครูปฐมวัย เงินเดือน6,000บาท
ดูทั้งหมด
กองทัพไทยกับการสนับสนุนจากประชาชน
บุคคลแนวหน้า : 2 พฤศจิกายน 2568
อะไรที่ทุกคนต้องเรียน
‘พ่อ’ ลาออก ‘ลูก’ ขึ้นหัวหน้า
สส.ไทยมีประวัติ (เลว) กันทั้งนั้น!!!
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘นายกฯ’ขออภัยบกพร่องการสื่อสาร หลังพูดไทยก็มีรุกล้ำกัมพูชา ยันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

ยิปซี 12 นักษัตร พยากรณ์ : ระหว่างวันที่ 2- 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2568

‘ทั่วไทย’ฝนฉ่ำ-‘กทม.’ 80% ของพื้นที่ กรมอุตุฯเตือน‘อากาศแปรปรวน’ฉบับ 12

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568

'อนุทิน'โพสต์เนื้อเพลงบ้านเรา 'ทรุดกายลงจูบดิน ไม่ถวิลอายใคร'

เชิดชูเกียรติ 'จ.ส.อ.พลพร' นักรบภูมะเขือ รู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ขอสู้เพื่อประเทศชาติถึงที่สุด

  • Breaking News
  • เศรษฐศาสตร์วันหยุด : เศรษฐกิจไทยปี 2569 อาการน่าเป็นห่วง เศรษฐศาสตร์วันหยุด : เศรษฐกิจไทยปี 2569 อาการน่าเป็นห่วง
  • เช็กเรตติ้งการเมือง!วันนี้‘คนอีสาน’เชียร์‘พรรคการเมือง’ไหน หนุนใครนั่ง‘นายกฯ’ เช็กเรตติ้งการเมือง!วันนี้‘คนอีสาน’เชียร์‘พรรคการเมือง’ไหน หนุนใครนั่ง‘นายกฯ’
  • ยิปซี 12 นักษัตร พยากรณ์ : ระหว่างวันที่ 2- 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2568 ยิปซี 12 นักษัตร พยากรณ์ : ระหว่างวันที่ 2- 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2568
  • ‘นายกฯ’ขออภัยบกพร่องการสื่อสาร หลังพูดไทยก็มีรุกล้ำกัมพูชา ยันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ‘นายกฯ’ขออภัยบกพร่องการสื่อสาร หลังพูดไทยก็มีรุกล้ำกัมพูชา ยันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
  • สกู๊ปพิเศษ : ชู ‘Amazing Thailand Innovation Gadget’ สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่แบบรู้ใจ สกู๊ปพิเศษ : ชู ‘Amazing Thailand Innovation Gadget’ สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่แบบรู้ใจ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

อย่ากลัว MOU แรร์เอิร์ธไทย

อย่ากลัว MOU แรร์เอิร์ธไทย

31 ต.ค. 2568

สันติภาพ ย่อมดีกว่าสงคราม  และต้องเป็นสันติภาพที่มีศักดิ์ศรี

สันติภาพ ย่อมดีกว่าสงคราม และต้องเป็นสันติภาพที่มีศักดิ์ศรี

30 ต.ค. 2568

ราคาทองคำปรับฐาน  วิกฤตหรือโอกาส?

ราคาทองคำปรับฐาน วิกฤตหรือโอกาส?

29 ต.ค. 2568

มะเร็งร้าย  กัดกินระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า

มะเร็งร้าย กัดกินระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า

28 ต.ค. 2568

ค่ารถแห่โดนัลด์ ทรัมป์

ค่ารถแห่โดนัลด์ ทรัมป์

27 ต.ค. 2568

บอลไทยเปลี่ยนโค้ช

บอลไทยเปลี่ยนโค้ช

24 ต.ค. 2568

เพื่อไทยเปลี่ยนหัว  ยกเครื่อง หรือศัลยกรรมการเมือง?

เพื่อไทยเปลี่ยนหัว ยกเครื่อง หรือศัลยกรรมการเมือง?

23 ต.ค. 2568

พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ สำเร็จได้  สส.ทุกพรรค และสว.เห็นชอบ

พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ สำเร็จได้ สส.ทุกพรรค และสว.เห็นชอบ

22 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved