ผมเขียนเรื่อง ยกเลิก “ลอยกระทง” ลงในเพจ “ปู จิตกร บุษบา” หลังจากรอจนกระแสดราม่านี้จบลง ความว่า
1. จะเรียกว่า “ประเพณี” หรือ “เทศกาล” ลอยกระทงก็ได้ แต่ไม่ว่าจะเรียกอย่างไร ก็โปรดเข้าใจให้ตรงกันว่า งานลอยกระทงนี้ คือ “#เครื่องกำเนิดพลังมหัศจรรย์” ที่เรียกกันสะเปะสะปะอยู่ในเวลานี้ว่า Soft Power
2. “Soft Power” หมายถึง การใช้อิทธิพลทางวัฒนธรรม การกิน การดื่ม วิถีชีวิต หรือความเชื่อ นำเสนอผ่านสื่อ หรือผลงานในรูปแบบต่างๆ เพื่อโน้มน้าวใจ
ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านความคิด หรือพฤติกรรมความชอบให้หันมาสนใจสิ่งเหล่านี้กันมากขึ้น
3. ตัวงานลอยกระทงจึงเป็นตัวเครื่อง ที่ก่อกำเนิด “อำนาจละมุน” หรือ “ภูมิพลังวัฒนธรรม” ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาใช้แทนคำทับศัพท์ว่า “ซอฟต์พาวเวอร์”
4. งานลอยกระทง มีพลังในการ ดึงคนออกจากบ้านมาท่องเที่ยว มาจับจ่ายใช้สอย มาพบปะสังสรรค์ มาน้อมใจบูชาหรือขอขมา มาออกแบบกระทง โคม มหรสพ เครื่องแต่งกาย รูปแบบกิจกรรม ฯลฯ มีพลังดึงแม้กระทั่งคนต่างชาติให้มาร่วมมีความสุขในเทศกาลนี้
5. เทศกาลหรืองานประเพณีลอยกระทง จึงเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด ที่จะเรียนรู้เรื่อง #ซอฟต์พาวเวอร์ ที่มิใช่ปัญญาอ่อนอยู่ที่ “หมูกระทะ” ดังที่ใครบางคนมีปัญญาสั้นกุดอยู่แค่นั้น
6. เกาหลี ใช้ภาพยนตร์และละคร ซึ่งรวมถึงซีรีส์เรื่องต่างๆ ทำให้คนทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชียด้วยกัน “คุ้นหู” กับภาษาเกาหลี ยุคแรกๆ ของการส่งเสริมการสร้างภาพยนตร์และส่งออกฉาย ภาพยนตร์เกาหลีใช้“คำบรรยาย” ทั้งหมด ไม่ใช่ระบบพากย์เสียง จากนั้นจึงต่อยอดไปสู่ความคุ้นเคยต่อข้าวของเครื่องใช้ เช่น โทรศัพท์มือถือ,รถยนต์, เครื่องสำอาง, อาหาร, สถานที่ท่องเที่ยว, เครื่องแต่งกาย และดนตรี
7. คนดูซีรี่ส์ แดจังกึม แล้วอยากกินอาหารเกาหลี อยากใส่ชุดฮันบก อยากไปเที่ยวชมพระราชวังต่างๆ เหมือนคนไทยดูบุพเพสันนิวาส ดูพรหมลิขิต แล้วไปเที่ยวอยุธยา, ลพบุรี ไปแต่งชุดไทยถ่ายรูป พูดคำว่า ออเจ้ากันอย่างมีความสุข
8. จึงไม่แปลกที่มีนักท่องเที่ยวแห่ไปเกาะนามิ ตามรอยซีรี่ส์ winter love song, ไปเกาะเชจู ตามรอยซีรี่ส์ our blues, ไปร้านกาแฟ coffee prince เผื่อได้เจอ กง ยู
9. จึงขอย้ำอีกครั้งว่า #หมูกระทะไม่ใช่ซอฟต์พาวเวอร์ หยุดปัญญาอ่อน แล้วแยกให้ออกว่าอะไรคือ product อะไรคือ process
10. การะเกดทำ “หมูสร่ง” ในละครที่คู่พระนางกุ๊กกิ๊กน่ารัก ละครบุพเพสันนิวาส นั่น คือ process ที่ก่อให้เกิด ความอยากชิมอยากเห็นอยากรู้จักหมูสร่ง ซึ่งคือ “พลังเหนี่ยวนำ” ที่เรียกว่า ซอฟต์พาวเวอร์ นำไปสู่การเกิด product และการบริโภค #หมูสร่ง ตลาดและร้านรวงต่างๆ ขายหมูสร่งกันคึกคัก เพราะบุพเพสันนิวาส ก่อความอยากบริโภค ขึ้นมา นั่นล่ะ ที่เรียกว่า “ซอฟต์พาวเวอร์”
11. #กางเกงช้าง มีขายมาเนิ่นนาน สวมใส่กันมาเนิ่นนาน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่นุ่งกางเกงขาสั้น หรือกางเกงที่ไม่สุภาพมา เพื่อเที่ยววัดเที่ยววัง
ไม่เคยเป็นกระแส จนกระทั่ง แจ็คสัน หวัง นักร้องซูเปอร์สตาร์มาสวมกางเกงช้าง เที่ยวไทย ถ่ายรูป และสวมอีกครั้งหลังจบทัวร์คอนเสิร์ตที่เกาหลี คราวนี้ คนตื่นการสวมกางเกงช้างจนโบ๊เบ๊สั่งซื้อมาขายแทบไม่ทัน
12. กางเกงช้างจึงเหมือนหมูกระทะ ตรงที่“ตัวมันไม่ใช่ซอฟต์พาวเวอร์” ตัวมันคือ product ที่ต้องมีprocess คือ กระบวนการบางอย่าง ที่ทำให้เกิด “พลังหรือกระแสอยากบริโภค” ขึ้น โดยสรุปคือ มันต้องมีกระบวนการก่อพลังละมุนที่นำไปสู่การบริโภค จึงจะครบ จบ กระบวนการของ Soft Power ไม่ใช่ไปหยิบกระบุง ตะกร้า ผ้าทอ ขนม อาหาร ขึ้นมา แล้วบอกว่านี่เป็นซอฟต์พาวเวอร์
13. งานลอยกระทงที่ทำกันมาเจ็ดชั่วโคตรจนกลายเป็น #ประเพณี ที่ผลิต #เทศกาลงานวัดงานจังหวัด ขึ้นทั่วประเทศ จึงเป็นเครื่องกำเนิดพลังละมุนที่กระตุ้นให้คนออกมาทำกิริยาที่เรียกว่า #ลอยกระทง พร้อมๆ กับการจับจ่ายใช้สอย และกิจกรรมบันเทิงต่างๆ14. ความหงุดหงิดเรื่อง “ขยะกระทง” เรื่อง “สิ่งแวดล้อม” เรื่อง “เสียงพลุที่มีผลต่อหมาแมว” เรื่องโคมลอยตก ไฟไหม้ ถามว่า #สำคัญไหม ตอบว่า สำคัญครับ แต่ทางแก้ไม่ใช่ #ยกเลิกงานลอยกระทง โดยเฉพาะด้วยจริตเฉพาะตัวที่มองว่าล้าหลัง ไม่ได้อะไร ขอให้ #ตั้งหลักและพักก่อน
15. งานลอยกระทง ทำให้ทุกตำบลหนแห่งมีกิจกรรม ที่นำมาซึ่งเศรษฐกิจที่หมุนเวียน งานฝีมือที่ได้รับการรักษา พัฒนา และสืบทอด, บ้าน วัด โรงเรียน มีปฏิสัมพันธ์กัน, ข้าวปลาอาหารขนูกขนม ได้รับการผลิตและบริโภค วิชาทำขนมทำอาหารไม่ตายจากไป, ที่โคราช คนแก่ได้รับการสนับสนุนให้ฟื้นฟูกิจกรรม #รำโทน ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของ #รำวง, ที่นครพนมที่ผมพาคนไปเที่ยวก่อนวันลอยกระทง เห็น อบต. มาถางหญ้า ปรับพื้นที่ ปลูกต้นไม้ดอกไม้ ปรับปรุงสวนหย่อมริมน้ำ ฯลฯ
16. ปัญหาเกิดตรงไหนให้แก้ตรงนั้น ไม่ใช่เอะอะๆ ก็ยกเลิกๆ กว่าที่โคตรพ่อโคตรแม่ของเราทั้งประเทศจะสืบสานรักษาประเพณีนี้มาจนถึงคนรุ่นเรา มันไม่เหลือคุณค่าอะไรบ้างเลยหรือ? แหวกอคติออกมา ค้นหาคุณค่าของมันด้วยกันดีไหม
17. ฉันเห็นวงวิชาการ #ร้อนวิชา กันขึ้นมาทุกปีเรื่อง #ไม่มีนางนพมาศไม่มีลอยกระทงที่สุโขทัย ซึ่งสำหรับประชาชนทั่วไป มีหรือไม่มีที่สุโขทัยแล้วเกี่ยวอะไรกับกู เกิดมาก็เห็นลอยกระทงกันทุกปี คุณค่าของวันนี้ จึงควรได้รับการศึกษาวิจัยบ้าง
18. ฉันเห็น #ความน่ารัก ของ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ที่ออกมารณรงค์ให้ทุกคนตระหนักเรื่อง #สิ่งแวดล้อม บอกสถานการณ์สิ่งแวดล้อม บอกผลกระทบต่อแหล่งน้ำ สัตว์น้ำ ให้ทุกคนตระหนัก ห่วงใย ใส่ใจ แนะว่าควรใช้กระทงแบบไหน ไม่ควรลอยกระทงในที่แบบใด โดยไม่บอกว่า #ยกเลิกไปเถอะ
19. ปัญหาอยู่ตรงไหน ก็แก้ที่ตรงนั้น ที่ตัวปัญหา #การจัดการใดที่ต้องมีก็ช่วยกันสร้างมันขึ้นมา ไม่ใช่เอะอะก็ล้มล้างล้มเลิก
20. ในยุคนี้ ถ้าต้องลอยในแหล่งน้ำปิด เช่น สระ ไม่ว่าจะสระแท้สระเทียม ที่สามารถควบคุมการแพร่กระจาย
ของกระทงได้ ก็ทำสิครับ, ในระบบเปิด เช่น คลอง แม่น้ำ ทะเลชนิดของกระทงแบบไหนจึงจะดี จะสร้างวงล้อมเพื่อจำกัดพื้นที่ด้วยแห ด้วยอวน ด้วยตาข่ายใดๆ ก็ทำ, จะทำกระทงยักษ์ขึ้นมากระทงเดียว แล้วอนุโมทนาร่วมกัน ทำบุญด้วยการซื้อดอกไม้เพื่อประดับในกระทงยักษ์นั้น หรือจะ ๑ ครอบครัว ๑ กระทง, จุดพลุ หมาแมวตกใจ จะทำอย่างไรดี, หมาแมวจรจัด ถ้ารัก ถ้าสงสาร ช่วยกันเอาไปเลี้ยง ให้มันมีบ้านอยู่ อบอุ่น ปลอดภัย กันได้ไหมล่ะครับ, ทั้งหมดมันอยู่ที่ #การจัดการของมนุษย์ทั้งสิ้น
21. งานลอยกระทงมันจึงไม่ต้องยกเลิก แค่ต้องจัดการ เท่านั้นเอง จัดการกับทัศนคติ จัดการกับรูปแบบงาน จัดการเรื่องสิ่งแวดล้อม จัดการเรื่องความปลอดภัยต่อคน
สัตว์ บ้านเรือน
กว่าจะลอยกระทงกันอีกทีก็ปีหน้าโน่น เอาเวลาหนึ่งปีที่มีอยู่นี้ มาทุ่มเทจริงจังต่อการจัดการกันดีไหมล่ะ ไม่ใช่ถึงเทศกาลทีก็บ่นกันที เลยเทศกาลแล้วก็เงียบ แล้ววนลูปกันต่อไปเหมือนเดิม
ล่าสุด มีการแถลงข่าวของคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ
โดย นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่มี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เป็นประธานการประชุม ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบหลักการที่แต่ละโครงการ กิจกรรม และอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ไทยทั้ง 10 ด้านได้เสนองบประมาณรวม 5,164 ล้านบาท ได้แก่
อุตสาหกรรมเฟสติวัล ที่เกี่ยวกับข้อมูล การสื่อสาร และผลักดันเฟสติวัลต่างๆ งบประมาณที่จะใช้จำนวน 1,009 ล้านบาท อุตสาหกรรมท่องเที่ยว เสนอจัดระบบการท่องเที่ยวใหม่ทั้งระบบ การสร้างกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว รวม 711 ล้านบาท สาขาอาหารมี 3 โครงการใหญ่เช่น 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย เชฟชุมชน และเชฟชาแนล1,000 ล้านบาท สาขาศิลปะไทย 5 โครงการ อาทิ เปิดหอศิลป์บริเวณถนนรัชดาภิเษก จัดตั้งสภาศิลปะแห่งประเทศไทย จัดกองทุนสนับสนุนศิลปะการแสดงร่วมสมัยรวมงบประมาณ 380 ล้านบาท สาขาออกแบบ ส่งเสริมไทยแลนด์แบรนด์ ใช้งบประมาณ 310 ล้านบาท
สาขากีฬา เน้นส่งเสริมประสิทธิภาพมวยไทย กิจกรรมมวยไทย ทั้งในและต่างประเทศงบประมาณ 500 ล้านบาท สาขาดนตรีในการพัฒนาหลักสูตรเฉพาะและส่งเสริมการฝึกอบรม ส่งเสริมศิลปินไทยสู่ระดับโลก 144 ล้านบาท สาขาหนังสือ ให้หนังสือไทยออกสู่หนังสือนานาชาติ 69 ล้านบาท สาขาภาพยนตร์ ละคร และซีรี่ส์ การจัดเทศกาลเอกซ์โปในประเทศและต่างประเทศ ส่งเสริมการสร้างภาพยนตร์และซีรี่ส์ ผลักดันสู่ออสการ์ 545 ล้านบาทสาขาแฟชั่น พัฒนาหลักสูตรออนไลน์ การเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการและส่งเสริมการแสดงสินค้าในต่างประเทศ 268 ล้านบาท และสาขาเกมพัฒนาหลักสูตร การส่งเสริมผู้ประกอบการ ส่งเสริมกองทุน และสร้างสนามกีฬาอีสปอร์ตแห่งชาติ รวมประมาณ 374 ล้านบาท
นายแพทย์สุรพงษ์กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไปหารือกับสำนักงบประมาณ โครงการบางส่วน อาจมีงบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐอยู่แล้ว หรือบางสาขาตั้งงบประมาณน้อยกว่าที่ต้องใช้ อาจต้องมีการทบทวนให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 14 ธันวาคม ก่อนส่งให้คณะกรรมการฯ ชุดใหญ่พิจารณาอีกครั้งในเดือนมกราคม
ด้าน นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเฟสติวัลเปิดเผยถึงการจัดกิจกรรม World Water Festival เพื่อส่งเสริมประเพณีอันงดงามของไทยให้คนทั่วโลกหันมามองประเทศไทยอีกครั้งผ่านประเพณี วัฒนธรรม และกิจกรรมต่างๆ ต้องมีการจัดให้เป็นระบบร้อยเรียงเป็นเรื่องราว 77 จังหวัดทั่วประเทศ ตลอด 365 วัน และคณะกรรมการฯจะจัดทำแอปพคลิเคชั่นเสนอเรื่องราวซอฟต์พาวเวอร์ไทยทั้ง 10 ด้าน เพื่อให้คนทั้งโลกมีความเข้าใจ รักเมืองไทยมากขึ้น และเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย
นางชฎาทิพกล่าวว่า ปีหน้าคณะกรรมการฯเตรียมกิจกรรมไว้มากกว่า 10,000 กิจกรรม 365 วันทั่วไทย โดยวาระแห่งชาติคือ การจัดกิจกรรม“มหาสงกรานต์ World Water Festival” ให้ไทยเป็นเจ้าแห่งสงกรานต์โลก ที่ไม่มีใครสามารถอ้างสิทธิ์ได้ โดยจะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ ผ่านงานมหาสงกรานต์ตลอดเดือนเมษายน ศูนย์กลางที่ถนนราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร และรวบรวมเรื่องราวทั้ง 77 จังหวัดผ่านขบวนแห่ เพื่อถ่ายทอดสิ่งสุดยอดในแต่ละจังหวัดตลอด 3 วัน 3 คืน และจะมีเวทีกิจกรรมโดยรอบ โดยเวทีใหญ่อยู่ที่สนามหลวง และเวทีย่อยที่ลานคนเมือง และลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ จะมีการออกร้านจัดแสดงวัฒนธรรมไทย ซึ่งครอบคลุม 11 ซอฟต์พาวเวอร์
นอกจากนั้น ยังมีการแสดงระดับโลก นักร้อง นักแสดงระดับโลกมาร่วมฉลองปีใหม่ไทยด้วย โดยจะจัดครอบคลุมทุกมิติซอฟต์พาวเวอร์ไทย เพื่อให้คนทั่วโลก นึกถึงสงกรานต์แล้วต้องมาเฉลิมฉลองที่ประเทศไทยเท่านั้น เพื่อมาเล่นน้ำร่วมกันบนถนนราชดำเนิน โดยจะมีการประดับสถานที่ให้สวยงามให้เป็นที่กล่าวขานทั่วโลก
ทั้งนี้ นอกจากกรุงเทพมหานครแล้ว ยังเลือกจังหวัดจุดเด่นแต่ละภาค บางจังหวัดจัดกิจกรรมทั้งก่อน และหลังวันที่ 13 เมษายน โดยจะจัดกระจายทุกภาคทั่วทั้งเดือน เพราะกิจกรรมแต่ละพื้นที่มีความสนุกสนานไม่เหมือนกัน ให้นักท่องเที่ยวเลือกท่องเที่ยวได้ ผลที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ ประชาชนมีรายได้ เกิดการจ้างงานในระดับหมู่บ้านทุกจังหวัด ซึ่งจะมีการจัดอบรมต่อยอดการจัดเฟสติวัลให้เป็นอาชีพ โดยมีการประเมินรายได้จากการจัดงานดังกล่าวเพียงกิจกรรมเดียวสะพัดไม่ต่ำกว่า 35,000 ล้านบาท หลังจากนี้ คณะกรรมการฯจะประชุมร่วมกันอีกครั้ง เพื่อสรุปกิจกรรมทั้งหมดภายในเดือนธันวาคม และจะพิจารณางบประมาณทั้งหมดในเดือนมกราคม 2567
สรุป : จะทำอะไรก็ตาม ให้เริ่มต้นที่การแยกแยะได้ว่า อะไรคือผลิตภัณฑ์ อะไรคืองานอีเว้นต์ อย่าเที่ยวเรียกชื่อเล่นว่า “ซอฟต์พาวเวอร์” จนมั่วไปหมด บางเรื่องมีบางหน่วยงานเขาทำอยู่แล้ว ทำง่ายๆ ใช้งบประมาณไม่มาก ก็เกิดสิ่งที่เรียกว่า “ซอฟต์ พาวเวอร์” คือ “พลังเหนี่ยวนำ” ขึ้นมาจริงๆ
เช่น เมื่อละคร “พรหมลิขิต” ออกอากาศ กรมศิลปากรและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็เปิดให้เที่ยวชมโบราณสถานและพิพิธภัณฑ์ยามค่ำ มีการจัดไฟประดับ การแสดงดนตรี ที่วัดไชยวัฒนาราม เปิดไฟประดับที่วัดราชบูรณะ มีตลาดโบราณข้างวัดราชบูรณะ ขณะที่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา ก็เปิดให้เข้าชมจนถึง 20.00 น. ซึ่งมีห้องจัดแสดง “เครื่องทองจากกรุวัดราชบูรณะ” และมีการจำลอง “กรุวัดราชบูรณะ” ให้ได้ชมอย่างตื่นตาตื่นใจ ทั้งหมดรวมกัน ก่อให้เกิด “ซอฟต์พาวเวอร์” คือ “พลังเหนี่ยวนำ” ให้คนไปเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ใช้งบประมาณไม่มาก แต่ทุกๆ สุดสัปดาห์ มีคนต่างถิ่นไปอยู่ที่พระนครศรีอยุธยาเป็นแสนๆ คน!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี