นับถอยหลังสู่ประเพณีสงกรานต์ วาระโอกาสที่สังคมไทยควรจะให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัว และผู้สูงวัย อย่างจริงจัง
และควรจะมองให้ครอบคลุมกว่าเดิม ที่มักจะคิดกันแต่เพียงเรื่องเบี้ยยังชีพผู้สูงวัย สวัสดิการผู้สูงวัย ฯลฯ
ในการประชุม ครม.สัปดาห์ที่แล้ว คณะรัฐมนตรีได้รับทราบ “ข้อเสนอเชิงนโยบายวิกฤตประชากรและสังคมสูงวัย” ตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) เสนอ
เนื้อหาที่น่าสนใจ เปิดเผยให้เห็นถึง “ความจริงที่น่าวิตกกังวล”
ขอกล่าวโดยสรุป ดังนี้
1. ปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตด้านการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร
สัดส่วนประชากรวัยเด็กและวัยแรงงานลดลง ขณะที่สัดส่วนประชากรผู้สูงอายุ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในปี 2566 ประเทศไทยมีผู้สูงอายุ จำนวน 13 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 20.08 ของประชากรทั้งหมด (66.05 ล้านคน) ขณะที่เด็กเกิดใหม่มีเพียง 5.18 แสนคน
คาดการณ์ว่าในปี 2585 ประชากรไทยจะลดลงเหลือ 60 ล้านคน โดยกลุ่มประชากรในวัยทำงานตอนปลายที่มีอายุตั้งแต่ 41 - 59 ปีขึ้นไป มีจำนวนมากกว่า 19.25 ล้านคน กำลังจะเข้ามาเป็นกลุ่มประชากรผู้สูงอายุอีกด้วย
ซึ่งจะทำให้มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นจำนวนมากในอนาคต และมีแนวโน้มที่จะมีอายุยืนยาว
2. ประเทศไทยต้องเผชิญกับจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่จำนวนประชากรวัยเด็กและวัยแรงงานลดลง รวมถึงจำนวนเด็กเกิดใหม่ที่ลดต่ำลง
การเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างประชากรดังกล่าว เป็นประเด็นท้าทายที่สำคัญของสังคมไทยที่ต้องเผชิญในอนาคต ดังนี้
(1) ความท้าทายของอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสถานภาพทางการเงินการคลังของประเทศ
(2) ความท้าทายต่อการสร้างระบบคุ้มครองทางสังคมที่เหมาะสม
(3) ความท้าทายต่อความยั่งยืนของระบบการเงินของครัวเรือน ตลาดการเงิน และระบบการคลังของประเทศ
และ (4) ความท้าทายต่อความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของประชาชน ได้แก่ การได้รับการศึกษาการทำงาน ระบบบริการสุขภาพที่เหมาะสม และที่อยู่อาศัยที่มั่นคงและปลอดภัย
3. วิกฤตด้านการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร ส่งผลกระทบต่อ “ครอบครัวไทย”
กระทรวง พม. ได้จัดทำ ข้อเสนอเชิงนโยบายวิกฤตประชากรและผู้สูงวัย (ข้อเสนอเชิงนโยบายฯ)
เพื่อสื่อสารให้สังคมตระหนักถึงประเด็นท้าทายของประชากรที่ส่งผลสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของประชากรทุกช่วงวัย และการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ ตลอดจนการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ไปสู่การดำเนินงานแบบองค์รวมเพื่อให้ทุกคนในสังคมมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการพัฒนาความมั่นคงของครอบครัวไปสู่ความมั่นคงของมนุษย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ข้อเสนอเชิงนโยบายฯ ประกอบด้วย 5 ข้อเสนอ 25 มาตรการสำคัญเร่งด่วน สรุปได้ ดังนี้
ข้อเสนอที่ 1 เสริมพลังวัยทำงาน ตั้งตัวได้ สร้างและดูแลครอบครัวได้ และพร้อมที่จะเป็นผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพในอนาคต
1) การเพิ่มโอกาสและสร้างความตระหนักให้กับประชากรวัยทำงานพัฒนาทักษะและเสริมศักยภาพ (Reskill/Upskill) เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อการประกอบอาชีพของแรงงานนอกระบบ และบูรณาการฐานข้อมูลด้านตลาดแรงงาน (ทั้งอุปสงค์และอุปทาน)
2) การส่งเสริมการมีงานทำและรายได้ด้วยการกระจายงานสู่พื้นที่และชุมชน
3) การส่งเสริมการออม สร้างแรงจูงใจให้ประชากรในวัยทำงานออมเพื่ออนาคตและเตรียมการเกษียณ (ออมภาคบังคับ)
4) การส่งเสริมคุณภาพของประชากรในวัยทำงาน ด้วยการปรับสถานที่ทำงานให้เป็นสถานประกอบการที่คำนึงถึงความสุข และส่งเสริมสุขภาพของบุคลากรและเพิ่มสิทธิประโยชน์ของหลักประกันสุขภาพให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
5) มาตรการส่งเสริมสมดุลชีวิตการทำงานและชีวิตครอบครัว เช่น สร้างแรงจูงใจด้านภาษีหรือการยกย่องทางสังคมให้แก่นายจ้างที่จัดสวัสดิการดูแลเด็กปฐมวัยและผู้สูงอายุให้แก่ลูกจ้าง การทำงานแบบยืดหยุ่น ส่งเสริมบทบาทชายหญิงในการร่วมกันดูแลครอบครัว
ข้อเสนอที่ 2 เพิ่มคุณภาพและผลิตภาพของเด็กและเยาวชน : เด็กน้อย ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ
1) การส่งเสริมสถาบันครอบครัวและสถานบันการศึกษาให้มีความเข้มแข็ง
2) การดูแลสุขภาพทางกายและจิตใจของเด็กและแม่ตั้งแต่ตั้งครรภ์
3) การมีศูนย์เด็กเล็กใกล้บ้าน มีมาตรฐาน รับเด็กอายุน้อยลง มีความยืดหยุ่นชุมชนช่วยจัดการได้
4) การพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะวิชาชีพตามวัย สอดคล้องกับบริบทสังคมที่เป็นพลวัต
5) การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างวัย
ข้อเสนอที่ 3 สร้างพลังผู้สูงอายุ ผ่อนหนักให้เป็นเบา พลิกวิกฤตทางประชากรให้เป็นโอกาส
1) การมุ่งการป้องกันโรคมากกว่ารักษาโรค เสริมการมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของผู้สูงอายุ
2) การขยายโอกาสทางเศรษฐกิจให้ผู้สูงอายุ ขยายอายุเกษียณ ส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ พัฒนาทักษะที่จำเป็น ส่งเสริมความรอบรู้ด้านดิจิทัลเทคโนโลยี (Digital Literacy) ให้ผู้สูงอายุ และลดข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของผู้สูงอายุ
3) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการดูแลผู้สูงอายุในชุมชน เช่น จัดระบบบริบาลผู้สูงอายุในชุมชน พัฒนาระบบคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน โดยชุมชนส่งเสริมให้มีการเกื้อหนุนและสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างผู้สูงอายุกับสมาชิกในครอบครัวและชุมชน
4) การส่งเสริมให้มีสภาพแวดล้อม ทั้งภายในบ้าน รอบบ้าน และในชุมชนที่เอื้อต่อการทำกิจวัตรประจำวัน การสัญจร และการมีส่วนร่วมทางสังคมของผู้สูงอายุ
5) การส่งเสริมให้มีการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุในทุกมิติเพื่อให้เกิดการทำงานแบบบูรณาการอย่างครบวงจรกับผู้สูงอายุ
ข้อเสนอที่ 4 เพิ่มโอกาสและเสริมสร้างคุณค่าของคนพิการ
1) การสนับสนุนและเพิ่มโอกาสทางการศึกษาสำหรับคนพิการตามศักยภาพและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนให้มีความหลากหลายและเหมาะสมกับคนพิการ ตลอดจนเพิ่มการจ้างานคนพิการในทุกภาคส่วน โดยส่งเสริมศักยภาพคนพิการและทำให้เกิดตลาดแรงงานสำหรับคนพิการ รวมทั้ง ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานให้เหมาะสมต่อการทำงาน
2) การส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ที่ครบถ้วนของคนพิการเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม สร้างทัศนคติที่เหมาะสมของชุมชนและครอบครัวในการอยู่ร่วมกันและดูแลคนพิการ เช่น ระบบการตรวจสอบสิทธิที่มีประสิทธิภาพ หน่วยบริการรักษาพยาบาลเคลื่อนที่ การให้ความช่วยเหลือในภาวะฉุกเฉิน
3) การป้องกันความพิการแต่กำเนิดและความพิการทุกช่วงวัย (Prevention) รวมทั้งฟื้นฟูสมรรถภาพทางกายและทางใจ (Rehabilitation)
4) การส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ช่วยให้คนพิการดำเนินชีวิตได้อย่างอิสระ เช่น ระบบขนส่ง สิ่งอำนวยความสะดวก โดยใช้หลักการออกแบบเพื่อคนทุกกลุ่มวัย
(Universal Design) 3 รวมทั้งใช้ระบบเทคโนโลยีและนวัตกรรมช่วยในการดำเนินชีวิต
5) การจัดทำฐานข้อมูลและพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อประโยชน์ในการหางานและการจ้างงาน
ข้อเสนอที่ 5 สร้างระบบนิเวศ (Eco-System) ที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาความมั่นคงของครอบครัว
1) การพัฒนาระบบสวัสดิการที่เหมาะสมและทั่วถึงโดยรัฐ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและเป็นหลักประกันในยามที่เผชิญกับวิกฤต
2) ชุมชนน่าอยู่สำหรับประชากรทุกกลุ่มทุกวัย “ปลอดภัย ปลอดพิษ เป็นมิตรและเอื้ออาทรต่อทุกคน”
3) บ้านสำหรับคนทุกช่วงวัย ทุกกลุ่มเป้าหมาย เข้าถึงได้ อยู่อย่างปลอดภัย
4) การส่งเสริมเศรษฐกิจครัวเรือน เข้าถึงแหล่งทุนได้อย่างเท่าเทียมสร้าง กลไกค้ำประกันเพื่อเสริมสภาพคล่องให้ครอบครัวบนหลักการพอเพียงและมีวินัย เสริมสร้างความรู้ในการบริหารการเงินสำหรับครัวเรือน
5) การฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ เน้นการเปลี่ยนพฤติกรรมของประชากรในการหยุดทำร้ายธรรมชาติ ส่งเสริม Green Economy
4. รายงานข้างต้น น่าสนใจอย่างยิ่ง
มีประเด็นเนื้อหาที่ครอบคลุมสภาพปัญหา และมีแนวทางรับมืออย่างเป็นรูปธรรม
นี่คือสภาพสังคมที่เราจะได้เจอกันแน่ๆ อีกไม่กี่ปีข้างหน้า ได้เห็นแน่ๆ ในยุคของเรา
แต่แนวทางรับมือเหล่านี้ จะมีให้เห็นบ้างจริงๆ อย่างเป็นรูปธรรม หรือไม่?
ถ้าไม่มี นั่นคือหายนะของประเทศ !
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี