ข่าวกระสือที่ลพบุรี เป็นที่ฮือฮา เพราะอะไร?
เพราะกระสือเป็นผีที่มีอัตลักษณ์โดดเด่น ตามความเชื่อ ตามจินตนาการของคนไทย
เป็นผีชนิดเดียวที่มีแสงไส้ติดหัว ลอยไปมา มีแสงสว่างวิบวับ
ดังนั้น พอมีข่าว มีภาพ(ไม่ชัด)แชร์กันวงกว้าง จึงเป็นที่สนใจได้ง่าย
ล่าสุด ถึงขนาดมีเจ้าของรีสอร์ทที่สระบุรี ประกาศค่าตัวกระสือ
พร้อมจะจ่ายเงิน 1 ล้านบาท ถ้าจับกระสือมาได้ !!!
หรือถ้าจับไม่ได้ แต่ถ่ายรูปมาได้ ให้ค่าน้ำมัน 1 หมื่นบาท !!!!
1. ก่อนหน้านี้ นายวิเชียรถึงขนาดบอกว่า กระสือที่ตนเห็นนั้น
-หน้าแก่ อายุประมาณ 60 ปีขึ้นไป
-ผมสีขาว ผมไม่ยาวมาก ไม่ถึงไหล่
-แยกเขี้ยวให้ เพราะมันตกใจแล้วบินหนีไป /หน้าตาเป็นคนเหมือนเราทั่วไป ไม่เคยเจอในหมู่บ้านและพื้นที่ใกล้เคียง
2. ฝ่ายปกครองในพื้นที่ เมื่อชาวบ้านหวาดผวา ก็ต้องลงตรวจตราบำรุงขวัญ
ในพื้นที่ ต.โพธิ์ตรุ อ.เมืองสพบุรี จ.ลพบุรี
นายอำเภอเมืองลพบุรีมอบหมายให้ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ร่วมกับนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ตรุ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลโพธิ์ตรุตรวจสอบข้อเท็จจริง
กระทั่งได้ข้อมูลจากผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.โพธิ์ตรุ ซึ่งบ้านอยู่ติดกับลุงวิเชียร ได้พบหน้ากากปีศาจแยกเขี้ยว ผมยาวประบ่าสีทองอมน้ำตาลถูกทิ้งอยู่ปากซอยบริเวณใกล้ๆ บ้านลุงวิเชียร
ทำให้เชื่อได้ว่าน่าจะมีคนสวมหน้ากากปิดบังใบหน้า เพื่อมาขโมยไก่ชนของลุงวิเชียร
แต่นายวิเชียรก็ไม่ปักใจเชื่อข้อมูลของทางการ!!!
3. ต่อมา นายอำเภอเมืองลพบุรี พร้อมกำนันผู้ใหญ่บ้านในเขตพื้นที่ ได้แถลงข่าวชี้แจงต่อสื่อมวลชน กรณีกระแสข่าวกระสืออาละวาดในพื้นที่ ตอบข้อสงสัย กระสือมีจริงหรือไม่?
นายพิษณุ ประภาธนานันท์ นายอำเภอเมืองลพบุรี พร้อมด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ ร่วมกันแถลงข่าว
นายอำเภอลพบุรีกล่าวว่า จากการสืบข้อเท็จจริงกับผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ตำบลโพธิ์ตรุ อำเภอเมืองลพบุรี ซึ่งมีบ้านอยู่ในละแวกเดียวกับบ้านนายวิเชียรฯ แจ้งว่าช่วงเช้าหลังเกิดเหตุวันที่นายวิเชียร พบกระสือ ตนได้วิ่งออกกำลังกาย ได้พบหน้ากากบริเวณหน้าบ้านของนายวิเชียร มีลักษณะตรงตามที่นายวิเชียร ให้ข่าว จึงเชื่อได้ว่าน่าจะเป็นคนสวมหน้ากากเพื่อมาขโมยไก่ชนของนายวิเชียร หรือทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ ขณะที่ประชาชนในพื้นที่เองก็ไม่กลัว และเชื่อว่ากระสือไม่มีจริง ส่วนที่เป็นกระแสข่าวมันดังในโลกโซเชียลมากกว่า
นางเพ็ญพิสุทธิ์ เหล็กไหล อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 ต.โพธิ์ตรุ อ.เมืองลพบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ข่าวกระสือมีเกิดขึ้นมาเป็นเดือนแล้ว ชาวบ้านก็ไม่สนใจอะไร เพราะไม่มีใครเชื่อ จนกระทั่งมาเป็นกระแสข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์และตนเองก็มาพบหน้ากาก ที่มีลักษณะคล้ายกับใบหน้าของกระสือที่เป็นข่าวตกอยู่แถวหน้าบ้านของนายวิเชียร ผู้ให้ข่าวว่าเจอกระสือ ซึ่งตัวนายวิเชียร เองก็เป็นญาติกับตนเอง และเป็นคนที่ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เข้าสังคม และเป็นคนน่าเชื่อถือในหมู่บ้าน ซึ่งแกว่าเจอกระสือ ทำให้ชาวบ้านต่างก็เชื่อ ตามที่แกพูด แต่ก็ไม่มีใครเคยเห็น แต่ที่น่าเป็นห่วงและกังวลคือ ขอให้ชาวบ้านที่นำไร่ทำนา นำเครื่องมือทำการเกษตรไปไว้กลางนา ขอให้ไปนอนเฝ้าเพราะว่าอาจจะมีการลักขโมยกันเกิดขึ้นก็เป็นได้
ทั้งนี้ นายอำเภอเมืองลพบุรี ยังได้ขอความร่วมมือไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ตรุ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ช่วยประชาสัมพันธ์ ประกาศเสียงตามสาย ขับรถแจ้งเตือนประชาชน ว่าอย่าได้ตื่นตระหนกกับกระแสข่าวที่ปรากฏ
ประการสำคัญ ให้เฝ้าระวังทรัพย์สิน และของมีค่า เครื่องมือการเกษตร ตลอดจนการจัดเวรยามออกตรวจดูแล และตรวจตรา รักษาความสงบเรียบร้อย และสอดส่องความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ อย่างใกล้ชิดต่อไป
4. จะเห็นได้ว่า กระสือที่ลพบุรีไม่มีจริง
ชาวบ้านในพื้นที่ก็ไม่ได้หวาดกลัวแล้ว
แต่ที่เป็นข่าว เพราะสื่อออนไลน์ ปั่นข่าวนี้กัน
เพราะมันเป็นคอนเทนท์ที่มีคนสนใจมาก
ยิ่งประกาศให้เงินรางวัล ถ้าใครเชื่อ ก็จะไปไล่ล่า ถ่ายรูป เป็นกิจกรรมกึ่งๆ ท่องเที่ยวผจญภัย
สนุกสนานกันไป ตามแบบสังคมไทย แม้ว่าสังคมโลกจะว้าวุ่นกับภัยสงครามร้อนแรงอิสราเอล-ปาเลสไตน์ จะก่อสงครามโลกกันรอมร่อก็ตาม
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี