วันอาทิตย์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ผลการสอบสวนสองบิ๊กตำรวจครบสี่เดือนมีผลสรุปออกมาตามที่ ดร.วิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีแถลง เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนเมื่อวานนี้..ฟังแล้ว ถ้าหากว่าหน่วยงานแห่งนี้เป็นธุรกิจห้างร้านเอกชน..มีแต่ต้องยุบบริษัททิ้งอย่างเดียว..ขืนประกอบกิจการต่อไป--เจ๊งแน่
เพราะไม่เพียงแต่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ซึ่งจะได้รับการย้ายกลับไปนั่งตำแหน่ง ผบ.ตร.ตามเดิม หลังจากถูกย้ายข้ามาฟากมานั่งตบยุงใน“สุสานคนเป็น”ที่ทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา..จะเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่ถูกย้ายข้ามฟากมาแขวนไว้ที่ทำเนียบรัฐบาลพร้อมกันกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และเวลานี้ถูกให้ออกจากราชการเป็นการชั่วคราวไปแล้ว เท่านั้น..แต่ทีมงานหรือลูกน้องของทั้งสองบิ๊กตำรวจก็ยังขีดเส้นแบ่งข้างถือหางตาม“นาย”ด้วย
และเหตุแห่งความแย้งนั้น ก็หาใช่ว่าจะเป็นเรื่องของการแข่งขันกันทำความดี..แต่เป็นเรื่องของผลประโยชน์ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นผลประโยชน์ที่ได้มาจากการใช้อำนาจหน้าที่ในฐานะผู้ถือกฎหมาย“รีดไถ-ตีเมืองขึ้น”..คนไทยในประเทศนี้ต่างก็รู้กันดีว่า“หวย-บ่อน-ซ่อง”ที่มีอยู่แทบจะทุกตรอกซอกซอย..และคู่สังคมไทยมานานตราบจนทุกวันนี้นั้น..ตำรวจล้วนมีผลประโยชน์ทั้งสิ้น
เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปเป็นโลกของยุคดิจิทัล..ตำรวจไทยก็ยังพัฒนาช่องทาง“หากิน”ได้อีก..ตามที่ปรากฏเป็นข่าวเรื่อง“บัญชีม้า”จากการพนันออนไลน์..ดังที่สองบิ๊กตำรวจ คือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล..มีปัญหาขัดแย้งกันจนต้องถูกย้ายเข้าไปอยู่ใน“สุสานคนเป็น”..ซึ่งก็เพราะ“เงินสกปรก”จากการพนันที่ว่านี้
การย้าย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล กลับไปนั่งในตำแหน่ง ผบ.ตร.ตามเดิม..จากที่ ดร.วิษณุ เครืองาม แถลงว่า“เพราะตอนนี้ไม่มีอะไรสอบสวนอีกแล้ว”..ก็เหมือนกับว่าที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้น..ทั้งๆ ที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ก็มีแผลเหวอะหวะเช่นกัน..โดยเวลานี้มีผู้ร้องให้กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ตรวจสอบ..จากหลักฐานเส้นทางการเงินเกี่ยวพันกับเว็บพนันออนไลน์..ซึ่งพบว่า มีการโอนเข้าไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์จำนวนหลายร้อยล้านบาท
ดร.วิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี...แถลงไว้ชัดเจนว่า เหตุที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และในฐานะที่เป็นประธานการคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ได้ย้าย“สองบิ๊กตำรวจ”ออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 พร้อมทั้งมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน..ก็เพราะเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ..ซึ่งเป็นหน่วยงานใหญ่ของกระบวนการยุติธรรม..จนทำให้ประชาชนไม่มั่นใจ--และไม่พอใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ผลสรุปของคณะกรรมการสอบสวนที่มีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน..มีนายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตอัยการ เป็นกรรมการ..และมี พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีต รอง ผบ.ตร. เป็นกรรมการและเลขานุการ..รวมทั้งมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาอีกหลายชุดเพื่อสอบพยานกว่า 50 คน ซึ่งเป็นฝ่ายสนับสนุนของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และ พล.ต.อ.พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล..โดยใช้เวลาสอบสวน 4 เดือน..จากที่ ดร.วิษณุ เครืองาม แถลง--สรุปได้ดังนี้
“1.ผลการตรวจสอบพบว่ามีความขัดแย้ง และความไม่เรียบร้อยเกิดขึ้นจริง..มีความขัดแย้งในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับสูง กลาง เล็ก..ทุกฝ่าย ไม่ว่าเป็นเหตุบังเอิญหรืออะไรก็แล้วแต่..กลายเป็นคดีความ..เรื่องร้องเรียนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ”
“2.เรื่องราวที่เกิดขึ้นเกี่ยวพันกับบุคคล 2 คน คือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล..ทีมงานก็พลอยเกิดความขัดแย้งไปด้วย..คดีที่เกี่ยวพันกับบุคคลเหล่านี้..ก็คือคดี 140 ล้าน หรือ“คดีเป้รักผู้การฯ เท่าไหร่”, คดีกำนันนก, คดีมินนี่, คดีพนันออนไลน์บีเอ็นเค..และมีคดีย่อยอีก 10 กว่าคดีที่อยู่ตาม สน.ต่างๆ..รวมทั้งในศาลคดีอาญาทุจริตภาค 7 และส่วนกลาง..ความขัดแย้งบางเรื่องเพิ่งเกิด..บางเรื่อง 10 ปีมาแล้ว จนเกิดเป็นคดีเหล่านี้ขึ้นมา”
“3.เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องส่งเรื่องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องรับผิดชอบไป..บางเรื่องส่งให้หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ตำรวจ อัยการ ศาล”
“4.บางเรื่องเกี่ยวพันกับนอกกระบวนการยุติธรรมก็คือองค์กรอิสระ ได้แก่ ป.ป.ช. ซึ่งรับไปดำเนินการแล้ว..เวลานี้คดีมีเจ้าของรับดำเนินการอยู่แล้วทั้งสิ้น..ไม่มีคดีที่ตกค้างอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติอีก..อาจจะมีตกค้างที่โรงพักก็ว่ากันไป..หรือจะมีตกค้างที่ ป.ป.ช., อยู่ที่ดีเอสไอ, ปปง. (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) หรืออะไรก็ตาม..มีเจ้าของรับผิดชอบไปแล้วทั้งนั้น”
“5.ก็มาสู่ข้อสรุปว่า..เมื่อพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักนายกฯ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567..ต่อมา เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์..เพียงผู้เดียวกลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติในตำแหน่งเดิม..โดยในวันที่ 18 เมษายนวันเดียวกันนั้น มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์..และตามด้วยคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน..ซึ่งตรงนี้ต้องขีดเส้นใต้ไว้ เพื่ออธิบายต่อไป”
เรื่องของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ ดร.วิษณุ เครืองาม ขีดเสีนใต้ไว้ ก็คือ..ตามที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนนั้น คณะกรรมการกฤษฎีกามีมติ 10 ต่อ 0 เห็นว่า..เป็นการกระทบสิทธิของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์..เนื่องจาก ตาม พ.ร.บ.ตำรวจฉบับใหม่ การให้ออกจากราชการไว้ก่อน..ต้องทำโดยการเสนอแนะของคณะกรรมการสอบสวน..คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงแนะนำให้ไปแก้ไขให้ถูกต้อง..ดังนั้น สถานภาพของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในขณะนี้..จึงอยู่ระหว่างการนำกราบบังคมทูลฯ ซึ่งสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีต้องตรวจสอบว่าถูกต้องตามขั้นตอนระเบียบกฎหมายหรือไม่
อย่างไรก็ตาม การที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ถูกส่งกลับไปทำหน้าที่เดิมในฐานะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ..ตามที่ ดร.วิษณุ เครืองงาม ได้แถลงว่า..ไม่มีอะไรให้สอบสวนอีกแล้ว..อีกประการหนึ่งก็เพราะ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ถูกย้ายมาพร้อมกันได้ถูกส่งกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปก่อนแล้ว..ดังนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ก็สมควรต้องถูกย้ายกลับเช่นกัน..จึงน่าเป็นห่วงว่า เมื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ได้กลับไปนั่งที่เดิม..ใครจะรับประกันได้ว่า ทีมงานหรือลูกน้องของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์..จะไม่ถูก“คิดบัญชี”ย้อนหลัง..เพราะเวลานี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์หลุดจากวงจรอำนาจไปแล้ว
หรือในอีกทางหนึ่ง ถ้าหากทั้งสองฝ่ายเจรจาหย่าศึกปรองดองกันได้..ก็อาจเป็นไปได้ว่า จะกลายเป็นการปรองดองเพื่อหากินกันอย่าง“บูรณาการ”ต่อไป..แบบ“วิน -วิน”ด้วยกันทั้งสองฝ่าย
เพราะตราบใดที่ยังไม่มีการปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติกันอย่างจริงจังชนิดถึงรากถึงโคน..อำนาจและผลประโยชน์ของคนใน“ยุทธจักรสีกากี”ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง..และยังคง“รีดไถ-ตีเมืองขึ้น”กันต่อไปได้อีกเหมือนเดิม !
รุ่งเรือง ปรีชากุล

ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน' ประจำวันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม 2568
พรรครักชาติทำฮือฮา 'เจษฎ์' แคนดิเดตนายกฯ
ชาวบ้านชายแดนหวั่น'พักรบ'แอบเติมอาวุธ ซัดเขมรไว้ใจไม่ได้ กลัวปะทะรอบ3แรงกว่าเดิม
ดร เอ้ นำทีม ไทยก้าวใหม่ สมัคร สส บัญชีรายชื่อ ชูนโยบายศึกษา รร ปลอดภัย เรียนฟรี ปลดหนี้กยศ.
อยากได้เบอร์ที่คนจำได้ อ้อนขอประชาชนเทคะแนนหนุน ปชป ได้เป็นรัฐบาล

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี