“บุคคลแนวหน้า ใน หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยรู้เท่าทันเล่ห์ ทันเหลี่ยม นักการเมืองเสียชาติเกิด นักเลือกตั้งชังชาติ ติ่งแดงด้อมส้ม ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสี อย่างเท่าเทียม...

nn เริ่มต้นกันที่ปาหี่โดยคณะ “ก้าวไกลการละคร” ที่ “ไม้หน้าสาม”ขอนำนิทาน “แม่เนื้ออ่อน” กับเพลงกล่อมเด็ก “แม่กาเหว่า ฝากไข่ให้แม่กาฟัก” ใน “สื่อการเรียนการสอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1” มาเผยแพร่เป็น “อุทาหรณ์” เผื่อนักการเมืองและพรรคการเมืองคนรุ่นใหม่จักได้สำเหนียก ฉุกคิดอย่างมีสามัญสำนึกมีความละอายในการกระทำนั้น เพราะถ้าไม่มีสามัญสำนึกใดๆ เกิดขึ้นก็คงไม่ต่างจาก “เดรัจฉาน” อย่างแน่นอน...

nn ประเด็นขับ “รองประธานหมูกระทะ อ๋อง หมอสัตว์” พ้นสมาชิกพรรคก้าวไกล เพื่อสมประโยชน์ทุกฝ่ายจะเป็นบันทึกการเมืองอัปยศที่จะกลายเป็นตำนานชั่วลูกชั่วหลาน ตระกูล“สันติภาดา” มีมลทินที่ไม่สามารถลบเลือนจากประวัติศาสตร์ได้อีกต่อไป อย่างว่า“กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา” อย่าคิดเพ้อฝันจะทำให้ “สภาโปร่งใส” เพราะอาการตะกละตะกลามสมคบคิดยังเกิดกับบุคลากรที่ประกาศจะทำสภาโปร่งใสเยี่ยงนี้ยังจะคาดหวังเพ้อฝันกระนั้นหรือ ทุเรศ ... สมเพชว่ะ!?!?!...

nn สาแก่ใจนักกับ คำวิพากษ์วิจารณ์ของ “ท่านประธานวิปรัฐบาลและอดีตรมช.ศึกษาธิการ-อดิศร เพียงเกษ” กับ “วรรคทอง” กลอนสอนใจจากเพลงกล่อมเด็ก “แม่กาเหว่าฝากไข่ ให้แม่กาฟัก” ว่า “ผมเลือกหมออ๋องเป็นรองประธาน มิใช่เลือกสัตว์เลื้อยคลานเป็นงูเห่า เลือกศักดิ์ศรีเกียรติภูมิสภาเรา บัดนี้ไม่เหลือเงา เศร้าฤดี” ... จะสำเหนียกจะมีสามัญสำนึกฉุกคิดกันบ้างไหมหนอ???...nn การเมืองเรื่องผลประโยชน์เดินมาถึงบทนี้ไม่น่าแปลกใจเลยที่“สังคมไทย” จะไม่ได้ยินเสียงกระโชกขู่คำรามของ “ขาประจำ”อย่าง “ตัวตึงเจ้าตำรับหน้าด้านกว่า-วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” และ “ขุนศึกตั๋วปารีส-รังสิมันต์โรม” หลัง “ละคร”บทนี้จัดสรรผลประโยชน์ลงตัวชื่นมื่น...

nn เข้าใจว่าสังคมไทยคงได้เห็นได้ยินได้ฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมทรามของ “ชายไทยเจ้าของร้านอาหารร้านหนึ่งในประเทศไอซ์แลนด์” ไล่ “คุณหญิงหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์” สมาชิกวุฒิสภาในปัจจุบันให้ออกจากร้านอาหารของตนเอง ด้วยน้ำเสียงและคำพูดที่หยาบคายไร้การอบรมสั่งสอนอย่างแท้จริง ด้วยเหตุผลว่ารับไม่ได้กับสิ่งที่สมาชิกวุฒิสภาทำกับประเทศไทย ที่นี่ไม่ต้อนรับ ขออนุญาตเชิญออกไป ขณะที่เพื่อนสส. มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช สส.ลพบุรี พรรคภูมิใจไทย ปกป้องพร้อมถ่ายคลิปสู้กลับ...

nn ล่าสุด คุณหญิงหมอพรทิพย์ ได้โพสต์แฟนเพจเฟซบุ๊กบัญชีส่วนตัว Porntip Rojanasunan พร้อมระบุข้อความว่า “ที่สุดท้าย วันสุดท้ายที่แดดดีวันแรก ไม่มีฝนพรำ คือทะเลสาบ Kleifarvatn ที่มีชายหาดสีดำสนิท” โดยไม่มีการกล่าวถึงชื่อร้านแม้แต่น้อยนิดแต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นชัดเจนว่าชายผู้อ้างตัวเป็นเจ้าของร้านที่ผลิตคอนเทนต์นี้มี “ศีลเสมอ” นักการเมืองคนรุ่นใหม่ในการเมืองไทยที่เสียผลประโยชน์จากการทำหน้าที่ตามมาตรา 272 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ถูกหลักการแต่ไม่ถูกใจ “สัมภเวสีเดรัจฉาน”...

nn และที่ “ไม้หน้าสาม” ไม่กล่าวถึงเสียเลยคงไม่ได้ คือเหล่าเกรียนคีย์บอร์ดที่ตั้งคำถามการไปต่างประเทศว่า “ใช้ภาษีกู” ที่จัดเป็นงบดูงานเดินทางไปต่างประเทศหรือไม่ คงจะเห็นใครบางคนบางกลุ่มกระทำ จนต้องจัดแถลงข่าวราวกับทำรายงานแบบที่“อ๋อง หมอสัตว์ รองประธานหมูกระทะ” ดำเนินการก่อนจะโดนพรรคพวกเดียวกันมีแถลงการณ์อัปยศ “อัปเปหิ” ให้หาสังกัดใหม่เยี่ยงนั้น...

nn อ่านความเห็นในโลกออนไลน์แล้ว “ไม้หน้าสาม” รู้สึกสมเพชน่าอเนจอนาถใจเหล่า “อุปกรณ์การเกษตร” ที่หลงรูปกลิ่นสีอย่างมิลืมหูลืมตาจนเกือบลืมรากเหง้าความเป็นไทยเป็นประชาชนคนไทยไปเสียอย่างนั้นจนต้องตอกย้ำว่า “พฤติกรรม” ไม่ได้แตกต่างไปจาก “พ่อครัว” ที่แอบอ้างเป็น “เจ้าของร้านกำมะลอ” ต่ำสถุลไร้การศึกษา...

nn “ทฤษฎีสมคบคิด ... แยกกันเดินร่วมกันตี เปลี่ยนประเทศ” กับสาระในแถลงการณ์ “อัปเปหิอ๋อง หมอสัตว์” ออกจากพรรคก้าวไกลดูจะย้อนแย้งพฤติกรรมเดิมๆ เป้าหมายของแม่กาเหว่าฝากไข่ให้แม่กาฟัก แท้จริงคือคงช่องทางการเสนอการแก้ไข/ยกเลิก ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับเพื่อที่ “พิธาคิโอ” คนเหนือคนที่เกิดมาเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีถ่ายเดียวเท่านั้น จึงลาออกจากเก้าอี้หัวหน้าฝูง “ก้าวไกลแอนนิมอล” เคยประกาศกลางห้องประชุมสุริยัน สัปปายะสภาสถาน “จะจัดวางพระราชอำนาจและพระราชสถานะ” ใหม่ผ่านรัฐธรรมนูญเพื่อดำรงอยู่ใต้รัฐธรรมนูญเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่!?!?!...

nn “ไม้หน้าสาม” วิงวอน “นักการเมืองในรัฐสภาไทยและในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ได้สำเหนียก และถอดบทเรียนจากนักกีฬาไทยบางประเภทที่ทำหน้าที่ของตนเองด้วยความวิริยอุตสาหะอย่างตรงไปตรงมาไม่ “คดในข้อ งอในกระดูก” แม้จะพบอุปสรรคนานัปการ รวมทั้งให้ดูผู้ฝึกสอนชาวต่างชาติที่เข้ามาพัฒนานักกีฬาไทยได้แสดงกตเวทิตาต่อแผ่นดินที่ให้ข้าวให้น้ำให้อยู่อาศัยทำมาหากิน ท่านผู้ทรงเกียรติทั้งหลายทั้งที่ผ่านการเลือกตั้งจากประชาชนและไม่ประสบผลสำเร็จจากการเลือกตั้งได้แสดงจุดยืนที่เด่นชัดสมความเป็นลูกหลานไทยอย่าง “ชัชชัย เช หรือ ชเว ย็อง ซ็อก” บุรุษเลือดโสม ที่แปลงสัญชาติเป็นไทยเปลี่ยนชื่อนามสกุลเป็นไทยที่มีใจเป็นไทย รักไตรรงค์ไทยแสดงออกในแมทช์การแข่งขันทัวร์นาเมนท์ต่างๆ บ้างหรือไม่ อย่าดีแต่สร้างวาทกรรมสนตะพาย “ด้อมส้ม” เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองทั้งส่วนตัวและพวกพ้องเท่านั้นเลย...

nn “ไม้หน้าสาม” ขอแสดง ความยินดีกับทีมนักกีฬาไทยที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันมหกรรมกีฬาของคนเอเชีย “เอเชี่ยนเกมส์” ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ทุกคนทุกประเภทแม้จำนวนเหรียญรางวัลที่ได้รับกับจำนวนนักกีฬาในทัพไทยดูจะไม่สัมพันธ์กันแต่น้อยนิดก็ตาม แต่กำลังใจแก่ “ซูเปอร์ซอฟต์ พาวเวอร์” เป็นเรื่องสำคัญ เพราะอย่างไรทั้งธงไตรรงค์และเพลงชาติไทยก็กระหึ่มในนครหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีนและอีกนานัปประเทศที่ถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาครั้งนี้ได้ชมได้ยินด้วยเช่นกัน...nn ทิ้งท้าย ฉบับนี้ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวบินแรก หลังรัฐบาลประกาศนโยบาย “ฟรีวีซ่า” แสดงความพร้อมของไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว งานนี้นายกฯตั้งเป้ารายได้รวม 2.38 ล้านล้านบาทน้อยไปไหมเมื่อเทียบกับเป้าหมายที่ “รัฐบาลลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ตั้งไว้ 2.23 ล้านล้านบาททั้งที่ทั่วโลกเพิ่งผ่านวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส “โคโรนา 2019 (โควิด-19)” ... “ลุงตู่” ที่เมื่อช่วงหาเสียงเลือกตั้งประดาขุนพลเพื่อไทยออกมากะซวกขย้ำขยี้ว่าไร้ฝีมือไร้ความสามารถ สถานการณ์เศรษฐกิจโลกเปลี่ยน แต่รายได้รัฐบาลคาดการณ์เปลี่ยนกระจิริดเหลือเกิน...nn

 

ไม้หน้าสาม