สหรัฐอเมริกาได้ชื่อว่า โจรหน้าด้านที่ปล้นซึ่งหน้าตอนกลางวัน แถมยังหน้าด้าน ด่าเจ้าทรัพย์ทำให้หลายชาติขยาดไม่กล้าลงทุนในอเมริกากลัวโดนปล้นซึ่งหน้าด้วยอาวุธที่เรียกว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ใส่ใจสิทธิมนุษยชน ในห้วงเวลาห้าทศวรรษที่ผ่านมาประเทศต่างๆ ทั่วโลกไม่ว่า จะเป็นอิรัก ซีเรีย ลิเบีย เลบานอน อัฟกานิสถาน เมียนมา เป็นต้น ถูกวอชิงตันปล้นมาแล้วอย่างน้อย 53 ประเทศ
อาวุธที่ร้ายแรงที่วอชิงตันใช้ ไม่ใช่ขีปนาวุธ ปืน มีด หรือ ระเบิดชนิดใด แต่อเมริกันใช้คัมภีร์เสรีประชาธิปไตย การกล่าวหาว่าไม่ใส่ใจในสิทธิมนุษยชน เป็นอาวุธในการปล้น เพียงแต่ประเทศไหน เป็นรัฐบาลอำนาจนิยมอยู่ในตำแหน่งนานๆ หรือเกิดเหตุการณ์ยึดอำนาจขึ้นในประเทศใด วอชิงตันใช้อาวุธประชาธิปไตยปล้นได้ทันที โดยวิธีอายัดทรัพย์สิน และบัญชีธนาคารของประเทศนั้นๆ
ตัวอย่างเช่นประเทศอัฟกานิสถาน ถูกกองทัพสหรัฐ ร่วมมือกับพันธมิตรนาโต เข้ายึดครองนานยี่สิบปี โดยอ้างว่า อัฟกานิสถาน เป็นที่ซุ่มซ่อนของกลุ่มผู้ก่อการร้าย และไม่เป็นประชาธิปไตย กองทัพสหรัฐ เป็นแกนนำพันธมิตรนาโต เข้าไปปราบปรามผู้ก่อการร้าย จัดตั้งกองทัพใหม่ขึ้นในอัฟกานิสถาน จัดตั้งหุ่นเชิดวอชิงตันเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ สหรัฐพัฒนากองทัพและจ่ายเงินเดือนรัฐบาล ผลาญเงินกองทุนที่พันธมิตรนาโตร่วมบริจาคหรือ ลงขันร่วมกัน แต่เจ้าหน้าที่วอชิงตัน เป็นผู้บริหารจัดการ เรื่องเงินทั้งหมด สภาคองเกรส ตรวจสอบพบว่าเงินจำนวนมหาศาลจ่ายเงินเดือนทหารในบัญชีผี เงินค่าน้ำมันรถค่าซ่อมบำรุงก็เป็นการตกแต่งบัญชี
ถึงเดือนสิงหาคม 2564 รัฐบาล นายโจ ไบเดน ตัดสินใจถอนตัวออกจากอัฟกานิสถานแบบฉุกละหุก โกลาหล วุ่นวายเจ้าหน้าที่สหรัฐ ทำบัญชีเบิกเงินกองกลางไปเป็นพันล้านดอลลาร์ อ้างว่าโครงการฉุกละหุกไม่สามารถชี้แจงการใช้เงินอย่างละเอียดโปร่งใสได้ ทำให้งบประมาณกว่าสองล้านล้านดอลลาร์ไม่สามารถตรวจสอบได้ชัดเจน ที่เลวร้ายสุดๆ คือทันทีที่ทหารอเมริกันคนสุดท้ายพ้นไปจากดินแดนอัฟกานิสถาน รัฐบาลวอชิงตันประกาศอายัดเงินในบัญชีรัฐบาลกลางอัฟกานิสถาน 9.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยอ้างว่ากลัวตาลิบันเอาเงินไปใช้ปราบปรามประชาชน ทำให้ชาวอัฟกานิสถานหลายล้านคนที่พึ่งพาสหรัฐมาตลอดเวลา 20 ปีแทบอดตาย อัฟกานิสถานทวงเท่าไหร่ วอชิงตันก็ไม่คืนเงินให้โดยอ้างว่าเอาไว้ช่วยผู้อพยพชาวอัฟกันบ้าง อ้างว่าเอาไว้ช่วยด้านมนุษยธรรมในอัฟกานิสถานบ้าง
ในประเทศเมียนมาเพื่อนบ้านของไทยก็เช่นกันทันทีที่ พลเอกมิน อ่อง หล่าย ยึดอำนาจจากรัฐบาลพรรคเอ็นแอลดีของ นางออง ซาน ซู จี รัฐบาลวอชิงตัน สั่งอายัดเงินกองทุนสำรองของเมียนมาที่ฝากไว้ในธนาคารกลางสหรัฐ (New York Federal Bank) 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 35,638 ล้านบาท โดยอ้างว่ากลัวรัฐบาลทหารเมียนมาโยกย้ายเงินไปใช้ปราบปรามประชาชนบ้างเพื่อนำเงินจำนวนนี้มาช่วยด้านมนุษยธรรมในเมียนมาบ้าง ตั้งแต่พลเอกมิน อ่อง หล่าย ยึดอำนาจเมื่อวันที่1 ก.พ. 2564 สหรัฐอเมริกาช่วยเหลือเมียนมาไปแล้วกว่า500 ล้านดอลลาร์ แต่เงินช่วยเหลือส่วนใหญ่ตกไปอยู่ในมือฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาเงินบางส่วนก็กลายเป็นอาวุธเข่นฆ่าชาวเมียนมากันเอง
อัฟกานิสถาน และเมียนมา เป็นประเทศเล็กที่ไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ กับวอชิงตัน เหมือนกับประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลางในแอฟริกาที่ถูกอเมริการุกรานทำลายประเทศพวกเขาแล้ว ไม่พอยังปล้นทรัพย์สินอายัดทรัพย์สินพวกเขา ทำให้ประเทศเศรษฐีน้ำมันเริ่มขยาดค่อยๆ ลดการลงทุนในสหรัฐและเปลี่ยนเข็มการลงทุนมาทางประเทศตะวันออกมากขึ้น เช่น ซาอุดีอาระเบีย เป็นต้น
สหรัฐจอมซ่าหาเรื่องปล้นประเทศอื่นได้ทั่วไป แต่สำหรับประเทศอิหร่าน สหรัฐปล้นไปได้ก็ต้องคืนให้แถมดอก สำนักข่าวเอพี รายงานเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 ว่า “รัฐบาล โจ ไบเดนยกเว้นการอายัดเงินสดและทรัพย์สินประเทศอิหร่าน เป็นการเปิดทางให้ปล่อยนักโทษอเมริกัน 5 คน ที่ถูกคุมขังในประเทศอิหร่าน” เอพีให้รายละเอียดว่ารัฐบาลโจ ไบเดน ออกประกาศยกเว้นการอายัดเงิน และทรัพย์สินของอิหร่านในธนาคารนานาชาติ โดยให้ธนาคารในเกาหลีใต้ ที่อิหร่านขายน้ำมันให้ถูกอายัดไว้ 6,000 ล้านดอลลาร์ ให้โอนเงินของอิหร่านไปยังประเทศกาตาร์ได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าสหรัฐอเมริกาแซงก์ช่ันแต่ประการใด เอพีรายงานด้วยว่า สิ่งเพิ่มเติมในข้อตกลงคือ สหรัฐยังต้องปล่อยชาวอิหร่าน 5 คน ที่ถูกขังอยู่ในสหรัฐทันที นี้คือสิ่งที่เรียกว่า “ดอก”
รัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลิงเคิล ลงนามยกเลิกอายัดทรัพย์สินอิหร่าน เมื่ออาทิตย์ก่อนหนึ่งเดือนหลังจากอิหร่านและสหรัฐ ตกลงในหลักการแลกเปลี่ยนผู้ต้องขัง สภาคองเกรสสหรัฐเองเพิ่งได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ตามหนังสือแจ้งเพื่อทราบให้สภาตามหนังสือที่สำนักข่าวเอพี ได้เห็นสำเนาด้วย แผนการของข้อตกลงที่ได้ประกาศก่อนหน้า กล่าวแต่เพียงว่ามีข้อตกลงแลกเปลี่ยนผู้ต้องขังในหนังสือแจ้งสภาก่อนหน้ารัฐบาล โจ ไบเดน แจ้งแต่เพียงว่า ปล่อย 5 ผู้ต้องขังชาวอิหร่าน 5 คนเป็นส่วนหนึ่งข้อตกลง แต่หลายฝ่ายคาดหมายกันว่า ต้องมีการยกเลิกอายัดทรัพย์สินอิหร่าน ถึงแม้ไม่แจ้งมาในหนังสือก็ตาม
นั่นคือสิ่งที่ผู้เขียนบอกว่า เป็นดอกผลที่งอกเงยมาจากการอายัดเงินอิหร่าน หกพันล้านดอลลาร์ คือชาวอิหร่านห้าคนที่ได้รับการปล่อยตัวจากสหรัฐ แสดงให้เห็นว่าอิหร่านมีไพ่เหนืออยู่ในมือที่ปล่อยให้สหรัฐข่มขู่ฝ่ายเดียวไม่ได้
การยกเว้นอายัดทรัพย์สินรัฐบาลไบเดน ถูกพรรครีพับลิกัน และหลายฝ่ายวิจารณ์ว่า เป็นข้อตกลงส่งเสริมเศรษฐกิจให้อิหร่าน ในห้วงเวลาที่อิหร่านคุกคามต่อกองทัพอเมริกันและพันธมิตรในตะวันออกกลาง
ดังได้กล่าวมาแต่ต้นว่าสหรัฐอเมริกาเป็นโจรปล้นกลางวันแบบหน้าด้านโดยใช้คัมภีร์เสรีประชาธิปไตยคลุมหัวบังหน้า อ้างสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมกันเป็นอาวุธปล้นกลางวันกับประเทศที่ไม่มีอำนาจต่อรอง แต่สำหรับอิหร่านประเทศที่พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ก้าวหน้า สหรัฐอเมริกาปล้นแล้วต้องนำทรัพย์มาคืนให้พร้อมกับปล่อยชาวอิหร่านห้าคนเป็นดอก
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี