หน้าที่สำคัญของ กสทช. หรือคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ คือดำเนินการจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสาธารณะ
นั่นคือข้อความที่เขียนไว้ในเอกสารของ กสทช. แต่ข้อความในเอกสารกับการทำงานจริงของ กสทช. เป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่ สิ่งนี้สาธารณชนที่ติดตามกิจการต่างๆ ของ กสทช. ต่างรับรู้เป็นอย่างดี แล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ติดตามพฤติกรรมของผู้บริหาร กสทช. ชุดปัจจุบัน สามารถตอบได้ชัดเจนว่า ผู้บริหาร กสทช. แต่ละรายเข้าสู่ตำแหน่งสูงส่งใน กสทช. ได้อย่างไร แล้วแต่ละรายมีพฤติกรรมขาวสะอาด หรือด่างพร้อยเต็มไปด้วยรอยมลทินอะไรบ้าง
แต่บอกได้คำเดียว สั้นๆ ชัดๆ ว่า สำหรับคนที่ติดตามเรื่องราวภายใน กสทช. อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดต่างบอกตรงกันว่า กสทช. ยุคนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวที่ไม่น่าจะสุจริตสารพัดชนิด โดยบางเรื่องบางราวนั้นส่อไปในเชิงทุจริตด้วยซ้ำไป แต่ก็น่าประหลาดใจที่รัฐบาลชุดปัจจุบัน ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีชื่อ เศรษฐา ทวีสิน ไม่เคยกล่าวถึงเรื่องไม่สุจริตใน กสทช. เลยแม้แต่น้อย จริงอยู่ที่ กสทช. อ้างว่าเป็นหน่วยงานอิสระ แต่ทว่าเมื่อเกิดเหตุไม่น่าจะสุจริตในหน่วยงานที่อ้างว่าเป็นองค์กรอิสระ รัฐบาลก็จำเป็นต้องเข้าไปสอดส่องดูแล และหาทางระงับเหตุทุจริตด้วย มิใช่ปล่อยให้เกิดเรื่องไม่ดี ไม่งามใน กสทช. ไปเรื่อยๆ เพราะสุดท้ายแล้วจะทำให้สาธารณชนหมดความเชื่อถือ ศรัทธาต่อ กสทช. ในที่สุด
ก่อนจะพูดถึงเรื่องไม่ขาว ไม่สะอาดต่างๆ ใน กสทช. ก็ต้องไปดูก่อนว่าใครเป็นใครใน กสทช. เมื่อได้เห็นหน้าตา และเห็นตัวตนของผู้บริหาร กสทช. แล้ว ก็จะได้ทราบถึงความเป็นมาของแต่ละคนว่าก่อนจะเข้ารับตำแหน่งใน กสทช. นั้น แต่ละคนเข้าสู่ตำแหน่งโดยกลอุบาย และกรรมวิธีใด แล้วจะได้เห็นกันชัดๆ ว่าบางคนวิ่งเต้นหนักแค่ไหน ใครเป็นคนของนักการเมืองรายใด ใครอยู่เบื้องหลังกรรมการ กสทช. แต่ละคน แล้วที่สำคัญคือ จะได้รู้ว่าใครทำงานได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย หรือใครทำงานแบบกาฝาก คือเกาะองค์กรหากินไปวันๆ โดยไม่ได้สร้างประโยชน์ให้สาธารณชน แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ จะได้รู้ว่าใครมีพฤติกรรมเป็นสมุน (หรือขี้ข้า) ของนายทุนที่ประกอบกิจการด้านโทรคมนาคมรายใดรายหนึ่งในประเทศไทย
รายชื่อประธาน และกรรมการ กสทช. ชุดล่าสุด คือ สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ (ประธาน กสทช.) ส่วนกรรมการ กสทช. ประกอบด้วย ธนพันธ์ุ หร่ายเจริญ (กิจการกระจายเสียง) พิรงรอง รามสูต (กิจการโทรทัศน์) สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ (กิจการโทรคมนาคม) ต่อพงศ์ เสลานนท์ (ส่งเสริมสิทธิ เสรีภาพประชาชน) ศุภัช ศุภชลาศัย (เศรษฐศาสตร์) และณัฐธร เพราะสุนทร (กฎหมาย)
เมื่อเห็นรายชื่อประธาน และกรรมการ กสทช. แล้ว หลายคนหัวเราะด้วยความสมเพชตัวเอง สมเพช กสทช. และสมเพชประเทศไทย แล้วก็รู้โดยพลันว่าบางคนเข้าไปกินตำแหน่งใน กสทช. ได้เพราะอิทธิฤทธิ์และแรงหนุนส่งของนักการเมืองบางราย โดยเฉพาะนักการเมืองที่คนไทยรู้ดีว่าเต็มไปด้วยรอยมลทิน
เมื่อคนบางคนเข้าไปกินตำแหน่งสำคัญใน กสทช. ได้ เพราะมีแรงหนุนส่งทางการเมือง ผสมกับแรงหนุนส่งจากนายทุนภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจโทรคมนาคม ก็ทำให้เห็นชัดว่าการทำงานของ กสทช. ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของสาธารณะ แต่ทว่าเป็นไปเพื่อตอบสนองผลประโยชน์ทางการเมือง และทางธุรกิจของนายทุนบางบริษัทเสียมากกว่า
ถามตรงๆ ว่าทุกวันนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์อะไรบ้างจากการมี กสทช. มีคำถามชัดๆ ว่า กสทช. ช่วยให้ประชาชนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ประโยชน์อะไรเพิ่มขึ้น กสทช. ช่วยแก้ปัญหาประชาชนถูกบริษัทผู้ให้บริการโทรคมนาคมเอารัดเอาเปรียบได้จริงๆ หรือ กสทช. ช่วยทำให้ประชาชนไม่ต้องเผชิญปัญหาสารพัดชนิดจากแก๊ง call center ได้จริงๆ หรือ กสทช. มีสติปัญญาช่วยกลั่นกรองรายการดีๆ มีสาระ มีคุณประโยชน์ให้ประชาชนได้จริงๆ หรือ
บอกตรงๆ ว่าประชาชนไม่ค่อยสนใจมากนักหรอกที่ภายใน กสทช. มีปัญหาขัดแย้งเกิดขึ้นเป็นระยะๆ จนหลังๆ เกิดปัญหาบ่อยขึ้น โดยเฉพาะปัญหาภายในหมู่ผู้บริหารระดับสูงของ กสทช. แต่สิ่งที่ประชาชนสนใจคือ การดำรงอยู่ของ กสทช. ทำให้ประชาชนได้ผลประโยชน์ในการดำรงชีวิตอย่างไร ทำให้ประชาชนไม่ถูกแก๊ง call center หลอกลวงได้อย่างไร ทำให้ประชาชนได้รับบริการที่ดีมีคุณภาพจากบริษัทผู้ให้บริการโทรคมนาคมอย่างไรบ้าง และประชาชนไม่ต้องถูกบริษัทโทรคมนาคมขูดรีดอย่างไรบ้าง
มีคำถามชัดๆ ว่า การที่ กสทช. อนุญาตให้ทรูกับดีแทครวมกิจการกันได้ แล้วสุดท้ายทำให้ประชาชนได้ผลประโยชน์อะไรบ้าง ได้รับบริการที่ดีขึ้นหรือไม่ เสียค่าใช้จ่ายในการใช้บริการถูกลงหรือไม่ ทำให้รัฐได้รับรายได้จากนายทุนผู้ประกอบกิจการมากขึ้นหรือไม่ หรือทำให้เกิดสิ่งดีงามประการใดกับประชาชนบ้าง เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ประชาชนตั้งคำถามตลอดเวลา และยังคงตั้งคำถามไปเรื่อยๆ เนื่องจากยังไม่ได้รับผลประโยชน์อย่างชัดเจน
ต้องบอกอีกครั้งว่า ภาพความเละเทะต่างๆ นานาภายใน กสทช. ไม่สามารถถูกเก็บซ้อนได้มิดชิด แม้ภายในองค์กรจะได้รับคำสั่งให้เก็บซ่อนเรื่องเละๆ เทะๆ ให้หมดสิ้นก็ตาม แค่ถึงกระนั้น กลุ่มคนที่ติดตามเรื่องเละเทะใน กสทช. ต่างรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น ใครคือต้นเหตุ ใครที่มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต การใช้เงินงบประมาณขององค์กรถูกละเลงไปโดยใคร งบประมาณขององค์กรถูกละเลงไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของผู้บริหารรายใดเป็นสำคัญ ผู้บริหาร กสทช. คนไหนเดินทางไปต่างประเทศบ่อยมากจนผิดสังเกต และที่สำคัญคือไปต่างประเทศแล้วไม่เห็นว่าจะสร้างผลประโยชน์อะไรให้บังเกิดกับ กสทช.
งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2567 ของ กสทช.มีทั้งสิ้น 5,212,696,100.00 บาท (อันที่จริงหากดูๆ ไปแล้ว งบฯ ที่ กสทช. ได้ในแต่ละปี ก็ไม่ถือว่ามากมายนัก เพราะงบฯ ที่ใช้สำหรับกิจการ Soft Power ในนามของแพทองธารชินวัตร แห่งเพื่อไทยก็ได้ประมาณนี้แหละ) แต่คำถามที่ต้องถามอย่างหนักแน่นคือ กสทช. ใช้งบฯ ไปในกิจการใดมากที่สุด แล้วใช้งบฯ ให้เกิดคุณูปการใดต่อสาธารณชนบ้าง
เกือบครึ่งหนึ่งของงบฯ ทั้งหมดของ กสทช. ได้ในแต่ละปี ถูกใช้เป็นเงินสำหรับรายจ่ายให้บุคลากร คือ 2,343,799,900.00 บาท ทั้งนี้เมื่อดูรายได้ที่ประธาน กสทช. ได้ในแต่ละเดือนคือ 361,167 บาท ส่วนกรรมการ กสทช. ได้ในแต่ละเดือนคือ 289,167 บาท ถามว่าเงินเดือนละ 3.6 แสนบาทสำหรับประธาน กสทช. มากมายหรือไม่ ตอบว่ามาก มาก มาก เมื่อเทียบกับคนทั่วไปที่กินเงินเดือนในท้องตลาด แต่อาจไม่มากมายเกินไปสำหรับหมอ เพราะหมอที่มีรายได้ดีมากๆ จะมีรายได้เดือนหนึ่งมากกว่า 1 ล้านบาทก็มี แต่ก็ต้องคิดให้ดีว่าแล้วเหตุใดหมอสรณจึงได้รับตำแหน่งประธาน กสทช. ได้รับเพราะอะไร ใครหนุนส่งให้ไปรับตำแหน่งประธาน กสทช. นักการเมืองคนที่หนุนส่งให้สรณเข้าไปกินตำแหน่งประธาน กสทช. ยังอยู่ดีมีสุขอยู่หรือ
ยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจมากที่กลุ่มคนผู้ซึ่งติดตามเรื่องราวภายใน กสทช. จับตามองอย่างใกล้ชิด คือเรื่องการฟ้องร้องที่บริษัททรู ฟ้องคดีต่างๆ ต่อคนบางคนใน กสทช. จะพบว่ามีผู้พิพากษารายหนึ่งมีชื่อเป็นผู้พิพากษาหลายคดีที่ทรูยื่นฟ้อง จนทำให้คนใน กสทช. บางกลุ่ม และคนที่ติดตามเรื่องราวการฟ้องร้องโดยบริษัททรูตั้งคำถามและข้อสังเกตว่า มีผู้พิพากษาผู้ขาดรับทำคดีฟ้องร้องของทรูกระนั้นหรือ เพราะเมื่อเจาะลงไปดูเรื่องลึกๆ ก็พบว่าเป็นผู้พิพากษาคนเดียวกันรับหน้าที่ในหลายคดีของบริษัททรู (จริงๆ ทราบชื่อแล้ว แต่ขออนุญาตเก็บชื่อไว้ก่อน)
นอกจากนี้ยังมีคำครหาอีกมากมายในเรื่องเกี่ยวกับตำแหน่งรักษาการเลขาธิการ กสทช. จนล่าสุดได้มีการฟ้องร้องกันในเรื่องที่ว่ามีการเอื้อประโยชน์โดยมิชอบให้บริษัททรูหรือไม่
เรื่องราวที่มีเค้าลางว่าน่าจะกระเดียดไปในทางไม่สุจริต ซึ่งมีสารพัดเรื่อง ซึ่งมีเรื่องต่างๆ นานาเกิดขึ้นภายใน กสทช. เป็นเรื่องที่สาธารณชนเฝ้าติดตามมาโดยตลอด แต่ไม่เห็นว่ารัฐบาลจะให้ความสนอกสนใจ ซึ่งเข้าใจว่ารัฐบาลอาจจะอ้างว่า กสทช. เป็นหน่วยงานอิสระ แต่เมื่อเกิดเรื่องที่สาธารณชนเห็นว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นใน กสทช. หลายครั้งหลายหน รัฐบาลก็ต้องไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องผิดปกติใน กสทช. ไปเรื่อยๆ โดยอ้างว่าเป็นหน่วยงานอิสระ ขอย้ำว่าหน่วยงานอิสระหมายความว่าอิสระจากการถูกอำนาจรัฐแทรกแซง แต่หากหน่วยงานอิสระใดๆ มีพฤติกรรมเข้าข่ายไม่สุจริต รัฐบาลก็ต้องเข้าไปสอดส่องและแก้ไขตามอำนาจที่พึงมี เพราะรัฐบาลมีหน้าที่บริหารประเทศให้ดำเนินไปอย่างปกติ ปราศจากเรื่องทุจริตใดๆ ส่วนองค์กรอิสระ ก็ไม่ได้หมายความว่ามีอิสระที่จะกระทำผิดกฎหมาย หรือก่อการทุจริตไปโดยปราศจากการถูกตรวจสอบ
วันหน้าจะมาเจาะลึกให้เห็นเรื่องราวที่ไม่น่าจะปรกติ ไม่น่าจะสุจริต ไม่น่าจะขาวสะอาดภายใน กสทช.ให้คุณได้ทราบอีก เพื่อให้คุณๆ ได้โปรดช่วยกันสอดส่องการทำงานของ กสทช. โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริหารระดับสูงของกสทช. อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ กสทช. ตั้งอกตั้งใจทำงานโดยสุจริตเพื่อผลประโยชน์ของสาธารณะ ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์โดยมิชอบของคนบางกลุ่มใน กสทช. และนายทุนเจ้าของกิจการโทรคมนาคมบางราย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี