วันส่งท้ายปีเก่า ๒๕๖๖ และต้อนรับปีใหม่ ๒๕๖๗ ขออัญเชิญคำอวยพรในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระราชทานเนื่องในวันปีใหม่ พุทธศักราช๒๕๖๗ มาเพื่อเป็นสิริมงคลต่อผู้อ่านและตนเอง
“ปีมะโรงไทยว่าเป็นงูใหญ่
ฉันสงสัยว่าเป็นงูเหลือมงูหลาม
อาจจะเป็นพญานาคน่าครั่นคร้าม
เป็นเรื่องตามเทพนิยายที่อ่านมา
คนจีนว่ามะโรงนี้ปีมังกร
มีฤทธิอาจบินจรขึ้นเวหา
ขออำนาจนาคมังกรช่วยพารา
ให้ฝนฟ้าสมบูรณ์พูนสุขเอย..”
ใช้สติปัญญาพิเคราะห์พิจารณาจะพบว่า คำอวยพรปีใหม่ของพระองค์ท่าน เป็นปริศนาธรรมให้ขบคิดตีความว่า ปีมะโรงงูใหญ่ เป็น งูเหลือม หรืองูหลาม หรือเป็นนาค มังกร นอกจากนั้นความเป็นอัจฉริยะของพระองค์ท่านกรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเตือนสติว่า พ.ศ.๒๕๖๗ ซึ่งเป็นปีเอลนีโญ ที่อาจเกิดภาวะแห้งแล้งและฝนมีน้อย พระองค์ท่านจึงเตือนสติด้วยการขอ “อำนาจนาคมังกรช่วยพารา ให้ฝนฟ้าสมบูรณ์พูนสุขเอย...”
ในส่วนที่พระองค์ท่านสงสัยว่า เป็นงูเหลือมงูหลาม หรือนาค มังกรนั้น ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ตีความปริศนาธรรมตามความเข้าใจว่า หมายถึง ความเป็นอยู่ทุกข์สุขปากท้องประชาชนจักอุดมสมบูรณ์ทะยานเหมือนนาคมังกรพ่นน้ำ หรือ อัตคัดฝืดเคือง เชื่องช้าเหมือนงูเหลือมงูหลาม
เมื่อตีความตามปริศนาธรรมในคำอวยพรปีใหม่ของกรมสมเด็จพระเทพฯ แล้ว กลับเข้าสู่ความเป็นจริงที่สังคมไทยกำลังสงสัย สับสน กังวลใจว่า เศรษฐกิจไทยกำลังค่อยๆ ฟื้นตัวพอไปได้ หรือ ประเทศไทยประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจเลวร้าย ที่เปรียบเหมือนคนไข้นอนรอความตายในห้องไอซียู ธนาคารโลก (World Bank) คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี ๒๕๖๗ที่ 3.2% ลดลงจากก่อนหน้านี้ที่เคยคาดไว้ที่ 3.5%เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยมองว่า เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการหดตัวของการส่งออกสินค้า
นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เห็นพ้องตามความคาดการณ์ของธนาคารโลก คือ เศรษฐกิจไทยค่อยๆฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 สามปีที่ผ่านมาและปัจจุบันพอประคองตัวไปได้ แต่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเศรษฐกิจในรัฐบาลของท่าน ออกมาประสานเสียงว่า#เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะวิกฤต หากไม่กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการปั๊มหัวใจ ตามนโยบายอัดฉีดเงินดิจิทัล วอลเล็ต5.6 แสนล้านบาท โดยการแจกเงินดิจิทัลให้คนไทยทุกคนตั้งแต่อายุ ๑๖ ปีขึ้นไป เศรษฐกิจไทยต้องตายคาห้องไอซียู
ในวารดิถีส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ คอลัมน์ทวนกระแสข่าว สวดมนต์ภาวนาขออย่าให้เศรษฐกิจไทยเป็นงูเหลือม งูหลามที่อืดอาด ขอให้เศรษฐกิจไทยทะยานเป็นนาคมังกรก็แล้วกัน
หากนาคมังกรพ่นเศรษฐกิจไทย ให้ทะยานขึ้นไม่ทันปีใหม่สากล ก็ขอให้ทะยานทันปีใหม่ไทยก็แล้วกันนะ เกิดเป็นคนไทยนับว่าโชคดีที่เรามีทั้งเทศกาลปีใหม่สากลและปีใหม่ไทย ให้เฉลิมฉลองรับพรรับความหวังใหม่กันได้สองครั้งสองคราปีใหม่สากล เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่คนไทยรวมทั้งทั่วโลกได้เฉลิมฉลองกันทุกปี ส่วนปีใหม่ไทยหรือ อาจเรียกปีใหม่สุวรรณภูมิก็ว่าได้ เนื่องจากประเทศในสุวรรณภูมิ อาทิ สปป.ลาว กัมพูชาสหภาพเมียนมา และประเทศไทย ถือเอา วันสงกรานต์ตรงกับวันที่ 13 เมษายนของทุกปีเป็น วันขึ้นปีใหม่
คำว่า “สงกรานต์” มาจาก ภาษาสันสกฤต แปลว่า การเคลื่อนที่ หรือ การเคลื่อนย้าย หมายถึง การเคลื่อนย้ายของพระอาทิตย์ จากราศีหนึ่งสู่อีกราศีหนึ่ง คือ วันขึ้นปีใหม่นั่นเอง ตามความหมายในภาษาสันสกฤต สงกรานต์จึงเกิดขึ้นทุกเดือน ส่วนระยะเวลาที่คนไทยเรียก “สงกรานต์” นั้น เป็นช่วงที่พระอาทิตย์เคลื่อนย้ายจากราศีมีน เข้าสู่ราศีเมษ นับว่าเป็นมหาสงกรานต์ เพราะเป็นวัน และเวลาตั้งต้นปีใหม่ตามสุริยคติ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ คือ วันที่ 13-14-15 เมษายน โดยเรียก วันที่ 13 เมษายน ว่า วันมหาสงกรานต์ วันที่ 14 เมษายน เป็น วันเนา วันที่ 15 เมษายน เป็น วันเถลิงศก
สมัยก่อน ถือวันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่ไทยตรงกับช่วงหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ธัญญาหารคนสมัยโบราณ จึงคิดทำกิจกรรมเพื่อเป็นการพักผ่อนหลังจากทำงาน และเปิดโอกาสให้หนุ่มสาวได้พบกันและเล่นสาดน้ำกัน เพื่อคลายความร้อนในเดือนเมษายน
วันที่ 30 ธันวาคม จึงถือว่าเป็นวันส่งท้ายปีเก่าที่คนไทยหลายล้านคน กำลังเดินทางการกลับบ้านไปร่วมสังสรรค์วันขึ้นปีใหม่ และรับพรจากพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ จึงถือโอกาสนี้ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยคุ้มครองให้ทุกท่านเดินทางกลับบ้านด้วยสวัสดิภาพ และ สวัสดีใหม่ไทยทั้งชาติ
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี