คำถามสำคัญที่สังคมไทยถามมาตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2566 คือ นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร อยู่ในคุกจริงๆ หรือ คำถามนี้ เป็นคำถามที่ทั้งเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ไม่เคยตอบให้ชัดเจน นอกจากไม่ตอบแล้วยังเดินหนีผู้สื่อข่าวที่สอบถามเรื่องนี้เป็นระยะๆ
แม้ล่าสุดก่อนที่เศรษฐาจะอ้างว่าลาพักร้อน ก็ตอบแบบปัดสวะว่า เรื่องกฎเกณฑ์ใดๆ จากกรมราชทัณฑ์ที่ออกมานั้น ไม่เกี่ยวกับตนเอง เป็นเรื่องของกระทรวงยุติธรรม เป็นเรื่องของราชทัณฑ์ ไม่ใช่เรื่องของตนเอง
นับว่าแปลกมากที่สุดที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าเรื่องของกระทรวงยุติธรรมไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง ซึ่งนั้นก็ทำให้สังคมตีความว่านายกรัฐมนตรีไม่มีปัญญาดูแลกิจการของกระทรวงยุติธรรม ทั้งๆ ที่ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อนายกรัฐมนตรีไม่มีปัญญาดูแลกระทรวงใต้บังคับบัญชาแล้ว จะต้องมีนายกรัฐมนตรีไปเพื่ออะไร เพราะมีไปก็เปล่าประโยชน์ เสียงบประมาณ เสียค่าจ้าง เสียพื้นที่ของทำเนียบรัฐบาล
กลับไปที่ประเด็นคำถามที่เกิดมาจากความเชื่อของสาธารณชนว่า ทำไมนักโทษชายทักษิณ ชินวัตรจึงไม่อยู่ในคุก ทั้งๆ ที่มีสถานะนักโทษที่ถูกศาลพิพากษาเด็ดขาดแล้ว
ประเด็นต่อมาคือทำไมกรมราชทัณฑ์จึงอ้างว่านักโทษชายทักษิณถูกส่งตัวไปรักษาโรคร้ายที่โรงพยาบาลตำรวจ แล้วทำไมจึงอยู่นอกคุกได้นานถึง 120 แล้ว ทำไมไม่กลับเข้าคุกเสียที หรือว่าโรคร้ายที่อ้างว่านักโทษชายทักษิณเป็น ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ จำเป็นต้องรักษาไปเรื่อยๆ หรือแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจจะทำความเห็นส่งให้กรมราชทัณฑ์รับทราบว่าหมดปัญญารักษาโรคของนักโทษชายทักษิณ เมื่อรักษาไม่ได้ ก็น่าจะตีความได้ว่านักโทษชายทักษิณอาจจะมีชีวิตต่อไปได้อีกไม่นานนัก จึงต้องให้รักษาตัวต่อไปในโรงพยาบาลจนกว่าจะถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย พรรคการเมืองของทักษิณบอกกับนักข่าวซึ่งสรุปได้ว่านักโทษชายทักษิณเข้าเกณฑ์ได้รับพิจารณาให้ถูก
คุมขังนอกคุกได้ เพราะไม่ได้ทำความผิดร้ายแรง แล้วมีโทษจำคุกไม่นาน
เมื่อสมศักดิ์บอกแบบนี้ก็ทำให้สังคมถามว่า การโกงบ้านกินเมือง ทุจริตคอร์รัปชันโดยการใช้อำนาจรัฐซึ่งเกิดในยุคทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ถือเป็นความผิดร้ายแรงหรือ ถามย้ำว่าการโกงบ้านกินเมือง ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงหรือ หากการโกงบ้านกินเมือง ไม่ถือเป็นความผิดร้ายแรง แล้วรัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญกับการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน โกงบ้านกินเมืองไปเพื่ออะไร แล้วทำไมหัวหน้ารัฐบาล หรือแกนำรัฐบาลจะต้องเสนอหน้าไปร่วมงานต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน หรือว่า
สมศักดิ์มีความเห็นว่าการโกงบ้านกินเมืองเป็นเรื่องไม่ผิดกฎหมายขั้นร้ายแรง เป็นเพียงความผิดฐานลหุโทษเท่านั้น
สมศักดิ์ยังเล่นลิ้นตอบนักข่าวที่ถามเรื่องทักษิณไม่เข้าคุกว่า นักข่าวไม่เข้าใจหรอก เพราะไม่เคยติดคุก คนติดคุกมีความเครียดมาก ความดันขึ้นสูง เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้นราชทัณฑ์จึงต้องส่งทักษิณไปรักษาตัวนอกคุก เพราะทักษิณเครียดมาก มีโรคหลายโรครุมเร้า อาจจะตายได้หากอยู่ในคุก
เมื่อสมศักดิ์ตอบแบบเล่นลิ้นเช่นนี้ ก็ทำให้มีคำถามจากสังคมโต้กลับทันทีว่า นักโทษชายทักษิณเครียดคนเดียวเท่านั้นหรือ คนติดคุกรายอื่นๆ ไม่เครียดหรือ และคนติดคุกรายอื่นๆ ไม่มีโรคร้ายประจำตัวหรือ แล้วเหตุใดสมศักดิ์ไม่อนุญาตให้คนคุกรายอื่นๆ ที่อายุมากกว่าทักษิณ มีโรคร้ายรุมเร้ามากกว่าทักษิณ มีอาการเครียดจนความดันทะลุปรอทมากกว่าทักษิณ ออกไปรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจบ้าง ไม่ต้องส่งไปชั้น 14 ซึ่งเป็นชั้นสุดพิเศษก็ได้ แต่ขอให้ส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจให้ยาวนานเหมือนที่อ้างว่าส่งตัวนักโทษชายทักษิณไปรักษาตัวก็แล้วกัน สมศักดิ์ไม่คิดบ้างหรือว่าคนคุกรายอื่นๆก็เครียด และเครียดหนักกว่าทักษิณด้วยซ้ำไป
สมศักดิ์เคยเข้าไปให้อดีตนักโทษชายสรยุทธ สุทัศนะจินดา สัมภาษณ์ออกรายการทีวีมาแล้ว เมื่อครั้งสมศักดิ์กินตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สมัยประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรี สมศักดิ์ไม่พบว่าคนคุกรายอื่นๆ มีความเครียดบ้างเลยหรือ
สำหรับเรื่องเกณฑ์ใหม่ของกรมราชทัณฑ์เรื่องติดคุกโดยไม่ต้องอยู่ในคุก ถูกตั้งคำถามว่าออกมาเพื่อเอื้อให้นักโทษชายทักษิณเป็นการเฉพาะหรือไม่ เรื่องนี้ทั้งเศรษฐา สมศักดิ์ และทวี ไม่ตอบให้ชัด บางคนหนีคำถามไปแบบไม่แยแสคำถามจากนักข่าว บางคนก็ตอบแบบแถๆ แถกๆ ไปแบบน่าสมเพช โดยอ้างว่าเกณฑ์ใหม่นี้จะเป็นคุณกับนักโทษที่ไม่ต้องถูกคุมขังในคุก แต่คำถามคือนักโทษคนไหนบ้างที่จะได้ประโยชน์จากเกณฑ์นี้ นอกจากเห็นชัดๆ ว่านักโทษชายทักษิณได้ประโยชน์ไปเต็มๆ
กลับไปที่ประเด็นจรรยาบรรณแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจ และโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ โดยเฉพาะแพทย์เจ้าของไข้นักโทษชายทักษิณ มีคำถามจากสังคมว่าแพทย์เหล่านั้นมีจรรยาบรรณแพทย์หรือไม่ การที่แพทย์อ้ำๆ อึ้งๆ เรื่องอาการป่วยของนักโทษชายทักษิณ ทำให้สังคมวิพากษ์ว่าแพทย์จงใจปิดบังเรื่องราว เพราะต้องการช่วยให้นักโทษชายทักษิณไม่ต้องติดคุก มีคำถามตลอดเวลาว่า ทักษิณป่วยเป็นโรคอะไร ทำไมรับการรักษานานกว่า 120 วันแล้วยังไม่หายป่วย หากรักษาไม่ได้จริงๆ หมายความว่านักโทษชายทักษิณต้องตายในเร็วๆ นี้หรือไม่ เรื่องเหล่านี้แพทย์ต้องตอบสังคมได้ อย่าเอาเรื่องความลับของคนไข้มาใช้เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น เพราะไม่มีใครขอให้แพทย์บอกรายละเอียดของการรักษาโรค แต่เพียงต้องการรู้ว่าป่วยเป็นอะไร ป่วยหนักจนใกล้ตายหรือไม่ หรือแพทย์มีปัญญารักษาให้โรคหายขาดหรือไม่เท่านั้น
สาธารณชนยังตั้งคำถามอีกว่า ทำไมกรณีนักโทษจากกลุ่มสามนิ้วที่ถูกส่งตัวเข้าไปอยู่ในคุกแล้วมีอาการป่วย ทำไมแพทย์สาธยายอาการป่วยละเอียดยิบ บอกทุกแง่ทุกมุม บอกถึงอาการของโรค บอกระดับความดัน บอกสารพัดจะบอก แล้วทำไมอาการป่วยของนักโทษชายทักษิณจึงถูกเก็บเป็นความลับ หรือว่าจริงๆ แล้วนักโทษชายทักษิณไม่ได้ป่วยเลยแม้แต่น้อย แพทย์จึงไม่สามารถบอกอาการป่วยได้
เรื่องนี้มีผู้ตั้งคำถามไปยังแพทยสภา แพทยสมาคม และสมาคมวิชาชีพแพทย์ทั้งหลายว่า แพทย์ยังเคร่งครัดในหลักจรรยาบรรณอยู่หรือไม่ หรือแพทย์ยอมทำตามคำสั่งการเมืองของผู้มีอำนาจรัฐ โดยไม่นำพาต่อหลักจรรยาบรรณวิชาชีพอีกต่อไปสรุปคือแพทย์ยอมเป็นคนใต้อาณัติของนักการเมือง ใช่หรือไม่
สำหรับอธิบดีกรมราชทัณฑ์ (หรือรักษาการตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์) สาธารณชนก็ตั้งคำถามว่ายังมีศักดิ์ศรีของข้าราชการอยู่หรือไม่ เคยคำนึงถึงเกียรติยศของการเป็นข้าราชการบ้างหรือไม่ แล้วที่สำคัญคือสาธารณชนถามตรงๆ ว่า เคยคิดบ้างไหมว่าการหลับหูหลับตาทำตามคำสั่งโดยไม่ชอบของนักการเมือง สุดท้ายแล้วจะต้องติดคุก เหมือนข้าราชการบางคนที่ยอมเป็นเครื่องมือของนักการเมืองในคดีทุจริตจำนำข้าวสมัยยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี คำถามย้ำๆ จากสาธารณชนคือ อธิบดีกรมราชทัณฑ์เคยคิดบ้างไหมว่าวันหนึ่งอาจต้องเข้าไปอยู่ในคุกในฐานะนักโทษ เพราะทำตามคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยนักการเมืองฉ้อฉล
มีคำถามไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์ว่าที่ผ่านมานั้น เคยมีการอนุญาตให้นักโทษคนไหนบ้างออกไปรักษาตัวนอกคุกได้ยาวนานเหมือนเช่นที่นักโทษชายทักษิณได้รับอภิสิทธิ์เช่นนี้ หากมี ขอให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ชี้แจงเรื่องให้สาธารณชนรับทราบด้วย
ไม่มีใครคัดค้านการพิจารณาด้วยหลักการแห่งความยุติธรรมที่แท้จริง ในกรณียินยอมให้นักโทษคดีไม่ร้ายแรงสามารถถูกควบคุมตัวไว้ภายนอกคุก แต่สำหรับความผิดที่นักโทษชายทักษิณจงใจกระทำนั้น เป็นความผิดร้ายแรงมาก เป็นการจงใจบ่อนทำลายบ้านเมือง หลายคนยังจำได้ดีว่านักโทษชายทักษิณถูกพิพากษาจำคุกในคดีหวยบนดิน คดีนอมินีชินคอร์ป และคดีให้ EXIM Bank ปล่อยกู้ 4 พันล้านบาทให้เมียนมาซึ่งเข้าข่ายการให้กู้เพื่อผลประโยชน์บางประการที่จะมีต่อบริษัทในครอบครัวของทักษิณ แล้วก็ต้องไม่ลืมว่านักโทษชายทักษิณถูกพิพากษาให้ถูกจำคุกเป็นเวลารวม 8 ปี แต่ก็ได้รับการลดหย่อนโทษเหลือเพียง 1 ปี จึงทำให้เกิดคำถามว่าคดีที่นักโทษชายทักษิณจงใจทำนั้น ไม่ถือเป็นความผิดร้ายแรงต่อประเทศชาติหรือ
ขอย้ำว่าการโกงบ้านกินเมืองมีความผิดร้ายแรงยิ่งกว่าผู้ก่อคดีข่มขืนแล้วฆ่าหลายเท่านัก เพราะการโกงบ้านกินเมืองคือการจงใจฆ่าคนทั้งประเทศให้ตายทั้งเป็น เป็นการทำให้ประเทศชาติเสียหายอย่างหนัก
การที่สมศักดิ์อ้างว่านักโทษชายทักษิณไม่ได้ทำผิดคดีร้ายแรง ไม่ได้เป็นภัยต่อประเทศชาติ จึงเป็นการแถแบบน่าสมเพชของนักการเมืองที่อยู่ในสังกัดพรรคภายใต้การบงการของทักษิณ น่าสงสัยจริงๆ ว่าสมศักดิ์ไม่เห็นหรือว่าการโกงบ้านกินเมืองเป็นความผิดขั้นอุกฉกรรจ์ หรือสมศักดิ์คิดว่าการโกงบ้านกินเมืองเป็นคดีลหุโทษ ที่นักการเมืองหน้าไหนก็สามารถจงใจทำได้
สังคมไทยยินยอมให้อำนาจการเมืองที่ไม่ชอบธรรม บงการให้บ้านเมืองของเราเดินไปบนหนทางที่ผิดๆ ได้ใช่หรือไม่ คุกไทยไม่ได้สร้างไว้เพื่อขังคนทำผิดที่มีอำนาจรัฐ หรือมีอำนาจบงการเหนืออำนาจรัฐ กระนั้นหรือ เรายอมให้คนโกงบ้านกินเมืองเป็นคนที่ไม่มีพิษมีภัยต่อบ้านเมืองหรือ ในขณะที่สากลยืนยันว่าการทุจริตคอร์รัปชันคือภัยร้ายแรงต่อบ้านเมือง และสามารถทำลายความมั่นคงของบ้านเมืองได้อย่างร้ายกาจ
มีคำถามว่า รัฐบาลชุดนี้ ซึ่งอยู่ใต้การนำของเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะนายกรัฐมนตรี แม้จะมีคนวิพากษ์ว่าเป็นนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดก็ตาม ยินยอมให้คนคอร์รัปชัน โกงบ้านกินเมืองเป็นคนที่ไม่เป็นภัยต่อประเทศใช่หรือไม่ หรือเราจะแก้ให้คดีทุจริตคอร์รัปชันโกงบ้านกินเมืองเป็นคดีลหุโทษ
หากเรายังปล่อยให้นักการเมืองใช้อำนาจรัฐแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบให้ตนเอง ปล่อยให้บ้านเมืองไร้กฎระเบียบ ปล่อยให้ความอยุติธรรมครอบงำสังคมได้ ปล่อยให้กรมราชทัณฑ์มีอำนาจเหนือคำพิพากษาของศาล แล้วปล่อยให้การทุจริตคอร์รัปชันเกิดต่อไป โดยผู้ก่อเหตุไม่ต้องได้รับโทษทัณฑ์ที่สาสม ก็อย่าหวังเลยว่าสังคมไทยบังเกิดความสงบสุขที่แท้จริง เมื่อบ้านเมืองไม่มีขื่อไม่มีแป ไม่มีกฎระเบียบ กฎหมายไม่เป็นกฎหมาย แล้วก็ขอให้รับรู้ไว้ด้วยว่าในอีกไม่ช้านาน บ้านเมืองนี้จะลุกเป็นไฟ ความโกลาหล ความพินาศย่อยยับจะบังเกิดกับบ้านเมืองเป็นแน่แท้ เพราะไม่มีใครยอมอยู่ใต้อำนาจของอธรรมอย่างแน่นอน
รอดูวันเวลาที่บ้านเมืองนี้จะเกิดเหตุมิคสัญญีกลียุคอีกครั้ง หากบ้านเมืองนี้ไร้ขื่อไร้แป ไร้กฎไร้ระเบียบ และไม่เคารพหลักความยุติธรรม ขอย้ำว่า คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยยินยอมแล้วปล่อยให้อำนาจอธรรมมีอำนาจเหนือแผ่นดินไทย และพร้อมจะล้างอำนาจรัฐที่ไม่มีความชอบธรรมให้หมดสิ้นไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี