เมื่อวานนี้ ได้เห็น “ข้อมูลความจริง” ว่าทางโรงเรียนเตรียมพัฒน์ ทั้งอนุโลม ให้เข้าเรียนก่อนจะมอบตัวเรียบร้อย และได้ติดตามจนเจอแม่และพ่อของหยกแล้วอย่างไรบ้าง
ครูนำเอกสารมอบตัวไปให้แม่หยกเซ็นถึงบ้าน แต่ไม่ออกมา!!!
ครูไปหาพ่อที่จังหวัดร้อยเอ็ด แต่ถูกไล่กลับ!!!
เรียกว่า พ่อแม่ไม่ให้ความร่วมมือในการมามอบตัวลูกเลย!!!
น่าแปลกใจมาก!!!
สถานีข่าว Top News ได้รายงานข่าว Exclusive ฟังความจริงอีกด้านจากเตรียมพัฒน์
ยังมีสาระสำคัญที่น่าสนใจเพิ่มเติมอีก ดังนี้
11. 9 มิถุนายน “หยก” ได้ลาโรงเรียน ครูได้วีดีโอคอลผ่านไลน์ เพื่อย้ำเรื่องการมอบตัว แต่หยกให้คุยกับบุ้ง ครูจึงย้ำเรื่องให้ผู้ปกครองหยกมาเซ็น
โดยบุ้งบอกว่า พยายามโทรศัพท์ติดต่อแม่หยกแล้วตั้งแต่ช่วงหยกอยู่สถานพินิจ แต่ติดต่อไม่ได้
ประเด็นนี้ทำให้ครูและโรงเรียน เกิดคำถามว่า ทำไม ไม่พาน้องไปบ้าน
12. 13 มิถุนายน ช่วงค่ำ หยกไปโพสต์ถูกโรงเรียนไล่ออก
จากนั้น 14 มิถุนายน “หยก” มาสาย เอากลุ่มทะลุวังมาด่าโรงเรียน ด่า รปภ. “บุ้ง” ไปตีกล้องวงจรปิด 2 ตัวมาสร้างความวุ่นวายปั่นป่วน และที่ครูไม่ให้เข้าเพราะด่าหยาบคาย และเกรงว่าถ้าเปิดประตูพวกนี้จะเข้ามา
ต่อมา 15 มิถุนายน กลุ่มทะลุวังได้อาศัยจังหวะเด็กเลิกเรียน ซึ่งโรงเรียนต้องเปิดประตู บุกเข้ามาถึง อาคาร ผอ.
ช่วง 3 วันที่หยกต้องปีนเข้าโรงเรียนนั้น เพราะหยกมาโรงเรียนสาย มาเวลาประตูปิดไปแล้ว ส่วนเด็กคนอื่นจะมาโรงเรียนตั้งแต่ตี 5 จนถึง 7 นาฬิกา
โดยโรงเรียนจะเข้าแถวเคารพธงชาติ เวลา 07.15 น.ซึ่งหากหยกมาตามเวลาปกติ ก็ไม่ต้องปีนเข้าโรงเรียน
เห็นได้จากในวันที่หยกมาถึงโรงเรียนเวลาประมาณ 07.10 น. ก็สามารถเข้าโรงเรียนได้ และโรงเรียนไม่อยากห้ามปราม ไม่อยากให้เกิดการปะทะ
13.หลังจากเกิดเหตุการณ์หยกปีนเข้าโรงเรียน เพื่อนร่วมห้องหยกรู้สึกไม่ปลอดภัย หวาดกลัว กลัวถูกล่าแม่มด
ถึงขั้นจัดโต๊ะใหม่ในห้องเอง โดยแยกโต๊ะออกห่างจากโต๊ะของหยก พร้อมบอกครูที่ปรึกษาว่าไม่ไหวแล้ว
มีเด็กในห้องไปพบ ผอ.เพื่อถามว่าทำไมไม่จับหยก เพราะโรงเรียนออกแถลงการณ์ไปแล้ว หากมีการพกมีด ปืน เอามาทำร้ายเพื่อนในห้อง ใครจะรับผิดชอบ
เด็กนักเรียนคนอื่นๆ ยังถูกคุกคามจากพวกทะลุวังมีการตะโกนหยาบคายจากริมรั้วใส่เด็กที่กำลังกินข้าวเด็กรู้สึกไม่ปลอดภัย
อดีตครูที่ปรึกษา ม.3 ยอมรับว่าหยกเป็นคนละคนจากที่จบม.3 ไป
14.โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ มีนักเรียน 4,073 คน ไม่รวมหยก
โรงเรียนกังวลว่าเด็กจะอยู่ในสภาวะหวาดระแวงอย่างนี้ไปอีกนานขนาดไหน
วันนี้โรงเรียนได้รับกระทบหลายอย่าง ผู้ปกครองมาส่งนักเรียนไม่สะดวก เด็กเกิดความหวาดกลัว
เครือข่ายผู้ปกครองรู้สึกไม่มั่นใจในความปลอดภัยของลูกหลาน ได้พร้อมใจกันตั้งคณะกรรมการรักษาความปลอดภัยในโรงเรียน จัดเวรยามมาดูแลเด็กทุกวัน ไม่ต่ำกว่า 10 คนต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา
พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจและกองร้อยน้ำหวานมาดูแลความปลอดภัยในโรงเรียน
หากยังมีการบุกรุกโรงเรียนอีก เครือข่ายผู้ปกครองจะแจ้งความเอาผิดคนที่ยุยงส่งเสริม ไม่เอาเรื่องหยก พร้อมทั้งชี้ว่าคนที่จะหยุดหยกได้คือบุ้ง เพราะหยกไลน์คุยกับบุ้งตลอด
15. โรงเรียนยืนยัน หยกไม่ใช่นักเรียนของโรงเรียนแล้ว ไม่สามารถต่อรองได้อีก
เขตพื้นที่การศึกษา กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจิตแพทย์ต้องร่วมหาทางออก หาที่เรียนให้กับหยก และต้องนำผู้ปกครองมาพูดคุยให้ได้
เพราะถึงแม้หยกจะยอมไปเรียนที่อื่น แต่ก็ต้องให้ผู้ปกครองตัวจริงตัดสินใจ ไม่ใช่บุ้ง
อีกทั้งไม่ใช่แค่หยก แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องช่วยให้เด็ก 4 พันคนเรียนหนังสืออย่างปลอดภัยด้วย เพราะวันนี้สิทธิของเด็ก 4 พันคนถูกคุกคาม
16.การหารือระหว่างนายกสมาคมผู้ปกครองกับ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และนางสาวเบญจา แสงจันทร์ สองว่าที่สส.พรรคก้าวไกล ผู้ปกครองเสนอให้ย้ายสถานศึกษา
ส่วนนายวิโรจน์ เสนอ 2 โรงเรียนคือ 1.โรงเรียนราชดำริ 2.โรงเรียนวัดธาตุทอง โดยนายวิโรจน์แจ้งว่าสามารถพูดคุยได้ แต่สุดท้ายให้หยกตัดสินใจ
17.ผู้บริหารโรงเรียนเชื่อว่า ขบวนการล้างสมองเด็กมีจริง ซึ่ง “ทำให้วิถีชีวิตเตรียมพัฒน์เปลี่ยนไปไม่ปกติ”
ข้างต้น คือบางส่วนของรายงานเชิงลึก ฟังความจริงอีกด้านจากเตรียมพัฒน์
สอดคล้องกับนายปรีชา จิตรสิงห์ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ กล่าวว่า
“วันนี้สังคมจะต้องทราบข้อมูลความจริงเชิงลึก ที่ต้องเปิดเผยว่าที่ผ่านมาโรงเรียนได้ทำอะไรบ้าง
ผมก็ต้องขอชื่นชม และให้กำลังใจ คณะผู้บริหารครู และภาคีเครือข่ายของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ที่ได้ทุ่มเทเสียสละ อุทิศตน สุ่มเสี่ยง ที่ต้องลงไปติดตามพ่อแม่ น้องหยก ถึงบ้านที่จังหวัดร้อยเอ็ด และกรุงเทพฯ หลายครั้งพ่อแม่น้องหยกก็ไม่ใยดี
สังคมกรุณาหาคำตอบให้ด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น
ทำไมพ่อแม่น้องหยกและญาติพี่น้อง ไม่ยอมมามอบตัวน้องหยก ตามระเบียบของทางราชการ
ถึงเวลาแล้วที่หน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาดูแลด้วยไม่ใช่ปล่อยให้โรงเรียนรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทุกวัน
...เราต้องผลักประเด็นเหล่านี้ออกนอกสถานศึกษา เนื่องจากเวลานี้เด็กกว่า 4,000 คน ไม่มีสมาธิในการเรียนหลายวันแล้ว
บางคนกลัวเพราะได้ยินคนที่เข้ามาพูดจา ก้าวร้าวคุกคาม พูดจาแรง” -นายปรีชา กล่าว
ล่าสุด สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ออกประกาศให้กำลังใจโรงเรียน
โดยพลอากาศตรีหม่อมหลวงเฉกฉันท์ เกษมสันต์ นายกสมาคมฯ ได้ลงนามประกาศ เนื้อหาบางส่วนระบุว่า
“....ขอประกาศสนับสนุนโรงเรียนในทุกวิธีการ
ซึ่งที่ผ่านมาทางสมาคมผู้ปกครองและครูฯได้ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดและพบว่า โรงเรียนได้ดำเนินการเป็นไปตามระเบียบวิธีปฏิบัติอย่างมีขั้นตอนมาตามลำดับ
ทั้งนี้ สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ขอเป็นกำลังใจให้โรงเรียนผู้ปกครอง และนักเรียนทุกคน
และแจ้งให้ทราบว่าปัจจุบันทางโรงเรียนไม่ได้เพิกเฉยยังคงกำลังดำเนินการในขั้นตอนต่อไปอยู่อย่างเหมาะสมเกิดผลดีทั้งต่อทางโรงเรียน และต่อเยาวชนที่ตกเป็นข่าว
จึงขอให้ทุกฝ่ายอดทน อดกลั้น มีความเชื่อมั่น และติดตามข่าวจากประกาศของทางโรงเรียนต่อไป”
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี