คนที่ติดตามเรื่องราวการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ที่มีชื่อว่าสัปปายะสภาสถาน คงทราบดีแล้วว่ารัฐสภาแห่งใหม่นี้ใช้งบประมาณก่อสร้างสูงถึง 22,987 ล้านบาท แล้วก็คงทราบดีว่าการส่งมอบรัฐสภาแห่งใหม่นั้นล่าช้ากว่ากำหนด เหตุเพราะก่อสร้างไม่ตรงตามแบบ แล้วที่น่าสมเพชทุเรศทุรังยิ่งกว่าคือการก่อสร้างล่าช้าไปกว่ากำหนดเดิมนานถึง 4 ปี
บริษัทรับเหมาก่อสร้างอาคารรัฐสภาคือบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่นจำกัด (มหาชน) มีการลงนามในสัญญาก่อสร้างเมื่อ 30 เมษายน 2556 กำหนดเวลาก่อสร้างให้แล้วเสร็จในระยะเวลา 900 วัน นับแต่วันส่งมอบที่ดิน ซึ่งหมายความว่าจะต้องสร้างแล้วเสร็จภายใน 24 พฤศจิกายน 2558
แต่รัฐสภาแห่งใหม่ก็ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา ต้องขยายเวลาก่อสร้างหลายครั้งจนการขยายระยะเวลาของสัญญาก่อสร้างได้สิ้นสุดลงใน 31 มีนาคม 2563 แต่ผู้รับจ้างก่อสร้างก็ไม่สามารถทำงานได้เสร็จสมบูรณ์ ไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามระยะเวลาที่กำหนด จึงต้องจ่ายค่าปรับตั้งแต่ 1 มกราคม 2564 โดยค่าปรับตกประมาณวันละ 12.28 ล้านบาท แต่ในความจริงนั้นผู้ก่อสร้างก็อ้างเรื่องข้อติดขัดจากปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 จนไม่ต้องเสียค่าปรับเป็นเวลา 827 วัน ทำให้รัฐสภาไม่ได้คิดค่าปรับ
นอกจากนั้นยังมีข้ออ้างอีกสารพัดเรื่อง เช่น เรื่องค่าแรงขั้นต่ำที่ผู้รับจ้างต้องจ่ายให้คนงานวันละ 300 บาท จึงต้องลดค่าปรับให้ผู้ก่อสร้างอีก 150 วัน ซึ่งเท่ากับงดเว้นค่าปรับให้ผู้ก่อสร้างเป็นประมาณ 1,800 ล้านบาท แต่เมื่อตามดูข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าผู้ก่อสร้างเสียค่าปรับเพียงไม่กี่ร้อยล้านบาทเท่านั้น ทั้งที่ความเป็นจริงต้องเสียค่าปรับประมาณ 12,100 ล้านบาท
การก่อสร้างสภาแห่งใหม่นี้เต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆ นานาที่ถูกวิพากษ์ว่าหมกเม็ด และตุกติกสารพัดเรื่อง ขณะเดียวกันมีการนำเรื่องความไม่สุจริตในการก่อสร้างไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในประเด็นก่อสร้างไม่ตรงตามแบบ และมีการทำผิดสัญญา
มาล่าสุด พบว่ามีการของบประมาณวงเงิน 2,773 ล้านบาท เพื่อใช้ติดตั้งระบบภายในอาคารรัฐสภา รวมถึงเพื่อการต่อเติม และก่อสร้างรัฐสภา ทั้งๆ ที่ส่งมอบอาคารล่าช้ากว่ากำหนดเป็นเวลานานมาก โดยเพิ่งส่งมอบอาคารได้เมื่อประมาณ 8-9 เดือนที่ผ่านมา ถามว่าในเมื่อเพิ่งส่งมอบอาคาร แล้วเหตุใดจึงต้องของบประมาณเพื่อปรับปรุงหรือซ่อมแซมอาคารรัฐสภา
ขอเน้นว่าอาคารรัฐสภาแห่งใหม่นี้ใช้งบประมาณก่อสร้างสูงมาก คือประมาณ 23,000 ล้านบาท แถมยังส่งมอบอาคารล่าช้าเป็นเวลานานหลายปี ครั้นเมื่อใช้งานได้ไม่นาน ก็กลับกลายว่าต้องของบประมาณกว่าพันล้านบาทเพื่อซ่อมแซม และก่อสร้างเพิ่มเติม
อย่าลืมว่ารัฐสภาคือที่ทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ได้แก่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา และต้องย้ำว่าฝ่ายนิติบัญญัติโดยเฉพาะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยังมีหน้าที่สำคัญอีกประการคือดูแลเรื่องการอนุมัติการใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งเป็นเงินที่มาจากรายได้ของประเทศและจากภาษีอากรที่ประชาชนเป็นผู้จ่าย ดังนั้น หาก สส. ใช้จ่ายเงินงบประมาณโดยไม่สมเหตุสมผล ไม่มีหลักเกณฑ์ชัดเจน และไม่โปร่งใส ก็คือการบ่งบอกว่า สส. ใช้จ่ายเงินงบประมาณโดยไม่บริสุทธิ์ และจะทำให้ สส. สูญเสียความน่าเชื่อถือและความชอบธรรมในการตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดินของหน่วยงานต่างๆ บนแผ่นดินไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี