วันพฤหัสบดี ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen')
คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen')

คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen')

วันพุธ ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
นางงาม กับ รัฐเผด็จการ : ลาตินอเมริกาไม่ได้มีแค่นางงาม แต่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของการเปลี่ยนแปลง

ดูทั้งหมด

  •  

“Hola Universo, Hola El Salvador, Soy Anntonia Porsild con mucho orgullo, representando Tailandia.” หลายคนที่เป็นแฟนนางงามสามารถท่องประโยคดังกล่าวได้อย่างคล่องปากเพื่อเป็นการส่งเสียงเชียร์แก่ แอนโทเนีย โพซิ้ว ตัวแทนจากประเทศไทยในการประกวดนางงามจักรวาล Miss Universe 2023 แม้ปีนี้ประเทศไทยจะไม่ได้มง 3 ตามที่คาดหวังไว้ ทางผู้เขียนนั้น ยินดีเป็นอย่างยิ่งกับ Miss Nicaragua หรือ Sheynnis Palacios สำหรับตำแหน่ง Miss Universe 2023  

สำหรับผู้เขียน สิ่งที่น่าสนใจในการประกวดครั้งนี้ คือ ท่าทีของรัฐบาลนิการากัวที่มีต่อ Miss Nicaragua 2023 ทั้งก่อนและหลังการประกวดซึ่งแสดงให้เห็นว่า Sheynnis  มีส่วนสำคัญในการปลุกกระแสมวลชนหรือ Active Citizen ในนิการากัวเป็นอย่างมาก จากเวทีประกวดเพื่อความบันเทิงและสรรเสริญความสวยงามของเหล่าผู้ประกวดได้กลายเป็นการจุดประกายครั้งสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงในประเทศนิการากัว  


ดังนั้น ในบทความนี้ ผู้เขียนขอนำทุกท่านไปรู้จักพลวัตทางการเมืองของลาตินอเมริกาที่มีการเปลี่ยนแปลงจากเผด็จการไปสู่การมีประชาธิปไตย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศนิการากัวซึ่งเป็นประเทศที่ยังคงอยู่ภายใต้รัฐบาลอำนาจนิยมมานานกว่าหลายทศวรรษ  

 เผด็จการทหารในลาตินอเมริกาช่วงสงครามเย็น

 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง การพัฒนาทางการเมืองของประเทศด้อยพัฒนา หรือ กำลังพัฒนามีการพัฒนาทางการเมืองผ่านการใช้ “อำนาจปืน” เป็นเครื่องมือหลักในการได้มาซึ่งอำนาจรัฐ (สุรชาติ บำรุงสุข, 2561, 24) ทำให้ผู้นำในประเทศเหล่านี้เป็นผู้นำในลักษณะนักการเมืองในเครื่องแบบ(Politician in uniform) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสงครามเย็นผู้นำในหลายประเทศใช้โอกาสในช่วงของความขัดแย้งทางความคิดเพื่อสร้างความชอบธรรมให้แก่รัฐบาลของตนและทำการปราบปรามคอมมิวนิสต์ อีกทั้ง ผู้นำเหล่านี้มีความเชื่อในพลังอำนาจของอาวุธหรือ “กระสุนปืน (Bullet)” มากกว่าเชื่อใน “บัตรเลือกตั้ง (Ballot)” (แม้ว่าหลายคนจะเคยได้ยินประโยควรรคทองจากประธานาธิบดี Lincoln ที่ว่า “บัตรเลือกตั้งแข็งแรงกว่ากระสุนปืน”แต่สำหรับผู้นำเผด็จการเหล่านี้เขาเชื่อในกระสุนปืนมากกว่า)  

การควบคุมรัฐด้วยอาวุธทำให้ประเทศผ่านพ้นจากวิกฤตทางการเมืองในช่วงสงครามเย็นไปได้ ดังนั้น ในทศวรรษที่ 1950 ถึง 1960 เป็นช่วงเวลาที่รัฐเผด็จการหรือประเทศผู้นำทหารมีความเข้มแข็งและวางรากฐานอย่างฝังรากลึกในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา อีกทั้ง ปัจจัยภายนอกอย่าง สหรัฐฯ ในช่วงสงครามเย็นได้ช่วยเสริมสร้างเกราะอันแข็งแกร่งแก่เผด็จการทหารโดยสหรัฐฯ เข้าแทรกแซงในภูมิภาคนี้ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1820 ผ่านการประกาศนโยบายภายใต้คำแถลงการณ์มอนโร หรือ ลัทธิมอนโร(Monroe Doctrine 1823) เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากมหาอำนาจยุโรปมายังภูมิภาคลาตินอเมริกาที่เปรียบเสมือน
หลังบ้านของสหรัฐฯ  

อย่างไรก็ตาม เมื่อสิ้นสุดสงครามเย็น ประเทศเผด็จการในลาตินอเมริกาได้เผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านเป็นประชาธิปไตยอีกครั้ง (Redemocratization) เนื่องจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตซึ่งเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของการสิ้นสุดความขัดแย้งทางอุดมการณ์ได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับสถาบันทหารทั่วโลกในขณะนั้น  

กองทัพหรือรัฐบาลทหารในหลายๆ ประเทศได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ในการปกป้องประเทศจากภัยคอมมิวนิสต์ ดังนั้น เมื่อสงครามเย็นยุติลง สหรัฐฯ ได้ยกเลิกการสนับสนุนต่อรัฐบาลทหารและกองทัพในประเทศกำลังพัฒนา ทำให้ความชอบธรรมในการสร้างความมั่นคงเพื่อปราบปรามและป้องกันคอมมิวนิสต์จึงหมดไปเช่นเดียวกัน อีกทั้ง รัฐบาลอำนาจนิยมในช่วงทศวรรษที่ 1980 ไม่มีความสามารถมากพอที่จะบริหารเศรษฐกิจประเทศจึงนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจขึ้นในหลายประเทศกำลังพัฒนา ทำให้พันธมิตรพลเรือนของกองทัพอย่างกลุ่มธุรกิจและชนชั้นกลางหันมาสนับสนุนภาคประชาสังคมที่ต้องการโค่นล้มระบอบอำนาจนิยม  

อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถการันตีได้ว่าระบอบประชาธิปไตยในลาตินอเมริกาจะมั่นคงและถาวรได้ แม้ว่า ในช่วงทศวรรษที่ 1990 หลายประเทศในลาตินอเมริกามีการเลือกตั้งและรัฐบาลเผด็จการได้หายไปในภูมิภาคนี้ แต่ประเทศเหล่านี้ได้เผชิญกับปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้อำนาจเผด็จการกลับหวนสู่อำนาจในประเทศเหล่านี้อีกครั้ง   

การหวนกลับมาของเผด็จการในนิการากัว  

ในช่วงสงครามเย็น นิการากัวเป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลอำนาจนิยมที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ จนกระทั่งเกิดการปฏิวัติคิวบา ทำให้เกิดการประท้วงเพื่อต่อต้านรัฐเผด็จการของประธานาธิบดี Anastasio Somoza ที่ปกครองนิการากัวมายาวนานถึง 43 ปี (ค.ศ. 1936-ค.ศ. 1979) ของชนชั้นแรงงาน ชาวนา นักเรียน และชนชั้นกลางในนิการากัว และท้ายที่สุด เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่สงครามกลางเมืองในนิการากัวและการปฏิวัติที่นำโดยกลุ่ม Left-Wing อย่าง Sandinista
(Sandinista National Liberation Front (FSLN) 

ในช่วงเวลานั้นเอง เป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนถ่ายระหว่างขั้วอำนาจเก่าไปสู่ขั้วอำนาจใหม่ ผ่านการปกครองประเทศโดยกลุ่ม FSLN หรือ พรรค FSLN (ต่อมา FSLN ได้กลายเป็นพรรคการเมืองในระบบรัฐสภาของนิการากัว) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียตและคิวบา แม้ในการขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของ Daniel Ortega จากพรรค FSLN จะมาจากการเลือกตั้ง แต่การเลือกตั้งดังกล่าว เต็มไปด้วยการคอร์รัปชันและถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรมกับพรรคอื่นๆ ที่ลงสมัคร ทำให้การปกครองของนิการากัวในเวลานี้เป็นเพียงแค่การเปลี่ยนกลุ่มอำนาจเผด็จการเท่านั้น  

หลังจากสิ้นสุดสงครามเย็น แรงสนับสนุนจากภายนอกต่อพรรค FSLN ได้หายไปพร้อมกับการล่มสลายของสหภาพโซเวียต นำมาสู่การเลือกตั้งในปี 1990 นิการากัวได้ประธานาธิบดีคนใหม่ในรอบ 11 ปี ในช่วงเวลานั้นเอง นิการากัวได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ผ่านการทำข้อตกลงทางการค้า CAFTA-DR ทำให้เศรษฐกิจของนิการากัวดีขึ้นไปพร้อมกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย แต่ประตูที่เปิดออกไปสู่ประชาธิปไตยถูกปิดลงอีกครั้ง เนื่องจากเกิดการคอร์รัปชันในการเมืองท้องถิ่น และความแตกแยกทางสังคมในช่วงเวลาดังกล่าวเปิดโอกาสให้ Daniel Ortega กลับเข้าสู่สนามการเมืองและชนะการเลือกตั้งอีกครั้งใน ค.ศ. 2006 และกลายมาเป็นประธานาธิบดีจนถึงปัจจุบัน  

ในช่วงเวลาตั้งแต่ 2006 จนถึงปัจจุบัน ทางรัฐบาลได้เปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้งตามวาระ แต่ประธานาธิบดี Ortega ชนะการเลือกตั้งทุกครั้ง เนื่องจากการเลือกตั้งในแต่ละครั้งเป็นการเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรมและมีการจำคุกของหัวหน้าฝ่ายค้านหลายคนในช่วงเวลาที่มีการเลือกตั้ง อีกทั้ง ฝ่ายรัฐบาลได้ใช้อำนาจทางทหาร ตำรวจ เข้าควบคุมพฤติกรรมและความคิดของประชาชนโดยตลอดมา จนทำให้เกิดการประท้วงขึ้นหลายครั้งในนิการากัว  

จุดตกต่ำขั้นสุดของประชาธิปไตยในนิการากัวเกิดขึ้นในค.ศ. 2017 เมื่อประธานาธิบดี Ortega แต่งตั้งภรรยาของเขาเป็นรองประธานาธิบดี และเข้าควบคุมระบบการคลังทั้งหมดของประเทศ ทำให้ประชาชนไม่พอใจเป็นอย่างมากจนนำมาสู่การประท้วงครั้งยิ่งใหญ่ในปีต่อมา การประท้วงในปี 2018 นำไปสู่โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ เนื่องจากรัฐใช้ความรุนแรงในการปราบปรามหรือควบคุมฝูงชนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 350 ราย และมีผู้ต้องขังทางการเมืองมากมาย ซึ่งในการประท้วงครั้งนี้ Sheynnis Palacios ได้เข้าร่วมการประท้วงดังกล่าวเช่นกัน  

เมื่อ Miss Universe กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหวัง 

หลังจากการประกวดนางงามจักรวาลจบลง กระแสนางงามได้กลายเป็นที่ถูกพูดถึงอีกครั้ง โดยสำนักข่าวต่างประเทศ The Guardian รายงานว่า Karen Celebertti เจ้าของแฟรนไชส์ Miss Nicaragua และลูกสาว ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศนิการากัวได้เนื่องจากถูกจัดอยู่ในบุคคลที่ห้ามเข้าประเทศ ส่วน Sheynnis ตอนนี้ยังไม่ได้เดินทางกลับประเทศ เนื่องจาก Sheynnis ได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งนางงามจักรวาลอยู่ที่สหรัฐฯ และยังไม่ได้รับการยืนยันจากรัฐบาลนิการากัวเรื่องของการห้ามไม่ให้ Sheynnis เข้าประเทศ  

อย่างไรก็ตาม หลังจาก Sheynnis ได้รับตำแหน่ง Miss Universe 2023 ประชาชนในประเทศนิการากัวพากันออกมาเฉลิมฉลองบนท้องถนนเป็นจำนวนมาก โดยการเฉลิมฉลองดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงแค่การสรรเสริญความงดงามของนางงามที่ได้รับมงกุฎ แต่เป็นการเฉลิมฉลองให้กับความหวังเพียงเล็กน้อยที่จะจุดประกายให้ประเทศนิการากัวกลับมาเป็นประชาธิปไตยอีกครั้ง  

ผู้คนที่ออกมาเดินขบวนเฉลิมฉลองชัยชนะในตำแหน่งนางงามจักรวาลนั้น ได้เปรียบเทียบว่า Sheynnis เป็นตัวแทนของความหวังและแสงสว่างในประเทศ เนื่องจากในช่วงของการแข่งขัน ได้มีการปล่อยภาพ Sheynnis ในขณะเดินขบวนประท้วงครั้งใหญ่ในปี 2018 อีกทั้ง ประชาชนนิการากัวบางส่วนเชื่อว่า เสื้อคลุมสีน้ำเงินและชุดราตรีสีขาวที่ Sheynnis สวมใส่ระหว่างแข่งขันเป็นการอ้างอิงถึงสีของธงชาติที่เป็นสีที่ถูกห้ามหลังจากการประท้วงในปี 2018  แม้ว่าในช่วงเวลาของการแข่งขันจนถึงปัจจุบัน Sheynnis ไม่ออกมาพูดถึงประเด็นการเมืองใดๆ 

Sheynnis ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ ความหวัง (Hope) และการไม่ยอมจำนน (Defiance) ของชาวนิการากัว ชัยชนะของ Sheynnis ได้จุดประกายความหวังต่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ประชาธิปไตย และกลายเป็นคลื่นใต้น้ำที่รอวันปะทุเพื่อต่อสู้กับเผด็จการ  

การเป็น Active Citizen ของ Sheynnis ทำให้รัฐบาลเผด็จการเกิดความกระสับกระส่าย เนื่องจากรัฐบาลกลัวว่าชัยชนะของ Sheynnis ในครั้งนี้จะปลุกกระแสการประท้วงต่อต้านรัฐบาล
ให้กลับมาอีกครั้ง แม้ในตอนนี้จะยังไม่มีการประกาศใดๆ จากรัฐบาลต่อกรณีห้ามเข้าประเทศดังกล่าว แต่ระหว่างการแข่งขันสื่อของรัฐบาลได้ใช้ถ้อยคำเสียดสี Sheynnis หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเกลียดชังของสื่อฝ่ายรัฐบาลที่มีต่อ Sheynnis

 ดังนั้น เสียงของพลเมืองที่ตื่นรู้เป็นสิ่งที่เผด็จการในหลายประเทศหวาดกลัวมาตลอด แม้ว่าผู้ส่งเสียงจะมีเพียงแค่หนึ่งคน ก็สามารถจุดประกายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมได้เช่นเดียวกับภาพของ Sheynnis

การเคลื่อนไหวหรือการลุกฮือของภาคประชาชนเป็นปัจจัยสำคัญในการโค่นล้มรัฐบาลอำนาจนิยมดังเช่นในอดีต เมื่อประชาชนยังคงมีหวังและส่งเสียงแห่งความหวังนั้นออกมา ประชาธิปไตยสามารถหวนหลับมาสู่ภูมิภาคนี้ได้อีกครั้ง

 ท้ายที่สุด การเป็นพลเมืองตื่นรู้เป็นพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงในทุกภาคส่วนของสังคม เพียงแค่ประชาชนทุกคนตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของเสียงของตนเอง ความหวังของการเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อประชาชนได้ใช้เสียงของตนเองอย่างถูกต้อง

 

ศรันย์ชนก ลิมวิสิฐธนกร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
10:12 น. ‘กรมชลประทาน’รายงานฝนตอนบนเริ่มลดลง เร่งระบายน้ำต่อเนื่อง
10:01 น. ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันพฤหัสบดี 13 พฤศจิกายน 2568
09:57 น. มันมาอีกแล้ว! ‘โดรนเขมร’โผล่บินป่วนน่านฟ้า‘สุรินทร์’ คาดสอดแนมชายแดน
09:57 น. 'มาลี'มาแล้ว! แถลงประณาม อ้างทหารไทยเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงพลเรือน
09:38 น. ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ! ‘เขมร’โชว์เหลี่ยม นำคณะ AOT ลงพื้นที่ดูคนเจ็บถึงห้องไอซียู กล่าวหาไทย
ดูทั้งหมด
สาวชุดหวือโชว์รอยสัก 'ของลับโผล่' ชี้แจงแล้ว 'ไม่ได้ตั้งใจ-ที่แปะหลุด-ดื่มหนัก'
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 8-14 พ.ย.68
โพสต์นี้มีสะเทือน! 'เพลง ชนม์ทิดา'แชร์ข้อคิดถึงการโกหกกับความสัมพันธ์
แฟนบอลเตรียมตัว! เปิดช่องทางชมสด'หมอนทองวิทยา'ดวล'อบจ.ชัยนาท'
'เขมร'จัดฉากชุดใหญ่ ตีปี๊บบุกทลาย 2 รังใหญ่แก๊งสแกมเมอร์แหกตาชาวโลก
ดูทั้งหมด
‘Do it My Way’ทางของ‘หนู-อนุทิน’
บุคคลแนวหน้า : 13 พฤศจิกายน 2568
สังคมนิยมปักธงที่สหรัฐอเมริกาแล้ว
มิกกี้เมาส์ราวีขอม (1)
จะโกงแม้กระทั่งการติดคุก รัฐบาลอนุทินล้อมคอกด่วน
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันพฤหัสบดี 13 พฤศจิกายน 2568

มันมาอีกแล้ว! ‘โดรนเขมร’โผล่บินป่วนน่านฟ้า‘สุรินทร์’ คาดสอดแนมชายแดน

เปิดคำสารภาพ‘เขมรเถื่อน’ กลับบ้านตามคำท่านผู้นำ อดอยาก-ไร้เงิน เสี่ยงแอบเข้าไทย

ฝนตกท่วมขัง! 'ถนนกำแพงเพชร2'จราจรติดยาว เร่งระบายน้ำ

แสนสงสาร'น้องหมาบ่อขยะ' นั่งรอคนมาช่วย ถูกคนใจร้ายยิงลูกดอกใส่ข้างลำตัว

'อนุทิน'หนุนเปิดสภาวิสามัญแก้ไขรธน.วาระ 2-3 หวังเสร็จทันสิ้นปี สอดรับเงื่อนไข MOA ภท-ปชน.

  • Breaking News
  • ‘กรมชลประทาน’รายงานฝนตอนบนเริ่มลดลง เร่งระบายน้ำต่อเนื่อง ‘กรมชลประทาน’รายงานฝนตอนบนเริ่มลดลง เร่งระบายน้ำต่อเนื่อง
  • ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันพฤหัสบดี 13 พฤศจิกายน 2568 ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันพฤหัสบดี 13 พฤศจิกายน 2568
  • มันมาอีกแล้ว! ‘โดรนเขมร’โผล่บินป่วนน่านฟ้า‘สุรินทร์’ คาดสอดแนมชายแดน มันมาอีกแล้ว! ‘โดรนเขมร’โผล่บินป่วนน่านฟ้า‘สุรินทร์’ คาดสอดแนมชายแดน
  • \'มาลี\'มาแล้ว! แถลงประณาม อ้างทหารไทยเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงพลเรือน 'มาลี'มาแล้ว! แถลงประณาม อ้างทหารไทยเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงพลเรือน
  • ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ! ‘เขมร’โชว์เหลี่ยม นำคณะ AOT ลงพื้นที่ดูคนเจ็บถึงห้องไอซียู กล่าวหาไทย ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ! ‘เขมร’โชว์เหลี่ยม นำคณะ AOT ลงพื้นที่ดูคนเจ็บถึงห้องไอซียู กล่าวหาไทย
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

หาทรัมป์หรือหาทำ : นี่คือสันติภาพหรือการล่าอาณานิคมบนการจัดระเบียบธรรมาภิบาลโลกใหม่ของสหรัฐอเมริกา

หาทรัมป์หรือหาทำ : นี่คือสันติภาพหรือการล่าอาณานิคมบนการจัดระเบียบธรรมาภิบาลโลกใหม่ของสหรัฐอเมริกา

5 พ.ย. 2568

การคอร์รัปชันในตลาดแรงงาน อุปสรรคของการเติบโตทางเศรษฐกิจ

การคอร์รัปชันในตลาดแรงงาน อุปสรรคของการเติบโตทางเศรษฐกิจ

29 ต.ค. 2568

‘ธรรมาภิบาลวัด’ ทางรอดของศาสนาในวันที่ศรัทธาถูกตั้งคำถาม

‘ธรรมาภิบาลวัด’ ทางรอดของศาสนาในวันที่ศรัทธาถูกตั้งคำถาม

22 ต.ค. 2568

รักษาหลักนิติธรรม-แก้คอร์รัปชัน-พูดแล้วทำ (ได้ไหม?)

รักษาหลักนิติธรรม-แก้คอร์รัปชัน-พูดแล้วทำ (ได้ไหม?)

15 ต.ค. 2568

สื่อสืบสวน เครื่องมือสร้างสังคมโปร่งใส

สื่อสืบสวน เครื่องมือสร้างสังคมโปร่งใส

8 ต.ค. 2568

Red flag ความรักที่เหมือนงบรัฐ :  ชวนส่องความเสี่ยงทุจริตผ่านความ Toxic ในความสัมพันธ์

Red flag ความรักที่เหมือนงบรัฐ : ชวนส่องความเสี่ยงทุจริตผ่านความ Toxic ในความสัมพันธ์

24 ก.ย. 2568

เยาวชนกับการต่อต้านคอร์รัปชัน : เราจะปลูกฝังคนรุ่นใหม่ให้โตมาโดยไม่ยอมรับความผิดปกติได้อย่างไร

เยาวชนกับการต่อต้านคอร์รัปชัน : เราจะปลูกฝังคนรุ่นใหม่ให้โตมาโดยไม่ยอมรับความผิดปกติได้อย่างไร

17 ก.ย. 2568

ITA ภาพลวงตาแห่งความโปร่งใสแบบ Made in Thailand รัฐไทยทำโชว์

ITA ภาพลวงตาแห่งความโปร่งใสแบบ Made in Thailand รัฐไทยทำโชว์

10 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved