รัฐบาลที่ไม่มีปัญญาพัฒนาประเทศด้วยการสร้างงานอย่างเป็นรูปธรรม ไม่มีปัญญาสร้างงานจาก real sectors ก็จำเป็นต้องหาคะแนนนิยมทางการเมืองให้ตัวเองด้วยการหว่านแจกเงินให้ประชาชน โดยการแจกเงินผ่านรูปแบบ helicopter money แจกไปเรื่อยเปื่อย ถลุงเงินไปอย่างไร้สติสิ้นปัญญา เพราะใช้อำนาจความเป็นรัฐบาลสร้างหนี้สินให้ประเทศ แล้วเอาหนี้สินที่ตนเองก่อขึ้นไปแจกจ่ายทำนองซื้อคะแนนนิยมทางการเมืองแต่ไม่ได้นำพาว่าจะสร้างความวิบัติย่อยยับให้ประเทศชาติให้กาลต่อไปอย่างไร เข้าทำนองว่าสร้างปัญหาไปก่อน เพราะเมื่อตนเองพ้นอำนาจไปแล้ว ก็ปล่อยให้คนอื่นรับกรรมแก้ปัญหาที่ตนสร้างไว้
รัฐบาลที่สร้างนโยบายลวงโลก สร้างนโยบายประชานิยม ใช้การหว่านแจกเงินจำนวนมหาศาลให้ประชาชนในรูปแบบการซื้อเสียงผ่านนโยบาย เป็นรัฐบาลที่เกิดมาเพื่อทำลายล้างประเทศชาติอย่างชัดเจน เพราะเกิดมาเพื่อสร้างหนี้สินให้ประเทศ และสร้างหนี้สินให้ประชาชนต้องตามไปชดใช้
ถามว่าเมื่อรัฐบาลจำเป็นต้องใช้เงินมหาศาลเพื่อหว่านแจก ก็หมายความว่าต้องหาเงินมาโปะหนี้สินที่ก่อขึ้นให้ได้ การหาเงินมาโปะหนี้สินที่ก่อขึ้นก็มาจากหนทางต่อไปนี้ กู้เงินจากในและนอกประเทศ และเก็บภาษีอากรเพิ่มขึ้น
การจะไปหาเงินจากงบประมาณและเงินนอกงบประมาณมาเพื่อใช้หว่านแจก ไม่น่าจะมีเงินเหลือให้รัฐบาลดูดไปใช้ได้อีก เพราะว่าเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณมีภาระผูกพันเกี่ยวเนื่องกันมากจนยากจะไปแซะ ไปขุด ไปค้นหามาใช้ได้เพื่อการหว่านแจก ครั้นจะไปเอาเงินจากธนาคารของรัฐบาล ก็คงจะไม่มีเงินเหลือให้รัฐบาลดูดไปใช้ได้มากนัก
คราวนี้ก็ต้องมาดูสถานะการคลังของประเทศว่าจะไปไหวหรือไม่ จะไปรอดไหม กับการที่ถูกรัฐบาลจะหาทางนำเงินไปหว่านไปแจกแบบเหวี่ยงและหว่านแหอย่างที่พยายามจะทำให้จงได้ โดยเฉพาะการแจกเงินแบบหว่านแหหัวละ 1 หมื่นบาท ผ่านการหาเสียงเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาททุกคน (โดยเฉพาะคนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป) มีคำถามมาโดยตลอดว่า การหว่านแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต หัวละ 1 หมื่นบาท จะช่วยทำให้เศรษฐกิจไทยโดยรวมดีขึ้น จริง ๆ หรือ และมีคำถามสำคัญอีกว่า นโยบายประหลาดนี้จะสร้างความวิบัติให้สถานะการคลังของไทยมากเพียงใด
คำถามซ้ำๆ ที่ผู้คนที่เป็นห่วงประเทศชาติ ถามรัฐบาลชุดล่าสุดมาตลอดคือ รัฐบาลมีปัญญาก่อหนี้ แล้วมีปัญญาชดใช้หนี้ที่ก่อหรือไม่ รัฐบาลสัญญาได้หรือไม่ว่าเมื่อก่อหนี้แล้วจะชดใช้หนี้ให้หมดสิ้นก่อนที่ตนเองจะพ้นจากอำนาจไป
วันนี้รัฐบาลอาจชะล่าใจว่ามีเงินในคลังเก็บสะสมไว้มากมาย แต่ก็ต้องสำเหนียกไว้เสมอว่าเงินในคลังที่มีนั้น ไม่ได้มาจากความสามารถ หรือมาจากสติปัญญาของรัฐบาลชุดปัจจุบัน แต่มันคือเงินสะสมที่รัฐบาลก่อนๆ หามาเก็บไว้ในคลัง เพราะฉะนั้น รัฐบาลที่ดีจำเป็นต้องใช้เงินในคลังให้เกิดประโยชน์สูงสุด มิใช่สักแต่ว่าใช้เงินในคลังไปเรื่อยเปื่อย เพราะตนเองเป็นรัฐบาล มีอำนาจรัฐ มีอำนาจสั่งจ่ายเงินในคลังได้ รัฐบาลที่ดี มีสติปัญญา มีความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ต้องหาเงินเข้าคลังให้ได้ด้วย มิใช่สักแต่ว่าใช้เงินในคลังไปแบบไร้สติสิ้นปัญญา เพราะแสวงหาแค่เพียงคะแนนนิยมทางการเมือง
แน่นอนว่า วันนี้ เวลานี้ ประเทศไทยยังไม่ประสบวิกฤตร้ายแรงด้านการเงินและด้านเศรษฐกิจเหมือนในยุค 2540 แต่ก็ไม่มีใครรับรองได้ว่าประเทศไทยจะรอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะว่าโลกยุคนี้ เป็นยุคที่เสี่ยงกับการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจทุกวินาที ดังนั้น หากรัฐบาลแสดงความเขลาด้วยการใช้จ่ายเงินไปโดยไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศในยามนี้ แล้วหากวันหนึ่งประเทศไทยเกิดวิกฤตการเงินขึ้นมา เพราะวิกฤตโลกลามมาถึงไทย รัฐบาลจะมีปัญญาแก้ปัญหาหรือ เพราะโดยลำพังแล้ว รัฐบาลก็ไม่น่าจะมีปัญญาหาเงินเข้าคลังได้ เมื่อไม่มีปัญญาหาเงิน ก็ไม่ควรผลาญเงินให้หมดคลัง เพราะมันคือการจงใจทำลายประเทศให้พังพินาศ
อย่าลืมว่า ทุกวันนี้ 1 ใน 3 ของงบฯ ก็ถูกใช้สำหรับเงินเดือนและสวัสดิการของข้าราชการ ประเทศเราไม่มีงบฯ เหลือสำหรับการพัฒนาและการวิจัย และไม่มีการใช้งบฯ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งอื่นๆ เพราะหมดไปกับงบประจำเสียแล้ว 1 ใน 3 ดังนั้น หากรัฐบาลไม่มีปัญญาหาเงินเพิ่มเข้าคลังหลวง ก็ควรจะต้องละอายใจ เมื่อต้องหว่านเงินเพื่อซื้อคะแนนนิยมทางการเมืองให้ตัวเอง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี