วันเสาร์ ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ได้ติดตามข่าวคราวเรื่องงบประมาณปี 2567 แล้ว ช่างวิเวกวังเวงเป็นอันมาก ทำให้เกิดความรู้สึกว่ารัฐบาลเศรษฐาเห็นท่าจะถูกผีอำอยู่เป็นแน่ เพราะที่แถลงว่างบประมาณปี 2567 อาจจะใช้ได้หลังเดือนเมษายน 2567 ไปแล้ว หมายความว่าจะล่าช้าไปถึง 7 เดือน และเหลือเวลาอีก 5 เดือนก็จะสิ้นปีงบประมาณ 2567 แล้ว
เบื้องต้นสรุปได้ว่ากรอบงบประมาณปี 2567 ที่คณะรัฐมนตรีจะอนุมัติคือวงเงิน 3.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากแนวคิดเดิมประมาณ 180,000 ล้านบาท และเมื่อคณะรัฐมนตรีอนุมัติกรอบงบประมาณแล้วก็จะได้ยกร่างเป็นกฎหมายงบประมาณและแผนงบประมาณ รวมทั้งแผนจัดหารายได้ที่จะนำเงินมาใช้จ่ายตาม
งบประมาณต่อไป
ปกติปีงบประมาณจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมของปี ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาอีก 9 วัน ก็จะสิ้นปีงบประมาณ 2566 และเริ่มต้นปีงบประมาณ 2567 แล้ว หมายความว่าตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไปรัฐบาลยังไม่มีกฎหมายงบประมาณเป็นเครื่องมือในการใช้จ่ายเงินแผ่นดินเป็นการเฉพาะปีงบประมาณ 1 ตุลาคม 2566 - 30 กันยายน 2567
แต่รัฐธรรมนูญผ่อนผันให้นำกรอบงบประมาณ 2566 มาใช้ไปพลางก่อนได้ หมายความว่าวงเงินงบประมาณในปี 2566 นั้นให้นำมาเป็นกรอบใช้ไปพลางก่อน แต่ส่วนใหญ่ของงบประมาณปี 2566 กว่า 70% เป็นรายจ่ายประจำ เช่นเงินเดือน ค่าจ้าง และที่เหลืออีกก็เป็นรายจ่ายผูกพันที่มีโครงการตกลงจ่ายไว้แล้ว รอแต่การจ่ายเงินจริงเท่านั้น รวมความก็คือแทบไม่มีเงินที่จะนำไปใช้จ่ายในการพัฒนาหรือทำโครงการใหม่ได้เลย
นี่ก็เป็นวิกฤตที่สุดอีกอย่างหนึ่งของรัฐบาลเศรษฐา คือเข้ามาบริหารบ้านเมืองก็เหมือนคนถังแตกคือไม่มีเงินในมือจับจ่ายใช้สอย วงเงินที่ให้ใช้พลางก่อนได้ก็มีแต่ลม มีสภาพไม่ต่างกับผู้ว่าฯกทม. ที่ชนะเลือกตั้งเข้ามาแล้วก็ไม่มีเงินใช้สอย หรือว่านี่ก็เป็นไสยศาสตร์ทางกฎหมายอีกชนิดหนึ่งที่จะทำให้รัฐบาลเศรษฐาสะดุดขาตัวเองล้มคะมำลงเมื่อใดก็ได้
การที่รัฐบาลเศรษฐาเปิดเผยท่าทีว่างบประมาณปี 2567 จะใช้ได้หลังเดือนเมษายน 2567 มีลักษณะเสียฟอร์มของนายกรัฐมนตรีที่มีพื้นฐานเป็นนักธุรกิจ
หัวก้าวหน้าอย่างยิ่ง เพราะเท่ากับเป็นการปล่อยลอยชายไปตามลม ไม่ได้ใช้มาตรการพิเศษในการเร่งรัดหรือจัดการให้งบประมาณ 2567 ได้ออกมาใช้บังคับให้เร็วที่สุดเลย
ท่าทีอย่างนี้ก็เหมือนกับสวะที่ลอยไปตามน้ำ กระแสน้ำพัดอย่างไรก็ลอยไปอย่างนั้น เหมือนไม่มีจิตไม่มีใจ อย่างนี้จึงกล่าวได้ว่าเหมือนกับผีสิงอยู่ ใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล เมื่อได้อ่านบทความนี้แล้วช่วยส่งให้นายกรัฐมนตรีอ่านผ่านสายตาสักหน่อยเถิด เผื่อจะบังเกิดเป็นอานุภาพให้ตื่นตัวขึ้นและอาจทำให้งบประมาณ 2567 ใช้บังคับได้เร็วขึ้น
อันกฎหมายงบประมาณนั้นเมื่อคณะรัฐมนตรีกำหนดกรอบงบประมาณแล้วก็จะมีการจัดทำเป็นกฎหมายงบประมาณและเอกสารประกอบงบประมาณ เสนอต่อสภาผู้แทนและวุฒิสภาพิจารณาเห็นชอบ แล้วนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ เพื่อโปรดเกล้าตราเป็นพระราชบัญญัติงบประมาณตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ
ดังนั้นถ้าใช้กรอบเวลาปกตินับตั้งแต่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบกรอบงบประมาณ หรือกรอบเวลาในการพิจารณาของทั้งสองสภาแล้วก็เท่ากับไม่ต้องทำอะไร ปล่อยไปเหมือนสวะตามน้ำ กฎหมายงบประมาณก็จะเสร็จและใช้บังคับหลังเดือนเมษายน 2567 ตามที่แถลงนั่นเอง
ดังนั้นเพื่อให้สมฟอร์มนายกเศรษฐาซึ่งมีพื้นฐานมาจากนักธุรกิจหัวก้าวหน้า ก็ควรจะปรับเวลาให้สอดคล้องกับสถานการณ์วิกฤตของบ้านเมืองเพื่อให้มีการตรากฎหมายงบประมาณใช้บังคับให้เร็วที่สุด โดยปรับเวลาใหม่ดังนี้
กรอบที่หนึ่ง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำร่างกฎหมายงบประมาณและเอกสารประกอบงบประมาณให้แล้วเสร็จภายใน 20 วัน เพื่อให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรได้ภายในกลางเดือนตุลาคม 2566
กรอบที่สอง ประสานงานและขอความร่วมมือกับสภาผู้แทนราษฎรให้สมาชิกทั้งหลายพิจารณาศึกษาเรื่องงบประมาณล่วงหน้า กำหนดกรอบเวลาทั้งวาระแรก วาระที่สอง และวาระที่สาม ให้แล้วเสร็จภายใน 20 วัน
กรอบที่สาม ประสานงานและขอความร่วมมือกับวุฒิสภาให้สมาชิกทั้งหลายพิจารณาศึกษาล่วงหน้าและกำหนดกรอบพิจารณาแล้วเสร็จภายใน 20 วัน
ซึ่งต้องอาศัยการประสานงาน การขอความร่วมมือ และต้องประสานงานชี้แจงให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าใจความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งภายใต้กรอบเวลานี้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2566 กฎหมายงบประมาณ 2567 ก็จะใช้บังคับได้ ก็จะล่าช้าไปเพียง 2 เดือน และมีเวลาใช้จ่ายเงินตามกฎหมายงบประมาณนั้นถึง 10 เดือน แทนที่จะเหลือเวลาแค่ 5 เดือน
นอกจากนั้น จำเป็นจะต้องเข้าใจว่าในเวลา 3-4 เดือนแรกของปีงบประมาณ คือภายในเดือนมกราคมของปีหน้าเป็นอย่างช้าจะต้องเร่งรัดจ่ายเงินงบประมาณเพื่อการพัฒนาออกไปให้ถึง 70% เพื่อเร่งรัดการพัฒนาและเร่งให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบการเงินของประเทศ เพื่อเติมสภาพคล่องและเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ดังนั้นเมื่อกฎหมายงบประมาณ 2567 ใช้บังคับ จะต้องกำกับส่วนราชการทั้งหลายให้เร่งบริหารราชการเพื่อให้เม็ดเงินไหลลงสู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศให้ได้ร้อยละ 70 ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เป็นอย่างช้า
อย่างนี้จึงจะกล่าวได้ว่าทำงานเป็น

'กรมทรัพยากรธรณี'เตือน 10 จังหวัดใต้เฝ้าระวังภัยแผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก 22.24 พ.ย.
'สมเด็จพระมหาวีรวงศ์' ปธ.ฝ่ายสงฆ์ ยกยอดฉัตรทองคำพระมหาธาตุแก่นนครฯ
'บัวขาว'โชว์! สวัสดีซีเกมส์ เชียร์มวยไทยในบ้านเรา
'นายกฯ'จ่อบินด่วนหาดใหญ่ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมบ่ายวันนี้
รีบใช้สิทธิ 'เที่ยวดีมีคืน' หักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30,000 บาท เหลือเวลาอีกไม่มาก

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี