วันศุกร์ ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
การเมืองไทยป่วนปั่น ปั่นป่วน โกลาหลเพราะนักการเมืองป่วนเมืองจำพวกคนหนีคุก ที่โกหกว่ารวยแล้วไม่โกง คนที่บอกว่าจะกลับมาเลี้ยงหลาน แล้วยังมีคนจำพวกอาศัยโครงการป่าเพื่อหากินและหาผลประโยชน์ทางการเมืองให้ตนเอง แล้วก็ยังมีนักการเมืองจำพวกสองหัว เหยียบเรือสองแคม รวมถึงคนขาย (ผง) ที่อ้างว่ามันคือแป้งมัน แล้วหากจะพูดให้ถึงแก่นก็ยังมีคนจำพวกที่ทำรัฐประหารมาแล้วได้แต่ร้องเพลงขอเวลาอีกไม่นาน แต่อยู่ไปตั้งนานโดยไม่ได้ปฏิรูปประเทศ แถมยังเข้าไปพัวพัน พันพัวกับนักการเมืองกลุ่มที่คนทำรัฐประหารประณามว่าเป็นพวกกวนบ้านกวนเมือง
เมื่อบ้านเมืองของเรามีคนจำพวกที่กล่าวมาในข้างต้น ก็จึงทำให้บ้านเมืองวุ่นวายไม่รู้จักจบจักสิ้น กินเวลายาวนานมาเกือบ 2 ทศวรรษ แล้วยังส่งผลให้ความเป็นนิติรัฐ นิติธรรมของบ้านเมืองถูกทำลายปี้ป่นแหลกลาญไม่เหลือดี
เราได้เห็นกันทุกคนแล้วว่า คนที่ต้องติดคุก เพราะทำผิด แล้วถูกศาลตัดสินเด็ดขาด ก็กลับไม่เคยอยู่ในคุก แถมยังมีอภิสิทธิ์ล้นเหลือ แบบชนิดที่ว่ากรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมไม่กล้าแตะต้อง ส่วนเหล่าบรรดาหมอในโรงพยาบาลที่อ้างว่ารับตัวคนคุกรายที่หลายคนเข้าใจตรงกันว่าคือใคร ก็ยังไม่เคารพเกียรติของความเป็นหมอ เพราะไม่กล้าพูดความจริง แถมยังร่วมกันสร้างละครตบตาคนทั้งประเทศในเรื่องนักโทษป่วยหนักชนิดที่ว่าป่วยแบบใกล้ตาย
เมื่อพูดถึงนักโทษที่ต้องติดคุก แต่กลับไม่เคยติดคุกเลยแม้แต่วันเดียวแล้ว ก็ต้องพูดถึงคนป่า (รอยต่อ)คนป่าที่ว่านั้นมีบ้านใหญ่โตมโหฬาร แต่กลับอาศัยป่าเป็นที่หากิน หาผลประโยชน์ส่วนตัว ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงก็ไม่ได้มีส่วนในการทำนุบำรุงป่าของประเทศไทยอย่างจริงๆ จังๆ เพียงแต่อาศัยชื่อป่าเพื่อสร้างภาพเท่านั้น คนป่าที่ถูกนักโทษเทวดาพูดทำนองประณามว่าเป็นตัวการทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย มีหน้าตาตัวตนเช่นไรรับรองว่าคอข่าวเมืองไทยทุกคนรู้ดี ส่วนคำถามที่ว่าแล้วทำไมนักโทษเทวดาไม่กล้าพูดชื่อคนป่าให้ชัดเจนว่าชื่อเรียงเสียงใด ก็เป็นเพราะคนหนีคุกก็รู้อยู่แก่ใจทำนอง ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ก็จึงไม่กล้าพูดชื่อชัดๆแต่ก็ประกาศเสียงดังบนเวทีงานบวชว่า คนป่าเป็นตัวการทำให้เกิดความวุ่นวาย
ส่วนคนขาย (ผง) แป้ง ที่ออสเตรเลียประกาศไม่ให้เดินทางเข้าประเทศอีกนั้น ก็มีความสัมพันธ์อันดีกับทั้งคนป่าและคนคุกที่ไม่ต้องติดคุก ซึ่งเป็นคนประเภทสองหัว เหยียบเรือสองแคม หรือนกสองหัว ข้าสองเจ้า บ่าวสองนาย คอการเมืองไทยเห็นชัดว่าคนขาย (ผง) แป้ง มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับคนคุกหนีคุกมากมายเพียงใด แล้วก็ยังรู้ด้วยว่าเขาเคยอยู่พรรคเดียวกับคนคุกที่หนีคุกมาก่อน แต่เมื่อคนหนีคุกหนีไปอยู่ต่างด้าวต่างแดนนานๆ จนไม่คิดว่าจะกลับแผ่นดินแม่ คนขาย (ผง) แป้งก็จึงหันไปซบไปซุกคนป่า เพราะในระยะนั้นคนป่ามีอำนาจรัฐ เพราะอยู่ในทีมก่อรัฐประหาร แล้วยังมีสถานะเป็นพี่ใหญ่ของผู้ก่อรัฐประหาร แต่ทว่าคนป่าประกาศมาโดยตลอดว่าตนเองไม่ใช่คนก่อรัฐประหาร แต่ไม่เคยพูดความจริงว่า ตนเองได้รับผลประโยชน์มหาศาลเพราะการทำรัฐประหารโดยคนที่ใกล้ชิดกับคนป่า
ดูตัวละครการเมืองไทยเพียงแค่ 3-4 ตัวที่กล่าวมานี้ ก็ทำให้คอการเมืองไทยประจักษ์ชัดแล้วว่าตัวละครเหล่านี้คือต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เมืองไทยเละเทะ การเมืองไทยเลอะเทอะ แหลกเหลว ไม่สามารถมีพัฒนาการใดๆ ได้ มิหนำซ้ำ ยังทำให้เศรษฐกิจไทยตกเหว ดิ่งนรก บ้านเมืองระส่ำระสาย นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติไม่ต้องการลงทุนในประเทศไทย หุ้นตกกระหน่ำ ตกแบบตกแล้วตกอีก และจะตกไปเรื่อยๆ ส่วนรายได้ของประชาชนส่วนใหญ่ก็หดหาย ธุรกิจห้างร้านปิดกิจการกันทุกวัน อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยตกต่ำเสื่อมทรุดจนแทบจะกลายเป็นที่โหล่รั้งท้ายของสมาชิกอาเซียน
ทุกวันนี้ เมืองไทยยังคงดำรงสถานะความเป็นรัฐอยู่ได้ ก็เพราะคนไทยยังคงพยายามรักษาสถานะความเป็นชาติของไทยเอาไว้ ในขณะที่นายกรัฐมนตรีของไทยมีสถานะเพียงหุ่นเชิดของเจ้าของพรรคการเมืองที่หลายคนรู้ว่าดีว่าเป็นคนคุกที่หนีคุก ส่วนรัฐบาลผสมของไทยก็เป็นส่วนผสมที่เต็มไปด้วยความแปลกแยก และไม่มีความเป็นเนื้อเดียวกัน น่าสมเพชคนไทยน่าสงสารประเทศไทยเสียจริงๆ ที่ต้องตกอยู่ในสภาพเลวร้ายถึงเพียงนี้ ถามจริงๆ เถอะ หากเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ แล้ว ไทยจะกลายเป็นประเทศที่รั้งท้าย ASEANในเร็วๆ นี้ใช่หรือไม่ ตามความเป็นจริงนั้น ในทุกวันนี้ ไทยอาจจะเจริญกว่าเมียนมาเท่านั้นเองกระมัง แต่หากแก้ปัญหาไม่ได้แล้ว รับรองว่าไทยจะล้าหลังกว่าเมียนมาในอนาคตอันใกล้

'สรายุทธ' ปัดชี้แจง ถูก 'อัจฉริยะ' แฉเอี่ยววิ่งเต้นโยกย้ายตำแหน่งภาค4 โยนนักข่าวไปถาม ผบ.ตร.
น้ำท่วมเป็นเหตุ! ผักเบตง ‘พาเหรดขึ้นราคา’ ผักชีพุ่งทะยาน กก.ละ 300 บาท
‘ชัชชาติ’ รุดตรวจเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ย่านจักรเพชร
'รมว.ยุติธรรม'รับไม่ได้! สั่งขยายผล สอบพฤติกรรมย้อนหลัง'ผบ.คุกพิเศษกทม.'
ภราดร ย้ำ ยุบสภาเป็นอำนาจนายกฯ บอก ปล่อยซักฟอก รัฐบาลแจงดีแค่ไหน ก็โหวตแพ้อยู่ดี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี