22 เม.ย.นี้ เป็นวันบุญใหญ่ของธรรมกาย
วันคล้ายวันเกิดธัมมชโย ปีนี้ พิเศษมาก เพราะธรรมกายกลับมาคึกคัก
แถมเครือข่ายศิษย์ธรรมกายและธัมมชโยปั่นกระแสกันว่า “ธัมมชโยจะกลับมา”
1. ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา
มีรายงานข่าวว่า ศาลฎีกามีคำสั่งในคดีฟอกเงินเวิลด์พีซ เขาใหญ่
สรุปพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ โดยให้ ปปง.นำอาคาร 9 หลังไปขายทอดตลาด นำเงิน 588 ล้านบาท ชดใช้ให้สหกรณ์คลองจั่น และเงินที่เหลืออันได้จากการทอดตลาดให้ตกเป็นของแผ่นดิน
คดีนี้ เป็นหนึ่งในอีกหลายคดี ที่ยืนยันว่า การตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินมหาอาณาจักรธรรมกายในยุครัฐบาล คสช. เป็นเรื่องที่มีมูลความจริง โดยขยายผลการสอบครอบคลุมไปถึงการทำผิดกฎหมายอื่นๆ ด้วย
ขณะนั้น ดีเอสไอสอบสวนขยายผล ตรวจสอบเส้นทางเงินจากเช็ค 878 ฉบับ ที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯ อดีตไวยาวัจกรวัดพระธรรมกาย (ปัจจุบันนายศุภชัยยังติดคุกอยู่) ผ่องถ่ายไปให้กับคน 6 กลุ่ม
ส่วนหนึ่ง ก็คือเครือข่ายธรรมกาย ทั้งวัดธรรมกาย พระธัมมชโย มูลนิธิคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง และอดีตพระลูกวัด เกิดเป็นคดีความตามมา ทั้งคดีฟอกเงินและคดีอื่นๆ
มีการติดตามยึดอายัดทรัพย์สินกลับมาคืนผู้เสียหาย
ปปง.ยึดอายัดทรัพย์ไว้หลายรายการ เมื่อนำไปฟ้องศาลแพ่ง เพื่อให้ทรัพย์นั้นตกเป็นของแผ่นดินหรือคืนแก่สหกรณ์คลองจั่นแล้วแต่กรณี ปรากฏว่า ศาลพิพากษาให้คืนทรัพย์สิน หรือชดใช้เงินแก่สหกรณ์คลองจั่นฯทุกคดี (บางคดียังไม่ถึงที่สุด)
ยกตัวอย่าง
คดีกรณีเงินในบัญชีเงินฝากชื่อวัดและมูลนิธิเครือธรรมกาย 58 ล้านบาท
คดีกรณีวิหารคต 100 ล้านบาท
คดีกรณีอาคารลูกโลก 228 ล้านบาท
คดีกรณีที่ดิน 8 แปลงที่ตั้ง รพ.บุญรักษา ซึ่งศาลอุทธรณ์ตัดสินให้ปปง.ขายและนำเงินมาคืนสหกรณ์คลองจั่น 298 ล้านบาท และกรณีอาคารบุญรักษา
2. ส่วนกรณีมูลนิธิคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูงฯ ที่มีทรัพย์สินและเงินหมุนเวียนนับหมื่นล้านบาท ก็ถูกดีเอสไอส่งคดีต่ออัยการเพื่อพิจารณายื่นศาลแพ่งให้ยุบมูลนิธิฯและให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากกระทำผิดกฎหมาย
ปรากฏว่า ดีเอสไอได้ส่งคำร้องไปที่อัยการภาค 1 แล้ว
แต่จนปัจจุบัน ก็ไม่ปรากฏความคืบหน้า
3. วันคล้ายวันเกิดพระธัมมชโย 22 เม.ย. 2567 ปีนี้ เครือข่ายลูกศิษย์ในโลกโซเชียล มีการปั่นกระแสกันว่า พระธัมมชโยจะกลับมา มีโอกาสแค่ไหน?
ความจริงแล้ว ก็มีโอกาสเป็นไปได้มาก
แต่มิใช่เพราะอิทธิปาฏิหาริย์อะไรเลย
หากเป็นเพราะเล็งเห็นช่องทางรอดจากคดีต่างๆ เท่านั้นเอง
ก่อนหน้านี้ อดีตพระธัมมชโยตกเป็นผู้ต้องหา หนีหมายจับคดีร่วมกันฟอกเงิน รับของโจร จากการรับเช็คหลายฉบับจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร
คดีฟอกเงิน อายุความ 15 ปี บัดนี้ ก็เป็นไปได้ว่า จะหมดอายุความในปี 2567 นี้พอดี
แถมปัจจุบัน ศิษย์ธรรมกายถือครองอำนาจรัฐ
ตั้งแต่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรียุติธรรมยุครัฐบาลลุงตู่ ในฐานะประธานมูลนิธิพุทธอุทยานนานาชาติ พาคณะรัฐบาล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีหลายคน เดินทางไปเยี่ยมชมบั้งไฟพญานาคที่พุทธอุทยานนานาชาติของชาวธรรมกาย
ครั้งนั้น รองนายกฯสมศักดิ์ถึงขนาดประกาศชัดถ้อยชัดคำถึงความเป็นศิษย์ธรรมกาย และชื่นชมบารมีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย
ยืนยันว่า ตนได้ริเริ่มสรรหาที่ดินที่ตั้งโครงการนี้มาตั้งแต่ปี 2544 สำเร็จได้เพราะบารมีพระธัมมชโย
รองนายกฯ สมศักดิ์ ยังได้ประกาศส่งสัญญาณให้ชาวธรรมกายได้ทราบทำนองว่า บัดนี้ บ้านเมืองปลอดโปร่งแล้ว ปัญหาที่เคยมีกับธรรมกายจะคลี่คลายไปทั้งหมดในเร็ววันนี้
หลังจากนั้น กิจกรรมต่างๆ ของธรรมกายก็กลับมาคึกคัก เกือบๆ จะเต็มสูบ เหลืออยู่แค่ว่า พระธัมมชโยจะใจถึงพอที่จะกลับมาปรากฏกายแบบเปิดเผย จะจะ อวดอิทธิฤทธิ์เดชานุภาพ ให้สังคม
จะกลับมาปรากฏกาย เป็นผู้นำของมหาอาณาจักรธรรมกายอย่างเต็มรูปแบบ
อีกครั้ง หรือไม่?
4. ขณะเดียวกัน ต้องไม่ลืมว่า ชะตากรรมของอดีตผู้นำมหาอาณาจักรธรรมกายอีกคน ยังแขวนอยู่บนเส้นด้าย นั่นคือ นายอนันต์ อัศวโภคิน ผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน
ก่อนหน้านี้ นายอำนาจ เจตเจริญรักษ์ อัยการสูงสุด (อสส.) ได้มีคำสั่งฟ้อง นายอนันต์ อัศวโภคิน ฐานสมคบ โดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทําความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทําความผิด ฐานฟอกเงินเพราะเหตุได้มีการสมคบกัน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 9, 60 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 มาตรา 10
แต่เมื่อถึงเวลานัดหมาย วันที่ 2 เม.ย. 2567 เวลา 09.30 น. นายอนันต์ อัศวโภคินไม่ได้เดินทางมาพบพนักงานอัยการฯ ตามนัด แต่ได้มอบหมายให้ตัวแทนทำหนังสือแจ้งขอเลื่อนการส่งตัวออกไปก่อน
โดยอ้างเหตุผลอาการเจ็บป่วย พร้อมแสดงใบรองรับแพทย์ยืนยัน
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ตัวแทนนายอนันต์ อัศวโภคิน ได้แจ้งเหตุผลในการขอเลื่อนส่งมอบตัวว่า ปัจจุบันเจ้าตัวมีอาการเจ็บป่วย อยู่ระหว่างการรักษาตัวภายใต้การดูแลของศูนย์แพทย์ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งมีนัดหมายเข้ารับการตรวจรักษากับแพทย์อยู่โดยตลอด “เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม และประโยชน์ต่อการรักษาอาการเจ็บป่วยของนายอนันต์ จึงขอความกรณีเลื่อนการส่งตัวฟ้องจากวันที่ 2 เม.ย.2567 ออกไปก่อน”
พนักงานอัยการฯ ที่รับผิดชอบได้อนุมัติให้เลื่อนการส่งตัวฟ้องดังกล่าวโดยมีการนัดหมายใหม่ ในวันที่ 24 พ.ค.2567 เวลา 09.00 น.
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งคดีอาญา สืบเนื่องจากการสืบสวนขยายผลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในยุครัฐมนตรียุติธรรม ชื่อ พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา
คดีนี้ สอบสวนพบว่า นายศุภชัยได้สั่งจ่ายเช็คหลายฉบับ รวมประมาณ 275 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อหุ้นทั้งหมด (TAKE OVER) ของบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด และที่ดินของบริษัท 3 แปลง
ที่ดินโฉนดเลขที่ 31344 เนื้อที่ 46 ไร่ 3 งาน 56.2 ตารางวา ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงวัดพระธรรมกาย รวมอยู่ด้วย
หลังจากนั้น วันที่ 21 ธันวาคม 2554 คณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้นำที่ดินของบริษัท โฉนดเลขที่ 31344 เนื้อที่ 46 ไร่ 3 งาน 56.2 ตารางวา ได้มีมติขายให้ นายอนันต์ อัศวโภคิน
ทำสัญญาซื้อขาย ณ สำนักงานที่ดินอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2554 ภายหลังจากที่คณะกรรมการมีมติเพียง 2 วัน
โดยซื้อขายในราคาไร่ละ 2 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 93,781,000 บาท
ขณะที่ราคาประเมินที่ดินขณะนั้น ราคาตารางวาละหนึ่งหมื่นห้าพันบาทคิดเป็นราคาที่ดินประมาณ 281 ล้านบาท มีความแตกต่างและต่ำกว่าราคาประเมินถึง 3 เท่า
ต่อมา นายอนันต์ ได้ขายที่ดินแปลงนี้ต่อให้บุคคลอื่นในราคา 492 ล้านบาทเศษ
พบว่า นายอนันต์ ได้นำเงินที่ได้จากการขาย จำนวนประมาณ 303 ล้านบาทบริจาคให้กับมูลนิธิคุณยายอาจารย์ มหารัตน์อุบาสิกา จันทร์ ขนนกยูงซึ่งมีพระธัมมชโย เป็นองค์อุปถัมภ์ ซึ่งมูลนิธิดังกล่าวเป็นผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ในบริเวณมูลนิธิวัดพระธรรมกาย รวมถึงอาคารบุญรักษาด้วย
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษยังพบหลักฐานสำคัญว่า นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ได้ทำหนังสือฉบับ ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2554 อันเป็นวันเดียวกันกับวันที่ไปทำสัญญาซื้อขายที่ดินฯ แสดงเจตนาถวายที่ดินโฉนดเลขที่ 31344 เนื้อที่ 46 ไร่ 3 งาน 56.2 ตารางวา ของบริษัทเอ็มโฮมฯ ให้กับพระธัมมชโย
ระบุว่า นายศุภชัย จะเป็นผู้จัดซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว และถวายให้พระธัมมชโย โดยจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในนามนายอนันต์ อัศวโภคิน ซึ่งพระธัมมชโยมอบหมายให้เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทน โดยมีแต่ลายมือชื่อของผู้อื่นในเอกสาร แต่นายศุภชัยไม่ได้ลงชื่อ และไม่มีการดำเนินการตามหนังสือฉบับดังกล่าว โดยเป็นการดำเนินการผ่านการขายให้นายอนันต์ แทน
กรณีดังกล่าว คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาแล้วเห็นว่ามีพยานหลักฐานตามสมควรว่าอาจเป็นความผิดฐาน “สมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน” ต่อมาพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการได้มีมติร่วมกันให้เรียกตัวนายอนันต์ อัศวโภคิน มารับทราบข้อกล่าวหาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ก่อนที่อัยการสูงสุดจะมีคำสั่งฟ้องนายอนันต์ในที่สุด
ขณะนี้ นายอนันต์ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ตกเป็นผู้ต้องหา เช่นเดียวกับพระธัมมชโย (เพียงแต่ไม่มีหมายจับติดตัว เพราะยังไม่ปรากฏพฤติการณ์หลบหนี)
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี