 วันเสาร์ ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
                วันเสาร์ ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
             
							ในระยะ 8-9 ปีมานี้ได้เกิดความขัดแย้งในหมู่ประชาชนชาวไทยอย่างรุนแรงและกว้างขวางยิ่งกว่าครั้งใดในประวัติศาสตร์ของชาติ จนเป็นที่หวาดวิตกแก่บรรดาผู้รับผิดชอบบ้านเมืองภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งประชาชนทั่วไป เพราะลักษณะความแตกสามัคคีในครั้งนี้กว้างขวางร้ายแรงไม่ต่างกับเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2
ต่างกันตรงที่เมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 นั้นเป็นความขัดแย้งระหว่างหมู่ขุนนางที่แตกแยกเป็นฝักฝ่ายและส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป แต่ปัจจุบันนี้มีการนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเครื่องมือในการสร้างและขยายความขัดแย้ง
ทั้งที่พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทรงเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศผู้ใดจะละเมิดมิได้ และพระองค์ทรงสถิตอยู่เหนือการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องของนักการเมืองและประชาชนที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการกันในทางการเมือง โดยพระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้ใช้อำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทยผ่านทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาลและองค์กรอิสระ
นับตั้งแต่สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นต้นมาเป็นเวลา 200 ปีเศษแล้ว ไม่เคยมีครั้งใดทีมีการแอบอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์ไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอย่างกว้างขวางรุนแรงเหมือนกับปัจจุบันนี้
มีการตั้งข้อกล่าวหาว่ามีผู้ไม่จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ มีผู้ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยใช้วาทกรรมเฉพาะว่า “ชังชาติ ชังเจ้า” เป็นวาทกรรมหรือเครื่องมือหลักในการปฏิบัติการทางสื่อมวลชน และทางมวลชน โดยมีการตั้งขบวนการปฏิบัติการในเรื่องนี้หรือที่เรียกว่าขบวนการ IO หลายหน่วยงาน
อาศัยความศรัทธาเชื่อมั่นของประชาชนชาวไทยที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเครื่องมือจูงใจดึงดูดประชาชนเข้าร่วม ดังนั้น ไม่ว่าใครก็ตามที่ถูกกล่าวหาว่าชังชาติ ชังเจ้า จะกลายเป็นที่เกลียดชังหรือถูกต่อต้านจากประชาชนผู้มีความจงรักภักดีโดยทั่วไป
การใช้วาทกรรมชังชาติ ชังเจ้า ปฏิบัติและขยายตัวอย่างกว้างขวางตลอดระยะเวลา 7-8 ปีมานี้ การตราบทกฎหมายหลายฉบับซึ่งวิปริตวิปลาสก็อ้างเรื่องนี้ว่าจำเป็นจะต้องตรากฎหมายอย่างนั้นเพื่อพิทักษ์ปกป้องสถาบัน
และเพื่อประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้งทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติก็ได้ใช้วาทกรรมเรื่องชังชาติ ชังเจ้า เป็นเครื่องมือในการหาเสียง
เรียกร้องให้ประชาชนที่จงรักภักดีร่วมจิตร่วมใจกันสนับสนุนเลือกตั้งบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้มีความจงรักภักดี และต่อต้านหรือไม่เลือกบุคคลที่กล่าวหาว่าเป็นพวกชังชาติ ชังเจ้า
จนปัญหาเรื่องชังชาติ ชังเจ้า ขยายกระจายตัวไปแทบทุกอณูของประเทศไทย
เมื่อครั้งเลือกตั้งปี 2562 ก็มีการตั้งท่าจะกล่าวหาว่าบรรดาผู้เลือกพรรคฝ่ายค้านทั้งหมดเป็นพวกชังชาติ ชังเจ้าแต่มีคนจำนวนมากได้ทักท้วงไว้ว่าเป็นคนละเรื่องไม่เกี่ยวกัน ที่สำคัญ มีการยกเหตุผลว่าการกล่าวหาเช่นนั้นไม่เป็นธรรมต่อสถาบัน และเป็นการผลักไสประชาชนให้เป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับสถาบัน
เพราะประชาชนเลือกตั้งผู้แทนราษฎรด้วยอาศัยความรู้จักคุ้นเคยศรัทธาผู้สมัคร ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับสถาบันเลย จึงทำให้เรื่องราวครั้งนั้นสงบลง
ต่อมาในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ก็ใช้วาทกรรมเรื่องเดียวกันนี้อีก กล่าวหานายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าเกี่ยวข้องกับพวกชังชาติ ชังเจ้า แต่เนื่องจากนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มีภูมิหลังคุ้มกันแข็งแรง เนื่องจากอยู่ในสายตระกูลที่ถวายงานรับใช้ด้วยความสัตย์สุจริตเป็นที่รู้กันจึงปลอดภัยจากข้อกล่าวหา
ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ปรากฏว่านายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ชนะล้นหลาม ก็มีการตั้งข้อกล่าวหาว่าผู้สนับสนุนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นพวกชังชาติ ชังเจ้า แต่ในที่สุดข้อกล่าวหานั้นก็มลายหายไปเพราะไม่ตั้งอยู่ในความเป็นจริง
การผลักไสประชาชนที่มีความเห็นต่างทางการเมืองกับผู้มีอำนาจว่าเป็นพวกชังชาติ ชังเจ้า ยังขยายตัวต่อไปอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะหลังปรากฏผลการเลือกตั้งและ 8 พรรคการเมืองได้ประกาศตั้งรัฐบาลร่วมกันก็มีการกล่าวหาว่าเป็นพวกหรือเป็นฝ่ายพวกชังชาติ ชังเจ้า เป็นการผลักไสประชาชนผู้เลือกตั้งร่วม 27 ล้านคนให้เป็นพวกชังชาติ ชังเจ้า
ทั้งที่สถาบันไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ ในการเลือกตั้งเลย และมิได้เป็นฝักเป็นฝ่ายใดๆ กับพรรคการเมืองใดๆเลย จึงเป็นการแอบอ้างที่กระทบต่อสถาบันอย่างรุนแรง
หลังจากนั้นก็ยังมีการขยายผลผลักไสคนเห็นต่างหรือผู้สนับสนุน 8 พรรคการเมืองว่าเป็นพวกชังชาติ ชังเจ้า เพิ่มขึ้นไปอีก ลุกลามไปถึง สว. ที่มีท่าทีว่าจะโหวตสนับสนุนนายกรัฐมนตรีจาก8 พรรคการเมืองว่าเป็นพวกชังชาติ ชังเจ้า ไปด้วย
เกิดความขัดแย้งแตกแยกในหมู่ประชาชนอย่างกว้างขวางเป็นที่ประจักษ์ แทนที่จะมีการแก้ไขปัญหาให้บังเกิดความสามัคคีสมานฉันท์ในชาติ หรือเพื่อลดปัญหาความแตกแยกและความขัดแย้งภายในชาติ แต่ผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องกลับอ้างว่า
ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งนี้
ขออยู่นอกวงความขัดแย้งนี้ และอย่าดึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งนี้
นี่คือปัญหาใหญ่ของประเทศไทย แต่เชื่อว่าประชาชนชาวไทยทั้งประเทศย่อมตระหนักและทราบดีว่าสถาบันไม่ได้เกี่ยวข้องในทางการเมือง และมุ่งทำนุบำรุงประเทศชาติและราษฎรให้ร่มเย็นเป็นสุขแม้ในรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาครั้งแรก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ได้พระราชทานกระแสพระราชดำรัสชัดเจนว่า ขอให้สมาชิกรัฐสภาทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
ดังนั้นถึงเวลาที่ต้องหยุดสร้างความขัดแย้งเรื่องชังชาติ ชังเจ้า ได้แล้ว

 (คลิป) แนวหน้าTAlk : แร่แรร์เอิร์ธคืออะไร? ทำไมสหรัฐสนใจ!!
										(คลิป) แนวหน้าTAlk : แร่แรร์เอิร์ธคืออะไร? ทำไมสหรัฐสนใจ!!
									 รมว.กลาโหม เยี่ยมทหารกล้า ย้ำ ไม่ทอดทิ้ง ดูแลผู้เสียสละและครอบครัวอย่างดีที่สุด
										รมว.กลาโหม เยี่ยมทหารกล้า ย้ำ ไม่ทอดทิ้ง ดูแลผู้เสียสละและครอบครัวอย่างดีที่สุด
									 'ญาญ่า'ทำถึงเกิน! แปลงโฉมชวนหลอนเป็น'ปลากล้องโทรทรรศน์' ลุคนี้ทำเอาฮือฮาสนั่นโซเชียล
										'ญาญ่า'ทำถึงเกิน! แปลงโฉมชวนหลอนเป็น'ปลากล้องโทรทรรศน์' ลุคนี้ทำเอาฮือฮาสนั่นโซเชียล
									 คนละครึ่งพลัส 3 วัน ยอดใช้จ่ายรวมกว่า 5.4 พันล้าน ร้านค้าร่วมลงทะเบียนทะลุ 7.8 แสนราย
										คนละครึ่งพลัส 3 วัน ยอดใช้จ่ายรวมกว่า 5.4 พันล้าน ร้านค้าร่วมลงทะเบียนทะลุ 7.8 แสนราย
									 ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ชี้การถอดยศเจ้าชายแอนดรูว์ กษัตริย์ชาร์ลส์หวังสะสางราชวงศ์อังกฤษ
										ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ชี้การถอดยศเจ้าชายแอนดรูว์ กษัตริย์ชาร์ลส์หวังสะสางราชวงศ์อังกฤษ
									
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี