วันศุกร์ ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2566, 02.00 น.
การค้าขายกับต่างชาติ จากสมัยอาณาจักรสุโขทัย มาถึงรัฐบาลชุดใหม่

ดูทั้งหมด

  •  

ก็เป็นอันแน่นอนแล้วว่า งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗ ของรัฐบาลที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี จะถูกปรับเปลี่ยนให้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ประมาณ ๓.๓๕ ล้านล้านบาท เป็น ๓.๔๘ ล้านล้านบาท โดยยังคงเป็นงบประมาณขาดดุล ซึ่งเป็นที่คาดการณ์ว่าในส่วนของงบประมาณที่ถูกปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า ๑ แสนล้านบาทนั้น จะถูกนำไปใช้ในโครงการต่างๆ ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และปรับฐานะความเป็นอยู่ของผู้มีรายได้น้อยให้ดีขึ้น งบประมาณส่วนที่จะต้องเพิ่มขึ้นนี้ น่าจะต้องมาจากเงินกู้เป็นหลัก ซึ่งย่อมทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอันเป็นภาระของรัฐบาลมากขึ้น

ในส่วนของการหารายได้ของรัฐเพิ่มนั้น  คงเห็นชัดเจนแล้วว่าจะมุ่งเน้นการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว  โดยการเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวจากเดิมที่คาดกันว่าจะอยู่ที่ประมาณ ๒๕ ล้านคนให้เป็น ๓๐ ล้านคนเป็นอย่างต่ำ โดยนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนยังคงเป็นตลาดหลัก ซึ่งรัฐบาลโดยคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบแล้วให้ นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเข้ามายังประเทศไทยได้ในลักษณะฟรีวีซ่า ซึ่งหมายความว่าไม่ต้องมีวีซ่าแต่อย่างใด ซึ่งได้ให้ใช้กับนักท่องเที่ยวจากประเทศคาซัคสถานเช่นกัน และเชื่อว่าอาจจะขยายไปยังประเทศอื่นๆ อีกด้วย


นอกจากการท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศแล้ว รายได้จากสินค้าส่งออกอื่นๆ ก็ยังเป็นรายได้ที่สำคัญ  ไม่ว่าจะเป็นจากอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และสินค้าการเกษตร ซึ่งข้าวก็ยังคงเป็นสินค้าหลัก ที่ทำรายได้เข้าสู่ประเทศเป็นอันดับต้นๆ นอกเหนือจากสินค้าที่เป็นอาหารสำเร็จรูปและอื่นๆ  ซึ่งสินค้าต่างๆ เหล่านั้นหากส่งออกได้มากขึ้นก็ย่อมนำมาสู่รายได้ของประเทศที่เพิ่มมากขึ้นแน่นอน  แต่สิ่งที่ควรทำเพิ่มเติมด้วยก็คือการจัดเก็บภาษี ของการค้าขายในประเทศ ให้มีความครบถ้วนมากยิ่งขึ้น

หากย้อนประวัติศาสตร์การค้าขายของชาติไทยกับต่างชาติไปในอดีต ก็จะพบว่า บันทึกทางประวัติศาสตร์ได้กล่าวไว้ว่าชาติไทยได้เริ่มการค้าขายมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรสุโขทัย ซึ่งได้รับการสถาปนาตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๑๗๘๒ โดยมีพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรก

บันทึกเรื่องการค้าขายได้เกิดขึ้นในสมัยที่พ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระราชโอรสของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ได้ขึ้นครองราชย์ และได้ขยายอาณาเขต อำนาจปกครองลงไปตลอดแหลมทอง ครอบคลุมอาณาจักรฟูนัน อาณาจักรทวารวดี อาณาจักรศรีวิชัย ที่มีการค้าขายมาก่อนแล้ว โดยเป็นตลาดใหญ่ที่มีการค้าขายติดต่อกับต่างประเทศ อาทิ กับจีน กับมอญ เป็นต้น จึงเป็นช่องทางที่ทำให้พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ได้เห็นโอกาสที่จะทำให้ประเทศมั่งคั่งสมบูรณ์ จากการค้าขายระหว่างเมืองและระหว่างประเทศ  ดังที่ได้ปรากฏไว้ในหลักศิลาจารึกหลักที่ ๑ ของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชที่จารึกไว้ว่า “เมื่อชั่วพ่อขุนรามคำแหง เมืองสุโขทัยนี้ดี ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เจ้าเมืองบ่เอาจกอบในไพร่ลู่ทาง เพื่อนจูงงัวไปค้า ขี่ม้าไปขาย ใครจักใคร่ค้าช้างค้า ใครจะใคร่ค้าม้าค้า ใครจะใคร่ค้าเงินค้าทองค้า ไพร่ฟ้าหน้าใส”

คำว่าจกอบมาจากภาษาเขมรว่า จังกอบ แปลว่าภาษีชนิดหนึ่งที่เก็บจากผู้นำสัตว์และสิ่งของที่มาจำหน่าย ซึ่งคงจะเรียกเก็บจากสินค้าเข้าออกของพ่อค้าที่ค้าขายกันในแหลมทองมาตั้งแต่โบราณกาล   เช่น ในอาณาจักรฟูนันและศรีวิชัย รวมทั้งเมืองในชั้นหลังๆ ที่ดำเนินการแบบเดียวกัน การยกเลิกการเก็บจกอบโดยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชนั้น นับว่าเป็นการที่พระองค์ได้มุ่งส่งเสริมการค้าขายระหว่างประเทศเป็นการใหญ่ เปิดโอกาสให้พ่อค้าไทยกับต่างประเทศได้นำสินค้าเข้ามาและออกจากสุโขทัยได้โดยไม่ต้องเสียภาษีใดๆ เทียบเท่ากับปัจจุบันนี้ก็คือฟรีเทรด

จากการที่พระองค์ได้ขยายอาณาเขตไปอย่างกว้างขวาง  ทำให้กรุงสุโขทัยเป็นจุดสำคัญในการติดต่อค้าขาย โดยมีเส้นทางติดต่อหลายเส้นทาง  เส้นทางแรกคือระหว่างกรุงสุโขทัยกับเมืองเมาะตะมะ มะริด และตะนาวศรี ซึ่งเชื่อมโยงกรุงสุโขทัย กับมอญ พม่า อินเดีย เปอร์เซีย อาหรับ และแอฟริกา ทำให้กรุงสุโขทัย ส่งสินค้าเช่นเครื่องสังคโลกผ่านไปยังเมืองต่างๆ เหล่านั้นได้  และส่งต่อไปขายยังต่างประเทศ

เส้นทางที่ ๒ ระหว่างสุโขทัยกับหัวเมืองฝ่ายใต้ตั้งแต่เพชรบุรีลงไปถึงนครศรีธรรมราช ปัตตานีและตลอดแหลมมลายู  ส่วนเส้นทางที่ 3 คือ
เส้นทางอื่นๆ ที่ไปยังจีน เขมร ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น เกาหลี ศรีลังกา และอินเดีย ซึ่งเส้นทางที่กล่าวมานี้ จะเห็นว่ามีทั้งเส้นทางบกและเส้นทางน้ำ

สินค้าส่งออกที่สำคัญจากกรุงสุโขทัยได้แก่เครื่องสังคโลก ผลิตผลการเกษตรและของป่า หนังสัตว์ ไม้ฝางไม้กฤษณา งาช้าง นอแรด ส่วนสินค้านำเข้า ได้แก่ผ้าแพร ผ้าไหม ผ้าต่วน เครื่องเหล็ก และอาวุธต่างๆ

การเริ่มมีระบบเงินตรามาใช้ช่วยทำให้ระบบเศรษฐกิจดีขึ้น เป็นการจูงใจให้ประชาชนประกอบอาชีพเพื่อจะได้มีทรัพย์สินเป็นของตนเอง และด้วยเหตุที่สุโขทัยมีแร่ธาตุหลายชนิด เช่น เงิน ทอง ดีบุก เหล็ก จึงมีการนำแร่เงินมาใช้ในการทำเงินตราที่เรียกว่าเงินพดด้วง เป็นการพัฒนาระบบเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดความสะดวกในการแลกเปลี่ยนสินค้า โดยเงินพดด้วงเหล่านั้นแบ่งออกเป็นสลึง บาท และตำลึง ส่วนเงินตราที่มีค่าน้อยคือ เบี้ยหอย ที่ทำจากหอย การที่มีเงินตราใช้ทำให้เกิดความสะดวกต่อการชำระหนี้ในการซื้อขายและเกิดการกระจายสินค้าอย่างกว้างขวาง ตลาดการค้าขยายตัว พ่อค้าได้รับความสะดวก ทำให้เกิดความรุ่งเรืองขึ้นในอาณาจักรสุโขทัยอย่างมากมาย

สำหรับประเทศไทยในปัจจุบันนี้  สินค้าส่งออกแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่คือสินค้าอุตสาหกรรม  และสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร

สินค้าอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ คือรถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ และส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณี และเครื่องประดับ หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศ และส่วนประกอบ สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน

ส่วนสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่สร้างรายได้อันดับต้นๆ คือข้าว น้ำตาลทรายเครื่องดื่ม ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง ผักกระป๋อง และผักแปรรูป ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ยางพารา เหล่านี้ เป็นต้น

โดยปัจจุบันนี้แนวโน้มการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะลดลง โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวกับการเกษตร จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลชุดใหม่นี้จะต้องตระหนักและหาวิธีการจัดการให้ดีที่สุด เพื่อให้ปริมาณการส่งออกของสินค้าเพิ่มมากขึ้น อันจะนำรายได้กลับเข้ามาสู่ประเทศ อย่าหวังเพียงแค่การสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเท่านั้น มิเช่นนั้นการทุ่มเงินไปในโครงการที่พูดไว้ในการหาเสียง ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลจะส่งผลสะท้อนกลับมากระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศอย่างแน่นอน

ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
12:11 น. แข้งไทยคนแรก! 'มูฮัมหมัด'คว้าแชมป์ฟุตซอลลีกที่สเปน
12:09 น. ระทึก!บัสรับส่ง นร.ยางระเบิดหวิดคว่ำ 50 ชีวิตหนีตายอลหม่านหวั่นซ้ำรอยโศกนาฏกรรม
12:04 น. อวสานสายเขียว? สื่อนอกจับตาไทยนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด กระทุบธุรกิจกว่าพันล้านเหรียญ
11:55 น. 'ฮุนเซน'แฉลากไส้'ทักษิณ' เห็นกับตาที่บ้านจันทร์ส่องหล้า'ป่วยทิพย์' หลอกศาล-ตบตาปชช.!
11:42 น. 'ปู พงษ์สิทธิ์'เหลืออด!! อัดคลิปไล่'นายกฯอิ๊งค์' ฉะยับยันทีมงาน
ดูทั้งหมด
นักวิชาการลงชื่อ‘ถวายฎีกา’ ขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยแก้ไขปัญหาวิกฤติชาติบ้านเมือง
ดาวเทียมเปิดภาพช็อก! 3โรงงานนิวเคลียร์'อิหร่าน'พินาศ หลังโดนสหรัฐฯถล่มเจาะลึกใต้ดิน
สจ.ปทุมฯลวง'สจ.สาว' อ้างพาส่งที่พัก เลี้ยวเข้าโรงแรม หวังย่ำยี
‘อ.ไชยันต์’บอกใบ้! อะไรทำสัมพันธ์‘ทักษิณ-ฮุนเซน’ต้องหักสะบั้น
'ทนายยิ่งลักษณ์'ทิ้งปริศนา? พร้อมภาพถ่ายคู่'อดีตนายกฯปู'บนตึกไทยฯ
ดูทั้งหมด
#28มิถุนามาแน่แพรทองธารออกไป
ตรรกะวิบัติที่นักการเมืองไทยยกคนทรยศชาติเป็นวีรสตรีขี่ม้าขาว
‘พลังงานราคาถูกกับคนราคาถูก’
ถ้าอุ๊งอิ๊งค์ไม่อยู่ ประเทศชาติก็ไม่เสียหาย
คลิปสนทนา อุ๊งอิ๊งค์-ฮุนเซน กับกฎหมาย
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แข้งไทยคนแรก! 'มูฮัมหมัด'คว้าแชมป์ฟุตซอลลีกที่สเปน

อวสานสายเขียว? สื่อนอกจับตาไทยนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด กระทุบธุรกิจกว่าพันล้านเหรียญ

บัวแก้วยันไทยใช้ช่องทางทางการสื่อสารกับรบ.กัมพูชาเท่านั้น

'สมคิด'เหน็บ'ภท.'ถามร่วมรัฐบาลมาตั้งนานทำไมเพิ่งรู้ว่ารบ.ไม่ดี หลังเตรียมยื่นซักฟอก

สวนหมัดรัฐบาลสกัดม็อบ! 'รวมพลังแผ่นดิน'เจอกัน28มิ.ย. ระดมพลปกป้องอธิปไตย

'สมาคมนักข่าวฯ'กำหนดแนวปฏิบัติงานสื่อฯ ในสถานการณ์การชุมนุม ร่วมกับตำรวจนครบาล

  • Breaking News
  • แข้งไทยคนแรก! \'มูฮัมหมัด\'คว้าแชมป์ฟุตซอลลีกที่สเปน แข้งไทยคนแรก! 'มูฮัมหมัด'คว้าแชมป์ฟุตซอลลีกที่สเปน
  • ระทึก!บัสรับส่ง นร.ยางระเบิดหวิดคว่ำ 50 ชีวิตหนีตายอลหม่านหวั่นซ้ำรอยโศกนาฏกรรม ระทึก!บัสรับส่ง นร.ยางระเบิดหวิดคว่ำ 50 ชีวิตหนีตายอลหม่านหวั่นซ้ำรอยโศกนาฏกรรม
  • อวสานสายเขียว? สื่อนอกจับตาไทยนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด กระทุบธุรกิจกว่าพันล้านเหรียญ อวสานสายเขียว? สื่อนอกจับตาไทยนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด กระทุบธุรกิจกว่าพันล้านเหรียญ
  • \'ฮุนเซน\'แฉลากไส้\'ทักษิณ\' เห็นกับตาที่บ้านจันทร์ส่องหล้า\'ป่วยทิพย์\' หลอกศาล-ตบตาปชช.! 'ฮุนเซน'แฉลากไส้'ทักษิณ' เห็นกับตาที่บ้านจันทร์ส่องหล้า'ป่วยทิพย์' หลอกศาล-ตบตาปชช.!
  • \'ปู พงษ์สิทธิ์\'เหลืออด!! อัดคลิปไล่\'นายกฯอิ๊งค์\' ฉะยับยันทีมงาน 'ปู พงษ์สิทธิ์'เหลืออด!! อัดคลิปไล่'นายกฯอิ๊งค์' ฉะยับยันทีมงาน
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ผู้นำอัปยศ กรรมของชาติ คนไทยยังทนได้หรือ

ผู้นำอัปยศ กรรมของชาติ คนไทยยังทนได้หรือ

23 มิ.ย. 2568

ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

16 มิ.ย. 2568

แพทยสภา ต้องดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

แพทยสภา ต้องดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

9 มิ.ย. 2568

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

2 มิ.ย. 2568

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

26 พ.ค. 2568

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

19 พ.ค. 2568

แพทย์ พึงรักษาศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

แพทย์ พึงรักษาศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

12 พ.ค. 2568

เศรษฐกิจไทย จะล่มสลายหรือไม่

เศรษฐกิจไทย จะล่มสลายหรือไม่

5 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved