l วันวาน วันนี้ ไม่มีพรุ่งนี้
วันวาน : ผ่านมาแล้ว ได้ทำ ไม่ได้ทำ
วันนี้ : เป็นโอกาสครั้งสุดท้าย ที่ได้คิดและตัดสินใจทำ
พรุ่งนี้ : ไม่มีเวลาแล้ว จบหมดกาลเวลาของชีวิต
l 1. วันวาน
ฉันยังเป็นทารก เด็กชาย วัยรุ่น หนุ่มใหญ่ มีครอบครัว เป็นพ่อ เป็นปู่เมื่อวานฉันผ่านการสู้รบในสนามประชาธิปไตยในเมือง ในป่า กลับมาสู้อีกในเมือง หลายครั้งอดีต ฉันผ่านเวทีปราศรัยในฐานะผู้สมัคร ทำงานเป็นนายกสโมสรจุฬาฯ ทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย ในช่วงการพัฒนาเติบใหญ่ของนักศึกษา หลังจากมีมีการก่อตั้งสถาปนา “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” โดย ในหลวง ร.๕-ร.๖ม.ธรรมศาสตร์ โดย อาจารย์ปรีดี พนมยงค์ ตามด้วย เกษตร ศิลปากร มหิดล และ เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา รามคำแหง ฯลฯ โดยเฉพาะจากศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (ศนท.) รุ่นที่ ๓ ปี ๒๕๑๕ และรุ่นที่ ๔ ปี ๒๕๑๖ ที่ ธีรยุทธ บุญมี และ สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ มีบทบาทขับเคลื่อนสังคมไทย
@ หลังจากฉันผ่านการเรียนในคณะวิศวจุฬาฯ ๖ ปี (๒๕๑๐-๒๕๑๕) ทั้งกิจกรรมและการเรียนฉัน และครอบครัว พ่อแม่พี่น้อง ภาคภูมิใจยิ่งในชีวิต ที่ฉัน ได้ขึ้นรับพระราชทานปริญญา จากในหลวง ร.๙ หลังจากมีโอกาสพิเศษในฐานะนายกสจม.ที่ได้เข้าเฝ้าฯในหลวง หลายโอกาส จบมาปี ๒๕๑๕ ได้เข้าทำงาน ในฐานะ“นายช่างโยธา” ข้าราชการกทม. ที่ใช้เวลาทำงาน และใช้เวลานอกราชการและวันหยุด ทำกิจกรรมเพื่อบ้านเมืองต่อได้ร่วมกับ อ.ธีรยุทธ บุญมี และคณะก่อตั้ง “กลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญ” เสริม “คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญของ ศนท.” ในยุค เลขาฯ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ที่มีตัวแทนจากทุกมหาวิทยาลัย ดำเนินการฯ
ร่วมเดินขบวน แจกใบปลิว รณรงค์เชิญชวนประชาชน ให้เข้าร่วมเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ถูกจับข้อหาใหญ่โตเกินค่าตัว ถูกเข้าคุกตะราง ในวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๖ อดข้าวประท้วง เพื่อหนุนช่วย ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาจัดประชุมใหญ่ในธรรมศาสตร์ วันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๑๖ มีพลโทสนั่นผิวนวล ที่พวกเราไม่รู้จัก มาประกันตัว เราจึงไม่ออกเช้าวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๑๖ วันตำรวจหน่วยคอมมานโดพร้อมอาวุธครบ มาเชิญ พวกเรา ๑๓ คน ออกจากคุกฯ
หลังจากนั้น เกิดเหตุใหญ่ กรุงรัตนโกสินทร์ถนนราชดำเนิน หน้าพระราชวังสวนจิตรฯมีเหตุการณ์สำคัญหลายอย่างเกิดขึ้น
๑.บทบาทของนักศึกษาและประชาชนหลายแสนคน
๒.ความขัดแย้งของ ๒ กลุ่มทหาร “อำนาจเก่าจอมพลถนอม ประภาส ณรงค์” และ “อำนาจใหม่ พลเอกกฤษณ์พลโทประจวบ พลตรีวิฑูรฯ”
๓.และพระบารมีของในหลวง ร.๙ ที่ทรงเอาความสงบสุขและความปลอดภัยของประชาชน มาก่อนทำให้เหตุการณ์ ยุติลงฯ
l หากจะกล่าวถึง เรื่องตามหัวข้อที่นำเสนอมา
ในความเป็นมนุษย์ ยากสุดและง่ายสุด คือ ตัวเอง
ประวัติศาสตร์เหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ยังมีความคิดเห็นต่างกันมากทั้งคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งไม่ต้องกล่าวถึง คนในรุ่นหลังขึ้นกับว่า จะเชื่อ “ใคร” ฝ่ายใดความจริง หรือความเท็จ ซึ่งเกิดจาก “ข้อยากที่สุด และข้อง่ายที่สุด ของความเป็นมนุษย์” คือ “ตัวเอง” จะถอดอัตตา อคติ ออก แล้วกลับไปศึกษา ทบทวน ข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ ที่มีข้อมูลหลักฐาน ที่เป็นจริง มีเหตุมีผลมีที่มา
๑.หากยังคงพูดไปตามความเชื่อ โดยไม่ศึกษาหาความจริง สังคมก็ยังจะสับสนต่อเราก็จะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความสับสนให้กับประวัติศาสตร์และคนรุ่นต่อไป
๒.หาก มองเข้าไปในใจของเราและบอกกับ “ตัวเอง” ว่า จะแสวงหาความจริง ก่อนพูด ก่อนเขียนอะไรออกไปความสับสน ข้อมูลที่สับสน จะมีโอกาสได้ถูกชำระล้างเราก็จะเป็นส่วนหนึ่ง ของ “ผู้มีส่วนทำให้ความจริงปรากฏ” เป็นส่วนหนึ่ง ของการชำระประวัติศาสตร์
l สังคมมนุษย์ สังคมโลก และสังคมประเทศไทย
วุ่นวาย สับสน ขัดแย้งฯ กันมากน้อย อยู่ที่การเข้าถึงความจริง ด้วยการเข้าถึง “ตัวเอง” ที่สังกัดภาคส่วนต่างๆ
๑.ผู้นำของสังคม ฝ่ายต่างๆ
๒.โดยเฉพาะ “ผู้นำที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของประเทศ”
ไม่ว่า ๒๔ มิถุนายน ๒๕๑๖ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙
เหตุการณ์
พธม. ๒๕๔๙ - ๒๕๕๑
กลุ่มเสื้อแดง ปิดบ้านเผาเมือง ๒๕๕๓
กปปส. ๒๕๕๖ ๒๕๕๗
เยาวชนเสื้อแดงส้ม ในปี ๒๕๖๓ ฯลฯ
๓.นักวิชาการปัญญาชน และ
๔.ประชาชน
l เพราะ “ความจริง” มีหนึ่งเดียวท่ามกลาง“ความจริง ความเท็จ” ที่ปลิวว่อนไปทั่วเมือง เพราะ“การเข้าถึงตัวเอง” เป็นเรื่องที่ยาก และง่ายขึ้นกับ “ตัวเอง” จะมีคุณธรรม คุณภาพ มากน้อยแค่ไหน
2.วันพรุ่งนี้ ไม่มี สำหรับ การที่ “ผู้นำ และคนที่เกี่ยวข้อง” จะออกมาพูดตัดสินใจ ออกมาพูดความจริง ให้สังคมได้กระจ่างชัดเพื่อให้สังคมได้รู้ความจริง ว่า “เรื่องราวเป็นอย่างไร” ทั้งในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ประชาธิปไตย
@ เหตุการณ์สำคัญของบ้านเมือง ที่ยังสับสนอยู่ในวันนี้ เช่น
-เรื่องของทักษิณ ยิ่งลักษณ์ ต้นตอที่สำคัญอย่างยิ่งประการหนึ่งของสังคมไทย
-เรื่องของนายกฯเศรษฐา ธนาธร พิธา ภูมิใจไทย ฯลฯ
-เงินดิจิทัล ฯลฯ
หากต้องการจะพูดความจริงหากคิดถึงอนาคตของชาติ ลูกหลานที่จะมารับกรรมแทนเราเงยหน้ามองฟ้า กราบพระพุทธ และศาสดาศาสนาที่เชื่อฯแล้ว “สาบานว่า” ข้าจะพูดความจริง ในวันนี้ ก่อนจากไป ในวันพรุ่งนี้
3.วันนี้ มาถึงทางแยกใหญ่ของอนาคตตัวเราและของประเทศ
โทษกรรม ดีชั่ว ที่ผ่านมาในอดีต หรือยังก่ออยู่ในทุกวันนี้ จะมีทิศทางอย่างไร ขึ้นกับเราจะเลือกทำสิ่งที่ยากที่สุด และสิ่งที่ง่ายที่สุดวันนี้
๑.ความยากที่สุด : เพราะมันอยู่ใต้ก้นลึกในอัตตาเรา มันสะสมมายาวนาน เป็นนิสัย เป็นสันดอนใหญ่ในแม่น้ำแห่งใจของเรา เราไม่เคยหยั่งลงไปลึกถึงใต้ก้นมหาสมุทรฯ
๒.ความง่ายที่สุด : เพราะมันคือ ตัวเรา เราทำได้ทันทีหากผ่านด่านแรก ที่ยากที่สุด
@ เลือกเอา !
เราขอเป็นกำลังใจให้เพื่ออนาคตของบ้านเมืองลูกหลานเรา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี