วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568
การเมืองเป็นเรื่องของทุกคนที่เป็นสมาชิกของสังคม เพราะการเมืองส่งผลต่อความเป็นอยู่ของทุกคนในสังคม แล้วการเมืองยังมีผลต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในสังคมด้วย ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น จะเป็นสัตว์หรือต้นไม้ก็ตาม
เมื่อรัฐ หรือประเทศใดมีรัฐบาลขึ้นมาปกครอง รัฐบาลที่ดีต้องปกครองคนทั้งหมดในสังคมด้วยความเท่าเทียมกัน และต้องทำให้คนทุกคนมีความสุขอย่างเสมอหน้ากัน แม้ในความเป็นจริงอาจไม่สามารถทำให้ทุกคนเป็นสุขได้ตามที่แต่ละคนต้องการได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่รัฐบาลที่ดีก็ต้องทำให้ทุกคนมีความสุขมากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ โดยเน้นหลักกระจายความสุขให้เท่าเทียมกันมากที่สุด หรือต้องให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างกันน้อยที่สุด
ความคาดหวังของคนกลุ่มต่างๆ ในประเทศย่อมแตกต่างกันไป ขึ้นกับว่าแต่ละกลุ่มเป็นใคร มีอาชีพอะไร มีพื้นเพของความคิดทางการเมือง และมีพื้นฐานความเป็นอยู่อย่างไร มีเศรษฐสถานะอย่างไร นอกจากนี้ ช่วงวัยของแต่ละกลุ่มก็มีผลต่อความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกันไปด้วย
ด้วยเหตุนี้ เราจึงพบว่าความคาดหวังทางการเมืองของคนแต่ละวัย แต่ละกลุ่มมีความแตกต่างกัน คนรุ่นเก่า ซึ่งถูกเรียกแบบหยามเหยียดโดยกลุ่มคนบางจำพวกที่เพิ่งเกิดได้ไม่นานว่า เป็นไดโนเสาร์เต่าล้านปี ก็คือคนรุ่นใหม่เมื่อ 50-60 ปี
เมื่อย้อนกลับไปถามคนรุ่นไดโนเสาร์ว่า สมัยที่เขาถูกเรียกว่าเป็นคนรุ่นใหม่ เขามีความคาดหวังต่อการเมือง อย่างไรบ้าง ในสมัยที่เขายังเป็นวัยรุ่น เขาลุกขึ้นเพื่อต่อสู้ และเรียกร้องให้รัฐบาลให้ยุคนั้นๆ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และแก้ไขบ้านเมืองในเรื่องใดบ้าง เมื่อถามคำถามนี้กับคนแก่ในยุคนี้ก็จะได้รับคำตอบมากมาย หลายเรื่องก็เป็นสิ่งที่ไม่ต่างไปจากข้อเรียกร้องของเด็กรุ่นใหม่ในวันนี้
ส่วนเด็กรุ่นใหม่ที่เพิ่งมีอายุ 14-15 ปี หรือหากโตขึ้นมาอีกสักหน่อยก็จะมีอายุประมาณ18-20 ปี เด็กรุ่นนี้บางกลุ่มก็มีความรักและเคารพคนรุ่นเก่าอย่างมาก เชื่อฟังคำบอกคำสอนของลุงป้าน้าอา ปู่ย่าตายาย และพ่อแม่ เพราะเด็กกลุ่มนี้ได้รับการเลี้ยงดูและปลูกฝังมาจากครอบครัวว่าต้องรัก เคารพ เชื่อฟังคนที่อาวุโสกว่า
แต่ก็ยังมีเด็กอีกไม่น้อยที่ไม่ให้ความสำคัญกับการแสดงความเคารพ หรือให้ความเกรงอกเกรงใจต่อผู้อาวุโส ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับการอบรม เลี้ยงดู สั่งสอนจากครอบครัวเป็นสำคัญ และยังขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่เด็กดำรงชีวิตอยู่อีกด้วย
เด็กสมัยนี้ บางกลุ่มเรียกตัวเองด้วยความสำคัญตัวผิดคิดว่าพวกของตนเป็นคนหัวก้าวหน้าทันสมัย สามารถเข้ามาเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองได้ และก็ยังมีเด็กบางจำพวกมองข้ามความสำคัญของผู้อาวุโส เพราะเข้าใจว่าคนแก่ไม่มีความรู้ ไม่มีความสามารถด้านเทคโนโลยี ไม่รู้เรื่องอินเตอร์เนต ไม่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์ ไม่รู้เรื่อง bitcoin สรุปว่า เด็กบางกลุ่มมองว่าคนแก่โง่และเขลากว่าตัวเอง ทั้งๆ ที่เด็กจำนวนไม่น้อยยังต้องพึ่งพาอาศัยคนแก่ที่ตัวเองดูถูกดูแคลนตลอดเวลา
บ้านเมืองนี้มีคนหลากหลายกลุ่ม หลายช่วงอายุ และหลายความคิดอาศัยอยู่ร่วมกัน ไม่มีใครบอกว่าบ้านเมืองตกเป็นของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ เมื่อบ้านเมืองเป็นของคนทุกคน ก็จำเป็นที่ทุกคนต้องร่วมกันดูแลบ้านเมือง
ไม่มีใครอนุญาตให้เด็กหรือคนแก่ดูแลบ้านเมืองโดยลำพัง แต่คนทั้งสองกลุ่มต้องช่วยกันดูแลบ้านเมือง ต้องช่วยกันประคับประคองให้บ้านเมืองเดินต่อไป เด็กต้องฟังคนแก่ คนแก่ก็ต้องรับฟังเด็ก ทุกคนต้องฟังกันและกัน แล้วช่วยกันทำให้บ้านเมืองเกิดความมั่นคง

ตอกหน้าฝรั่งดูแคลน! ประภาส เปิดอภินิหารคำว่า แล้ว พิสูจน์ความลึกซึ้งที่เหนือกว่า Tense
(คลิป) สื่อเขมร รายงานจริงครั้งแรก! ไทย ใช้ F-16 ทิ้งบอมปอยเปตพังท่องเที่ยวกัมพูชา
ปราชญ์ สามสี สดุดี จ่าเริง วีรบุรุษเนิน 350 ผู้ปกป้องแผ่นดินด้วยชีวิต
ทรัมป์ กร้าว ต้องการ กรีนแลนด์ เพื่อความมั่นคงของ สหรัฐฯ
เขมรกล่าวหาไทย ทิ้งระเบิด พ่นควันพิษ เป็น อาชญากรรมสิ่งแวดล้อม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี