สำนักข่าวอิรวดีรายงานว่า ในห้วงเวลาสามสัปดาห์ที่กองกำลังแนวร่วมชาติพันธุ์ประชาธิปไตยพม่าอันประกอบด้วยกองกำลังชาติพันธุ์โกกั้ง อาระกัน และชาติพันธุ์ปะลอง ทุ่มกำลังรบในปฏิบัติการ 2017 การรุกรบครั้งใหญ่ทำให้รัฐบาลทหารพม่าเสียการปกครองทางเหนือรัฐฉานให้ฝ่ายต่อต้านห้าเมือง อาทิ เมืองชินซ่วยฮาร์ มองโกะ น้ำคัม แสนหวี และ เมืองคุนหลง
อิรวดีรายงานด้วยว่านอกจากเสียพื้นที่ปกครองทางเหนือรัฐฉานแล้วทหารพม่ายังเสียการปกครองเมืองกือ เค้าลิ่ง และ เมืองคามพัธ ในเขตสะไกง์ ตลอดถึงเสียเมือง รีเก๋าดาร์ ในรัฐชินให้แก่ฝ่ายต่อต้าน สำนักข่าวชายขอบ รายงานด้วยว่ากองกำลังแนวร่วมเพื่อประชาธิปไตยพม่าได้ยึดพื้นที่รอบๆ เมืองเล่าก์ก่าย และควบคุมเส้นทางไปด่านชายแดนจีนไว้หมดแล้ว กองกำลังผสมโกกั้ง อาระกัน และ ปะลอง จ่อเข้ายึดเมืองเล่าก์ก่ายจากการบริหารร่วมกันของพม่าและ
โกกั้งที่เป็นแนวร่วมรัฐบาล
เล่าก์ก่ายเป็นศูนย์กลางการค้ายาเสพติด แก๊งหลอกลวงที่เรียกว่า คอลเซ็นเตอร์ บ่อนการพนัน และค้ามนุษย์ เดิมทีเล่าก์ก่าย อยู่ภายใต้การปกครองของกลุ่มชาติพันธุ์โกกั้ง ในปี 2552 โกกั้งกลุ่มหนึ่งตกลงหยุดยิงกับรัฐบาลพม่า แต่โกกั้ง อีกฝ่ายไม่ยอมรับข้อเสนอรัฐบาลถูกทหารพม่าขับไล่ออกไปและลี้ภัยในชายแดนจีน
ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่า รัฐบาลจีนไม่พอใจรัฐบาลทหารพม่าที่เพิกเฉยไม่กวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกลวงคนจีนสร้างความเสียหายแก่เหยื่อในประเทศจีนหลายร้อยล้านหยวน ท่ามกลางความไม่พอใจของจีนได้เกิดปรากฏการณ์กองกำลังแนวร่วมโกกั้ง อาระกัน ปะลองขึ้นมาทำสงครามกับทหารพม่าทางภาคเหนือของรัฐฉาน และมีรายงานข่าวคนไทยประมาณ 200 คน ติดอยู่ในสมรภูมิรบเมืองเล่าก์ก่าย
วันที่ 16 พฤศจิกายน สำนักข่าวเอฟพีรายงานว่า กองกำลังชาติพันธุ์คะยายึดค่ายทหารพม่าใกล้เมืองลอยก่อว์ได้ และจ่อจะเข้ายึดเมืองหลวงรัฐคะยา แนวหน้าสอบถามแหล่งข่าวในกองทัพคะยาซึ่งยืนยันว่า สถานการณ์เป็นไปตามที่เอเอฟพี รายงานข่าวจากสื่อต่างประเทศ สำนักข่าวชายขอบ และอิรวดี แสดงให้เห็นว่าฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่ายึดครองพื้นที่ได้ทั้งทางเหนือรัฐฉานใกล้ชายแดนจีน ภาคกลางในเขตสะไกง์ และมัณฑะเลย์ ภาคตะวันออกในรัฐกะเหรี่ยงติดชายแดนไทย และในรัฐชินติดชายแดนอินเดีย
ข่าวฝ่ายต่อต้านยึดพื้นที่ได้จำนวนมาก สร้างความประหลาดใจให้นักวิเคราะห์ชาวพม่าว่า เป็นไปอย่างไร ที่กองทัพพม่าซึ่งมีศักยภาพสูงเป็นอันดับสามของอาเซียนเพลี่ยงพล้ำแก่ฝ่ายต่อต้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองกำลังผสมกลุ่มชาติพันธุ์มากถึงขนาดนี้ กองทัพพม่าที่มีทหารกว่า 500,000 นาย มากกว่ากองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ทั้ง 17 กลุ่มรวมกันถึงเจ็ดเท่า ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ กองทัพพม่ามีรถถังจำนวน 592 คัน รถหุ้มเกราะสายพาน1,358 คัน ปืนใหญ่อัตตาจร 108 กระบอก ปืนใหญ่884 กระบอก เครื่องยิงจรวด 108 กระบอก เครื่องบินรบ56 ลำ เครื่องบินขับไล่โจมตี 77 ลำ เครื่องบินขนส่ง 97 ลำเครื่องบินฝึกรบโจมตี 58 ลำ เฮลิคอปเตอร์ 86 ลำเป็นต้น
จึงเป็นไปไม่ได้ที่กองทัพพม่าจะพ่ายแพ้ฝ่ายต่อต้านที่จัดตั้งขึ้นโดยสหรัฐอเมริกาและประเทศตะวันตก หรือว่าผลการสู้รบที่ออกมาเป็นปฏิบัติการข่าวของสหรัฐและตะวันตกเพื่อปลุกขวัญกำลังใจให้ฝ่ายต่อต้านพม่าและกลุ่มชาติพันธุ์ที่ซีไอเอฟื้นฟูขึ้นมาให้ทำสงครามต่อไป เหมือนกับที่ทำปฏิบัติการข่าวปลุกปั่นให้ประเทศยูเครนหายนะไม่มีที่สิ้นสุด หรือข่าวการรุกคืบของฝ่ายต่อต้านเป็นการปั่นกระแสขึ้นมาเพื่อรักษาหน้ารัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (National Unity Goverment=NUG) ซึ่งรัฐเงาพม่าที่ประกาศว่ากองกำลังพิทักษ์ประชาชน (People Defese Forces=PDF) ที่ซีไอเอ สร้างขึ้นมากับแนวร่วมกลุ่มชาติพันธุ์จะโค่นล้มรัฐบาลทหารลงให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ เมื่อใกล้สิ้นปีจึงต้องปลุกปั่นกลุ่มชาติพันธุ์และ PDF ให้รุกรบใหญ่เพื่อได้รับการสนับสนุนจากอเมริกามากกว่าปีนี้
เดือนธันวาคม 2565 ประธานาธิบดี โจ ไบเดนลงนามกฎหมายรัฐบาลสหรัฐฯ มอบงบประมาณให้กิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยในพม่า เป็นจำนวน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2566-2570และจะให้งบประมาณช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกว่า 220 ล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2566
นักวิเคราะห์หลายฝ่าย ตั้งข้อสังเกตว่า กฎหมายเกี่ยวกับพม่าฉบับนี้มีนัยสำคัญที่สะท้อนท่าทีนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯต่อประเทศเมียนมา เนื่องจากว่ากฎหมายฉบับนี้ระบุว่าจะให้ความช่วยเหลือทางด้านเทคนิคและความช่วยเหลือแบบที่ไม่นำไปสู่การฆ่าชีวิต (non-lethal) แก่องค์กรต่อต้านเผด็จการทหารและเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่า องค์กรที่มีการระบุชื่ออย่างชัดเจน ได้แก่รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติพม่า และคณะกรรมการผู้แทนสมัชชาแห่งสหภาพ (CRPH) อาทิหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯลงนามในกฎหมาย นายดูหว่า ละชิละ ผู้นำรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติพม่าได้ออกมาขอบคุณชาวพม่าพลัดถิ่นที่ช่วยผลักดันให้สหรัฐผ่านกฎหมายนี้พร้อมทั้งประกาศว่า #จะโค่นรัฐบาลทหารพม่าลงให้ได้ภายในปี 2566
แหล่งข่าวในชาติพันธุ์ฉานกล่าวกับ แนวหน้าว่า ทางเหนือของรัฐฉานฝ่ายต่อต้านยึดเมืองสำคัญๆ ได้จริงแต่เชื่อว่าฝ่ายต่อต้านบริหารไม่ได้และจะถูกทหารพม่ายึดคืนในไม่ช้า ส่วนแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกองทัพคะยา บอกกับแนวหน้าว่า เจ้าหน้าที่องค์กรช่วยเหลือต่างๆบางคนช่วยอำนวยความสะดวกให้กลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า “ทหารคะยาที่อยู่ในค่ายผู้อพยพทุกคนมีบัตรคุ้มครองขององค์กรช่วยเหลือผู้อพยพ” แหล่งข่าวกล่าว
และบอกด้วยว่าเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือจากองค์กรนานาชาติบางคนช่วยลำเลียงอุปกรณ์บางอย่างข้ามแดนชายแดนไปให้ฝ่ายต่อต้าน “ตัวอย่างเช่น โดรนทำการเกษตร ที่ฝ่ายต่อต้านไปดัดแปลงเป็นโดรนทิ้งระเบิดเจ้าหน้าที่องค์กรช่วยเหลือนานาชาติบางคนช่วยลำเลียงผ่านชายแดนไปให้”
จากประสบการณ์ทำข่าวสงครามกลางเมืองในกัมพูชาเคยพบว่าเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้อพยพบางคนอำนวยความสะดวกให้นักรบบางฝ่าย เช่น ในค่ายผู้อพยพชาวกัมพูชาพบว่านักรบเขมรแดงที่เราเคยเจอในป่ามาปะปนอยู่กับผู้อพยพพลเรือนในบางกรณีเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้อพยพเป็นผู้สื่อข่าวพิเศษให้กับสำนักข่าวต่างประเทศไปในตัว และเมื่อเข้าถึงผู้นำเขมรแดงคนสำคัญได้เจ้าหน้าที่คนนั้นก็ฉวยโอกาสสัมภาษณ์พิเศษผู้นำเขมรแดงแล้วลาออกมาเป็นผู้สื่อข่าวเต็มตัว
ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเมื่อแหล่งข่าวเล่าให้ฟังว่าทหารคะยาประมาณสองร้อยคนใช้ค่ายผู้อพยพใกล้ชายแดนไทยเป็นที่พักฟื้นจากการสู้รบ และจากประสบการณ์ตรงในการทำข่าวชนกลุ่มน้อยพม่าในยุคที่การสู้รบกับทหารพม่า และสงครามยาเสพติดร้อนแรงเมื่อสามสิบปีก่อน หลายครั้งที่เห็นฝรั่งสี่ห้าคนเดินแถวเข้าป่ากับทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู เมื่อสอบถามกับผู้นำกะเหรี่ยงในเวลานั้นได้ความว่าฝรั่งเหล่านั้นเป็นหมอไร้พรมแดนบ้าง เป็นผู้ประสานงานพลัดถิ่นในประเทศบ้างเป็นที่ปรึกษาทางทหารบ้าง และทุกครั้งที่ทหารกะเหรี่ยงกลับจากสนามรบมักแถลงข่าวว่า ได้ยึดฐานที่มั่นที่โน้นที่นั่นของทหารพม่าและแจกแจงการสูญเสียของฝ่ายรัฐบาลถี่ยิบ แต่เมื่อผู้สื่อข่าวขอติดตามไปยังค่ายที่ยึดทหารกะเหรี่ยงได้ ก็ไม่ยอมให้ไปโดยอ้างความปลอดภัยตลอดเวลาเกือบยี่สิบปีที่คลุกคลีอยู่กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ สู้รบกับทหารพม่ามักได้รับข่าวในทำนองเดียวกันคือยึดฐานทหารพม่าจุดนั้นจุดนี้ได้และไม่กี่วันต่อมาก็ถูกทหารรัฐบาลยึดคืน
จึงเกิดความคลางแคลงใจและสงสัยกับข่าวที่ออกมาว่า ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่ายึดพื้นที่ได้เป็นจำนวนมากทั่วประเทศจริงหรือ? ส่วนทางเหนือรัฐฉานฝ่ายรัฐบาลอาจเพลี่ยงพล้ำจริง เพราะเหตุปัจจัยที่จีนไม่พอใจรัฐบาลทหารพม่าที่ไม่จัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างความเสียหายให้กับคนจีนในประเทศ จนทางการจีนถึงกับประกาศให้รางวัลแก่ผู้นำจับ 4 ตระกูล “หมิง” ตัวการแก๊งหลอกลวงคนละ 2 ล้าน ถึง 2.8 ล้านบาท นี้อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ทหารพม่าถอนตัวออกจากเมืองเล่าก์ก่ายปล่อยให้โกกั้งแนวร่วมรัฐบาลกับโกกั้งฝ่ายต่อต้านจัดการกันเอง
นักวิเคราะห์ชาวพม่าให้ความเห็นด้วยว่า บางทีรัฐบาลทหารอาจปล่อยให้ฝ่ายต่อต้านอาละวาดเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการอยู่ในอำนาจต่อไป “ลองคิดอีกมุมหนึ่งว่า หากบ้านเมืองสงบเป็นปกติรัฐบาลทหารก็ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งตามสัญญา แต่ตราบใดที่ฝ่ายต่อต้านยังคงอาละวาด รัฐบาลทหารก็ใช้อำนาจรัฏฐาธิปัตย์ประกาศภาวะฉุกเฉินและอยู่ในอำนาจต่อไปเพราะมีผู้ก่อการร้ายทั่วประเทศ” นักวิเคราะห์ชาวพม่ากล่าว
ดังนั้นหากมองสถานการณ์ในพม่าจากความเป็นจริง จะพบว่า โอกาสที่ฝ่ายต่อต้านโค่นล้มรัฐบาลทหารด้วยกองกำลังแทบเป็นไปไม่ได้และเชื่อว่าฝ่าย
ต่อต้านเองก็รู้อยู่แก่ใจว่า การสู้รบที่เป็นอยู่คือการแสดงเพื่อเอาใจอเมริกาและคนพม่าที่อยู่ต่างประเทศซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนสนับสนุนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี