วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เส้นใต้บรรทัด
เส้นใต้บรรทัด

เส้นใต้บรรทัด

จิตกร บุษบา
วันอาทิตย์ ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2566, 02.00 น.
‘เดิมพัน’ ของการ ‘ล่มหัวจมท้าย’

ดูทั้งหมด

  •  

“แนวหน้าออนไลน์” รายงานว่า เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 8 ก.ย. 2566 ที่จ.อุดรธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และคณะ ปิดท้ายภารกิจลงพื้นที่ด้วยการเดินตลาดถนนคนเดิน เทศบาลนครอุดรธานี เพื่อสอบถามเรื่องของการค้าขาย และรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ได้สอบถามถึงเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ขณะที่นายกฯก็ตะโกนตอบว่า “ต้นปีหน้า”

ขณะเดียวกัน มีแม่ค้าระบุว่า เงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทขอให้ใช้ได้ทุกคน อย่าใช้ได้เฉพาะบางร้านเท่านั้น ให้ช่วยร้านค้าร้านเล็กๆ ด้วย เพราะตอนนี้ชาวบ้านเข้าใจผิดกันเยอะ อีกทั้งอยากให้ทบทวนเรื่องระยะทาง 4 กิโลเมตรเนื่องจากบางคนอยู่ในพื้นที่ห่างไกล โดยนายกฯ ยืนยันว่าเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ได้ใช้ทุกคน แม่ค้าจึงยิ้มดีใจและกล่าวขอบคุณนายกฯ


ส่วนบางคนบอกกับนายกฯว่า “บ้านผมมี 20 เสียงเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งหมด ผมคิดว่านายกฯจะเป็นคนที่หยิ่ง แต่มาเจอตัวจริงไม่ใช่เลย” ซึ่งนายกฯได้กล่าวว่า ต่อไปนี้
จะแบ่งพรรคไม่ได้แล้วต้องเป็นรัฐบาลของประชาชน และขอให้ช่วยรัฐบาลด้วย

ทั้งนี้ ในการเดินตลาดถนนคนเดินวันนี้สิ่งที่นายกฯอยากรับประทาน คือ ซาหริ่ม แต่ทั้งตลาดไม่มีขาย มีเพียงลอดช่องที่พ่อค้าตัวน้อยนำมามอบให้นายกฯได้ลองชิม
ก่อนนายกฯจะถามว่ามีอย่างอื่นไหมหรือมีแค่ลอดช่อง เมื่อนายกฯได้ลองชิมลอดช่องแล้วก็บอกว่าน้ำแข็งน้อยไปหน่อย ถ้าใส่เนื้อน้อยหน่อย ใส่น้ำแข็งเยอะหน่อย จะได้ประหยัดและได้กำไร พ่อค้าตัวน้อยจึงตอบกับนายกฯว่า ไม่เป็นไรให้นายกฯเยอะๆ ทำให้นายกฯก็บอกว่า ได้เยอะไม่กลัว แต่กลัวน้องขาดทุน เพราะต้องทำกำไรนะ พ่อค้าจึงตอบกลับทันทีว่า ถ้าให้นายกฯไม่กลัวขาดทุน นายกฯจึงทำท่าโยกย้ายพร้อมยกนิ้วโป้งให้

อย่างไรก็ตาม ตลอดการเดินตลาดมีประชาชนมาขอถ่ายรูปตลอดเส้นทางการเดิน โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองที่นำลูกหลานมาขอถ่ายรูปกับนายกฯ และบางคนก็ชมว่า
นายกฯตัวจริงหล่อ และสูงมาก

1) นี่คือบรรยากาศปกติของช่วง “ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์”นายกฯ ซึ่งเป็น “คนใหม่” ในพื้นที่การเมือง จะมีโอกาสได้สร้างความรัก ความชื่นชมแบบนี้ ก็ในช่วงนี้แหละ เมื่อถึง “ต้นปีหน้า” คือปี 2567 บรรยากาศอาจไม่เป็นเช่นนี้แล้ว โดยเฉพาะหากนโยบาย “ดิจิทัลวอลเล็ต” หรือ “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ยังไม่คืบหน้า เพราะนั่นคือ “ความคาดหวัง” ของประชาชนกลุ่มหนึ่ง พร้อมๆ กับเป็น “ความหวั่นไหว” ของประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง

2) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดราชดำเนินเสวนา “การบ้าน ครม.เศรษฐา 1 แก้วิกฤตประเทศ” วิทยากรประกอบด้วย นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสสถาบันการวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศไทย (TDRI), นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้า และอุตสาหกรรมไทย, นายเกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ ผู้ประสานงานเครือข่าย We Fair

นายนณริฏ กล่าวว่า จากผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาฝ่ายอนุรักษ์นิยม หันมาสนับสนุนเสรีนิยม และรัฐสวัสดิการมากขึ้น ในระยะยาว จะเห็นนโยบายใหม่ๆ มากขึ้นส่วนรัฐบาลเศรษฐา 1 เมื่อรวมกับ 2 ลุง (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ก็จะรวมฝ่ายอนุรักษ์นิยม เสรีนิยม และรัฐสวัสดิการ เข้าด้วยกัน ซึ่งคาดหวังอยากเห็นนโยบายที่ไม่เอื้อต่อนายทุน, นโยบายที่ลดความเหลื่อมล้ำ ให้โอกาส ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง, นโยบายที่ไม่แจกเงินโดยไร้ความรับผิดชอบ ความจำเป็น ต่อการแจก และเป็นภาระทางการคลัง รวมถึงนโยบายพัฒนาทุนนิยมแบบโลกยุคใหม่ รักษาขนบธรรมเนียมแบบเหมาะสม ไม่อยากให้เกรงกลัวต่างชาติมากเกินไป ดังนั้น จึงจะเป็นนโยบายที่ร่วมกันได้ทุกฝ่าย

ทั้งนี้ ความท้าทายของเศรษฐกิจในยุคหลังโควิด ที่เป็นเรื่องท้าทายของรัฐบาลเศรษฐา 1 ในระยะยาวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ภาครัฐต้องจัดคนเพื่อเข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ต้องคิดใหม่ทำใหม่ เช่น ภาคการท่องเที่ยว ถ้าต้องการจำนวนคนเข้ามากขึ้น ก็ต้องอุดหนุนทรัพยากรที่เรามี ด้านอาหาร ความต้องการอาจจะมากขึ้น แต่คุณภาพอาหารไม่ได้ดีขึ้นก็ต้องปรับปรุง

ส่วนความท้าทายระยะสั้น รัฐบาลจะต้องต่อสู้กันระหว่างแรงกดดันที่ประชาชนอยากให้รัฐบาลทำตามที่หาเสียงไว้ แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน ก็ต้องคัดกรองว่า
นโยบายไหนบ้างยังจำเป็นที่ต้องทำอยู่ นโยบายไหนเหมาะสมกับช่วงสถานการณ์ปัจจุบัน

นอกจากนี้ ยังได้ฝากเสนอรัฐบาลในเรื่อง เงินดิจิทัล10,000 บาท ที่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นได้ แต่ก็ต้องดูความเหมาะสมของสถานการณ์ และต้องดูว่าต้องกระตุ้นเท่าไร ถ้ากระตุ้นมากไปอาจจะทำให้เกิดเงินเฟ้อได้ หรือเอามาทำรัฐสวัสดิการอย่างอื่นแทน

อีกทั้งยังมีเรื่องหนี้ครัวเรือนที่สูงมาก จะต้องทำให้ประชาชนลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มเรื่องของความพอเพียงหรือต้องมีเงินออม ซึ่งควรจะเป็นเรื่องแรกๆที่รัฐบาลจะต้องทำ เรื่องกระจายอำนาจ เพื่อให้มีการดูแลพัฒนาในพื้นที่มากขึ้นและการต่อยอดสิ่งที่มีอยู่แล้ว อย่างบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อเข้าถึงคนหมู่มาก และต้องทำให้คนยืนได้ด้วยตัวเอง

อย่างไรก็ตามตนมองว่า รัฐบาลมีความเสี่ยง หน้าตารัฐมนตรีเราเลือกเองไม่ได้ เพราะเป็นกลไกทางการเมือง แต่เราเลือกนโยบายที่ดีที่สุดได้

3) นายธนิต กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นตัวเลือกที่ไม่มีทางเลือก เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และไม่ต้องเรียนรู้งานมาก เพราะมาจากภาคธุรกิจ แต่สภาพเศรษฐกิจที่อยู่ในสภาวะที่บอบช้ำต่อเนื่องมาหลายปี จากการรัฐประหาร และตลอด 9 ปี ที่ผ่านมา รัฐบาลเน้นไปที่ความมั่นคงมากกว่าเศรษฐกิจ รวมถึงยังต้องเจอวิกฤตโลก ปัญหาสภาพคล่อง และหนี้เปราะบาง ที่ล้วนติดลบหดตัวอย่างหนัก

ดังนั้น รัฐบาลใหม่ต้องเข้ามาแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยมีมาตรการ quick win คือ การแก้ปัญหาระยะสั้นที่ต้องทำให้เสร็จภายใน 3 เดือน แม้บางนโยบายอาจไม่ตอบโจทย์ความหวังของประชาชน แต่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการ ได้แก่ ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการอัดฉีดเงินต่างๆ เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่อง, แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน และหนี้ธุรกิจ, โปรโมทภาคท่องเที่ยว, แก้ปัญหาส่งออกหดตัว, ทบทวนแนวทางการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 600 บาท และปริญญาตรี 25,000 บาท หากจะปรับจริงควรเป็นเดือนพฤษภาคมปีหน้า และควรทยอยปรับ โดยไม่จำเป็นต้องเฉลี่ยเท่ากัน เพื่อให้ภาคเอกชนมีเวลาปรับตัว หรือปรับให้น้อยลงให้เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจ

การกระตุ้นเศรษฐกิจกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาทที่ต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่า จะหาเงินมาจากไหน เพื่อไม่ให้กระทบกับการเงินการคลัง และหนี้ของประเทศในอนาคตรวมถึงจะแจกเมื่อใด แจกอย่างไร เนื่องจากประชาชนคาดหวังว่า รัฐบาลจะแจกทุกปี ซึ่งโจทย์นี้ถือเป็นการเรียกความเชื่อมั่นให้กลับมา โดยเฉพาะการลงทุนจากต่างชาติ

นอกจากนี้ อยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับแรงงาน ยกระดับทักษะแรงงาน โดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจ แรงงานที่มีอายุ เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีทันสมัยแบบก้าวกระโดดและควรมีสวัสดิการที่สอดคล้องกับค่าครองชีพ

4) นายเกียรติอนันต์ กล่าวว่า รัฐบาลจะต้องแก้วิกฤตที่จะเกิดขึ้น 3 โจทย์คือ วิกฤตที่มาก่อนเวลา, วิกฤตที่ตามมาจากอดีต และวิกฤตที่รัฐบาลผิดพลาดหรือสร้างขึ้นมาเอง ซึ่งรัฐบาลต้องระวังให้ดี โดยในส่วนการศึกษาและแรงงาน เป็นเรื่องที่เชื่อมโยงกัน การศึกษาจะต้องปรับให้ตรงกับแรงงานที่ต้องการ และต้องได้รับ Upskill Reskill ให้เร็วที่สุด นโยบายการศึกษา ต้องทำเลย ทำใหญ่ทำเพื่อให้เกิดแรงงานในไทย

ส่วนอีก 4 ปีข้างหน้า ต้องระวังการศึกษา และความเหลื่อมล้ำที่จะเกิดขึ้นระยะยาว หากเกิดปัญหาเศรษฐกิจขึ้น ความเหลื่อมล้ำที่มีอยู่แล้วถ้าไม่ได้รับการศึกษาที่ดี ก็จะเกิดการความเหลื่อมล้ำรอบใหม่ ถ้าไม่แก้วันนี้จะเป็นปัญหาในอนาคต การแก้ในวันนี้ได้ก็จะปลดล็อกปัญหาในอดีตและวิกฤตในอนาคต ถ้าทำได้จะทำให้ภาคการบริหารรัฐบาลจะดีมาก

ทั้งนี้ ยังมีกลุ่มเปราะบางทางเศรษฐกิจ ที่ต้องการใช้รัฐสวัสดิการมาอุ้ม เพื่อที่จะพัฒนาตัวเอง ดังนั้นถ้าหากจัดสวัสดิการด้านการศึกษาดี สิ่งที่ได้จะไม่สูญเปล่า เช่น การฝึกงานแล้วมีค่าจ้าง เพื่อสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ดังนั้นเราต้องเริ่มต้นคำถามยากๆ เกี่ยวกับการศึกษา เช่น วิชาที่สอนเหมือนกัน ทำไมทุกโรงเรียนต้องทำซ้ำทำเหมือนๆ กัน ต้องตั้งคำถามว่า จำเป็นไหมที่ครูต้องสอนเหมือนกันทั้งหมด ถ้ามีคนสอนเก่งๆ แล้วสอนในเวลาเดียวกัน เปิดทีวีอัดคลิปนำไปเปิด แล้วครูในห้องเป็นครูที่จะสรุปบทเรียนแล้วสอนต่อ แบบนี้คุณภาพของกระบวนการจัดการเรียนรู้ จะใกล้เคียงกัน ดีกว่าปล่อยให้ครูต่างคนต่างสอน อีกทั้งวิธีการออกข้อสอบ ต้องออกแบบให้เหมาะกับเด็กแต่ละคน แต่อยู่ในเนื้อหาเรื่องเดียวกัน เป็นต้น

กระทรวงศึกษาฯและกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จะต้องเป็นกระทรวงต้นๆที่หลุดออกจากกรอบก่อน แม้จะมีคนตั้งความหวังกับกระทรวงเหล่านี้น้อย แต่ถ้าทำสำเร็จจะดีที่สุด ที่สำคัญคือ ต้องเปลี่ยนโครงสร้างทางการศึกษา และรัฐมนตรีที่เข้ามาต้องทุบกำแพง เพื่อพัฒนาการศึกษาให้ได้ เพราะไม่เช่นนั้นจะได้แค่เสียงปรบมือ แต่จะไม่ได้คะแนนในการเลือกตั้งครั้งถัดไป

5) นายนิติรัตน์กล่าวว่า จากการรับฟังข้อเสนอจาก 14 พรรคการเมือง เห็นว่า รัฐบาลใหม่ควรส่งเสริมรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า โดยอาจจะนำเงิน 5 แสนกว่าล้าน ที่จะใช้กับนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ไปใช้กับนโยบายรัฐสวัสดิการอื่น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เนื่องจากประเทศไทยยังมีผู้มีรายได้น้อยอยู่จำนวนมาก ตกอยู่ในสถานการณ์ส่งต่อความจน รวมถึงสังคมยังมีความเหลื่อมล้ำ สถานการณ์เปราะบาง ผู้สูงอายุเข้าไม่ถึงรัฐสวัสดิการ คนตกงาน เด็กหลุดจากระบบการศึกษา

และเมื่อเปรียบเทียบชุดข้อเสนอของพรรคการเมืองที่เป็นรัฐมนตรี พบว่า แต่ละพรรคการเมือง มีนโยบายไม่ตรงกับกระทรวงที่ดูแล ดังนั้น ต้องมองไปข้างหน้า จัดลำดับความสำคัญนโยบายเร่งด่วน และปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และไม่ควรลดสวัสดิการที่ให้ประชาชน แต่ควรปรับให้เพิ่มขึ้นมากกว่า และให้เน้นเรื่องปฏิรูปภาษี ปฏิรูปกองทัพ เพื่อให้มีเงินเพิ่มไปเติมงบสวัสดิการ เพื่อให้กำแพงของคนรวยที่สร้างขึ้นมีความสมดุลกับผู้มีรายได้น้อย เชื่อว่าจะทำให้เกิดความเท่าเทียม ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมให้ดีขึ้นได้ และควรเก็บภาษีเจ้าสัวมากกว่าเพิ่ม VAT จากประชาชน

6) ส่วนตัวผมเอง มีความกังวลเรื่อง

6.1. เอกภาพของรัฐบาล เพราะผมไม่เชื่อเรื่อง “ความปรองดอง” ที่ดูยังไงก็เป็นวาทกรรม เป็นเรื่อง“จอมปลอม” พรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้ มารวมกันด้วยความจำเป็นทางการเมือง และมีเป้าหมายตรงกันอยู่สองเรื่อง คือ อยากเป็นฝ่ายรัฐบาล กับต้องอุดโอกาสเป็นรัฐบาลของพรรคก้าวไกล เท่านั้นเอง แต่เรื่องอื่นๆ ทั้งนิสัยใจคอ อุดมการณ์ทางการเมือง แผลเป็นจากอดีต ฯลฯ ยังไม่ได้แนบกันสนิท แบบสนิทใจ

6.2. แต่การเดินเกมทางการเมืองแบบนี้ คือการ “โดดเดี่ยวพรรคก้าวไกล” ที่หากรัฐบาลชุดนี้ ไม่ทำผลงานให้ดีพอ ไม่ทำการเมืองให้สะอาด ไม่ทำเศรษฐกิจให้เฟื่องฟู
“โดดเดี่ยว” อาจกลายเป็น “โดดเด่น” และเป็นพรรคการเมืองที่คนอาจจะ “อยากลอง” หรือ “ให้โอกาส” ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ชนิด “มีเท่าไหร่ เทให้หมด” ก็เป็นได้

6.3. น่าชื่นชม นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ที่ปรับตัวเร็วปรับท่าทีเป็นท่าทีเชิงบวกให้คนเปิดใจรับได้เร็วมาก รู้จักเข้าหาประชาชน และมีความระมัดระวังในการพูดจา ขอเพียงอย่างเดียวว่า อย่าทุจริต อย่าเปิดโอกาสให้คนในพรรคและในพรรคร่วมกระทำการทุจริต อย่าทำอะไรที่คนมองว่า “เอื้อประโยชน์กับตระกูลชินวัตร” มากเกินไป

6.4. ที่น่าหวั่นใจนอกเหนือจาก จะเอาเงินจากไหนมาทำ “กระเป๋าเงินดิจิทัล” แล้ว ปี 2567 คาดการณ์กันว่าจะประสบ “ภัยแล้งและการขาดแคลนน้ำ” อย่างหนัก เนื่องจากปริมาณน้ำกักเก็บในเขื่อนต่างๆ มีน้อยมาก ขณะนี้ฝนเริ่มทิ้งช่วงแล้ว จะเร่งเติมน้ำลงไปในเขื่อนและแหล่งน้ำต่างๆ ได้อย่างไร ปลายปีนี้ ปริมาณฝุ่นและไฟป่าจะหนักหนาแค่ไหน ในภาวะที่หน้าดินแห้งและอากาศร้อนจัด นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ต้องเตรียมการแต่เนิ่นๆ คาดการณ์ผลล่วงหน้าแบบ “ร้ายแรงที่สุด” แล้วเตรียมแผนรับมือ เนื่องจากจะกระทบกับเกษตรกร ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ และเป็นฐานคะแนนของรัฐบาลด้วย

6.5. ส่วน “ดิจิทัลวอลเล็ต” ดูเหมือนจะเป็น “ความหวัง” ของคนจำนวนมหาศาล หากไม่ทำก็จะยุ่ง จะวุ่น จะเสียเครดิต หากทำ จะเอาเงินมาจากไหน จะมีผลข้างเคียงอะไร จะเป็น “พายุหมุน” หมุนเศรษฐกิจได้สมดังปรารถนาหรือไม่ ล้วนยังเป็นคำถาม

แต่การณ์ไกลที่ต้องมองร่วมกันในกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้ก็คือ ในพื้นที่การเมือง พวกคุณได้กำหนด “เส้นแบ่ง” ใหม่แล้ว นั่นคือ “ก้าวไกล” กับ “ปฏิก้าวไกล”

พวกปฏิก้าวไกลอย่างคุณ คือการมัดรวมกันของอนุรักษ์นิยม ประชานิยม และทุนนิยม (ที่เคยสามานย์มาแล้วด้วย)

การดำเนินการปลายสุดของรัฐบาลที่แล้ว เรื่องขอพระราชทานอภัยโทษ ให้นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร จนได้รับพระมหากรุณาธิคุณอภัยลดโทษ อาจเป็นอีกเรื่องที่ถูกนำมา “มัดรวม” เพราะคนเห็นการ“มีเราและมีลุง” แม้ลุงทั้งสองจะกระโดดออกเพื่อลดแรงเสียดทานแล้วก็เถอะ

จึงขอให้มีสติในการเป็นรัฐบาล บริหารประเทศ เพราะในภาพรวมทางการเมืองที่มีการขีดเส้นแบ่งเช่นนี้ คือการ “เทหมดหน้าตัก” เพื่อสู้กับ “ก้าวไกล”

จะชนะหรือพ่าย ลอยหรือจม มันได้อยู่ในสภาพ “ล่มหัวจมท้าย” ไปด้วยกันแล้วครับ!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
15:41 น. แอดมิทด่วน! 'เอ๊ะ จิรากร'เล่าประสบการณ์หัวใจเต้นผิดปกติ
15:40 น. 'อนุสรณ์'แนะเปิดใจรับฟังเหตุผลงบรีโนเวตสภาฯ ไม่ใช่ตัดสินไปก่อน
15:35 น. สองผัวเมียอารมณ์ดี! ‘ขายหอยครก 6 ราง’ ทำขายแทบไม่ทัน-ลูกค้าเพียบ
15:20 น. ป่วนใต้หลายจุด! จุดไฟเผากล้อง-แขวนป้าย-วางวัตถุต้องสงสัย 3 อำเภอในยะลา
15:14 น. 'ทวี'เผย'กกต.'ประสาน'ดีเอสไอ'แปะหมายเรียกหน้าบ้าน 6 สว. คดีฮั้ว
ดูทั้งหมด
ภาพอบอุ่นใจความรักที่งดงามของ 'กษัตริย์จิกมี-สมเด็จพระราชินี-เจ้าชาย-พระธิดา' ในยามค่ำคืนของทะเลทรายโกบี
(คลิป) 'ฐปณีย์' เละคาบ้าน! ด้อยค่าคนไม่เห็นด้วย 'เมียจ่าปืน' ออกโรงตอกกลับไม่ใช่ IO
‘ลาออก’ไปเถอะ! ฉะ‘นายกฯ’มีสติปัญญาแค่นี้ แผ่นเสียงตกร่องชู‘กาสิโน’แก้เศรษฐกิจ
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 4-10 พ.ค.68
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
ดูทั้งหมด
อวสาน‘ทักษิณ’คุกรออยู่
ความต่างของ สิงคโปร์ กับ ไทย
คุกนรก (1)
นักการเมือง ‘ส้มสารพิษ’
บุคคลแนวหน้า : 9 พฤษภาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'อนุสรณ์'แนะเปิดใจรับฟังเหตุผลงบรีโนเวตสภาฯ ไม่ใช่ตัดสินไปก่อน

แอดมิทด่วน! 'เอ๊ะ จิรากร'เล่าประสบการณ์หัวใจเต้นผิดปกติ

เศร้า! ช้างป่ากุยบุรีขาเจ็บล้มแล้ว สะเทือนใจผลชันสูตร

ปตท. ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติส่วนเพิ่มแหล่งอาทิตย์เสริมความมั่นคงพลังงานไทย

'ทวี'เผย'กกต.'ประสาน'ดีเอสไอ'แปะหมายเรียกหน้าบ้าน 6 สว. คดีฮั้ว

วัฒนธรรมโบราณ! พิธีล้างพระธาตุศรีสองรัก สักขีพยานสัมพันธไมตรีสองแผ่นดิน 465 ปี

  • Breaking News
  • แอดมิทด่วน! \'เอ๊ะ จิรากร\'เล่าประสบการณ์หัวใจเต้นผิดปกติ แอดมิทด่วน! 'เอ๊ะ จิรากร'เล่าประสบการณ์หัวใจเต้นผิดปกติ
  • \'อนุสรณ์\'แนะเปิดใจรับฟังเหตุผลงบรีโนเวตสภาฯ ไม่ใช่ตัดสินไปก่อน 'อนุสรณ์'แนะเปิดใจรับฟังเหตุผลงบรีโนเวตสภาฯ ไม่ใช่ตัดสินไปก่อน
  • สองผัวเมียอารมณ์ดี! ‘ขายหอยครก 6 ราง’ ทำขายแทบไม่ทัน-ลูกค้าเพียบ สองผัวเมียอารมณ์ดี! ‘ขายหอยครก 6 ราง’ ทำขายแทบไม่ทัน-ลูกค้าเพียบ
  • ป่วนใต้หลายจุด! จุดไฟเผากล้อง-แขวนป้าย-วางวัตถุต้องสงสัย  3 อำเภอในยะลา ป่วนใต้หลายจุด! จุดไฟเผากล้อง-แขวนป้าย-วางวัตถุต้องสงสัย 3 อำเภอในยะลา
  • \'ทวี\'เผย\'กกต.\'ประสาน\'ดีเอสไอ\'แปะหมายเรียกหน้าบ้าน 6 สว. คดีฮั้ว 'ทวี'เผย'กกต.'ประสาน'ดีเอสไอ'แปะหมายเรียกหน้าบ้าน 6 สว. คดีฮั้ว
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

‘พีระพันธุ์’ จะรอดหรือจะร่วง

‘พีระพันธุ์’ จะรอดหรือจะร่วง

7 พ.ค. 2568

‘ทักษิณ’ จะต้อง ‘ติดคุก’ หรือไม่?

‘ทักษิณ’ จะต้อง ‘ติดคุก’ หรือไม่?

4 พ.ค. 2568

ไอ้นี่มัน ‘เหวง’ ไม่หาย

ไอ้นี่มัน ‘เหวง’ ไม่หาย

30 เม.ย. 2568

‘กฎหมาย’ หรือ ‘ชะตา’ ที่ไล่ล่า ‘แพทองธาร’

‘กฎหมาย’ หรือ ‘ชะตา’ ที่ไล่ล่า ‘แพทองธาร’

27 เม.ย. 2568

เรื่องของ ‘ทราย สก๊อต’

เรื่องของ ‘ทราย สก๊อต’

23 เม.ย. 2568

‘ไชยชนก ชิดชอบ’ ปิดจ๊อบได้สวย

‘ไชยชนก ชิดชอบ’ ปิดจ๊อบได้สวย

20 เม.ย. 2568

เอา ‘ทักษิณ’ ไปเก็บซะ!

เอา ‘ทักษิณ’ ไปเก็บซะ!

16 เม.ย. 2568

‘กาสิโน’ กับการ ‘ทิ้งไพ่’ ของภูมิใจไทย

‘กาสิโน’ กับการ ‘ทิ้งไพ่’ ของภูมิใจไทย

13 เม.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved