วันจันทร์ ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
การเลือกตั้งในสหรัฐในเดือนพฤศจิกายน ปีนี้ เป็นการแข่งขันกันระหว่างสองพรรคการเมืองใหญ่ของสหรัฐเหมือนเดิม และมีคู่แข่งเก่าเหมือนเดิม คือนายโดนัลด์ ทรัมป์ กับนายไบเดน ซึ่งไม่มีอะไรใหม่น่าแปลกใจ
แต่ที่เปลี่ยนแปลงไปมากก็คือสภาพสังขารของนายไบเดน ซึ่งความชราครอบงำจนสูญเสียความเป็นผู้นำและความยิ่งใหญ่ของผู้สหรัฐ ตลอดจนความยิ่งใหญ่ของสหรัฐไปแทบสิ้นเชิง สหรัฐกลายเป็นว่ามีผู้นำที่ป้ำๆ เป๋อๆหลงๆ ลืมๆ เลอะๆ เลือนๆ จนกระทั่งแม้การเดินก็เหมือนกับหุ่นยนต์ไปแล้ว และเป็นประธานาธิบดีที่ทำให้คนสหรัฐรู้สึกว่าอับอายขายหน้ามากที่สุดในประวัติศาสตร์
ดังนั้นจึงมีเสียงเรียกร้องให้นายไบเดนถอนตัวออกจากการแข่งขัน แต่นายไบเดนก็ยังมั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันต่อไปได้ และต่างฝ่ายต่างก็หาเสียงแข่งกันตามระบอบปกติของสหรัฐ
ปรากฏว่าได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดฝันขึ้น นั่นคือเหตุการณ์ลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ในขณะหาเสียง แต่เดชะบุญที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด
นายทรัมป์เป็นคนมีสติมั่นคง พอรู้ตัวว่ารอดตายก็ใช้โอกาสนั้นหาเสียงทันที ซึ่งถ้อยคำที่กล่าวล้วนชักชวนให้เลื่อมใสและเป็นที่นิยมชมชอบของชาวอเมริกันโดยทั่วไป เป็นผลให้คะแนนนิยมของนายทรัมป์เพิ่มขึ้นถึง 15% ในพริบตา ทำให้คะแนนนิยมโดยรวมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะนายไบเดนชนิดขาดลอย
แม้ว่ามีความพยายามที่จะใส่ไฟว่าเหตุการณ์ลอบสังหารนี้เป็นการจัดฉากของนายโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ในที่สุดก็ไม่สำเร็จ เพราะสังคมไม่ยอมเชื่อถือว่าจะเป็นการจัดฉาก และล่าสุดนี้ความจริงก็ชัดเจนแล้วว่าเป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นโดยไม่มีการจัดฉาก
คะแนนนิยมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เพิ่มขึ้นอย่างพรวดพราดทำให้คะแนนนิยมของนายไบเดนยิ่งตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว จึงเกิดเสียงเรียกร้องอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะจากแกนนำพรรคทุกระดับล้วนระดมเรียกร้องกดดันอย่างเต็มที่ให้นายไบเดนถอนตัวออกจากการแข่งขัน
และแล้วในที่สุดนายไบเดนก็จำยอมต่อแรงกดดันทั้งหลาย ประกาศถอนตัวออกจากการแข่งขันเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ และประกาศสนับสนุนให้รองประธานาธิบดีแฮร์ริสเข้าแข่งขันแทน
สภาพที่เกิดขึ้นไม่ว่าชาวพรรคเดโมแครตจะพยายามผลักดันสนับสนุนรองประธานาธิบดีแฮร์ริสให้แข่งขันเท่าใดก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าคะแนนนิยมยังห่างชั้นและตามนายโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ทันแล้ว
สาเหตุสำคัญประการหนึ่งก็คือ ตลอดระยะเวลาที่รองประธานาธิบดีแฮร์ริสดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีนั้นไม่ได้สร้างผลงานที่ประชาชนยอมรับได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว ซึ่งเหตุเกิดมาจากทั้งสองด้าน
จากด้านประธานาธิบดีไบเดน ที่ไม่สนับสนุนบทบาททางการเมืองของรองประธานาธิบดีให้คนทั้งหลายเห็นความสำคัญและมีผลงานอันยอมรับนับถือได้ คุณแฮร์ริสจึงกลายเป็นรองประธานาธิบดีที่โลกลืม จะเห็นบทบาทบ้างก็ไม่ต่างกับขุนนางของประเทศไทยที่มีหน้าที่เอาของไปถวายพระสงฆ์เท่านั้น
บทบาทของคุณแฮร์ริสจึงไม่มีสิ่งใดประทับใจหรือสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ชาวอเมริกันเลย เมื่อมารับสืบทอดภารกิจเข้าแข่งขันเป็นประธานาธิบดีสืบต่อจากนายไบเดนในสถานการณ์เช่นนี้จึงต้องถือว่าเป็นความปราชัยตั้งแต่ยังไม่ทันลั่นกลองศึกด้วยซ้ำ
สถานการณ์ทางการเมืองของสหรัฐในขณะนี้แม้ยังห่างวันเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกหลายเดือน แต่การขับเคลื่อนนโยบายและความสัมพันธ์ด้านต่างประเทศกลับหักเหไปอยู่ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ เร็วกว่าที่คาดหมาย บรรดานักการต่างประเทศของประเทศต่างๆ ล้วนประสานงานติดต่อกับฝ่ายบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ แทนที่จะติดต่อกับผู้แทนรัฐบาลสหรัฐ
สภาพเช่นนี้ทำให้ชาวโลกค่อยผ่อนหายใจได้มากขึ้นว่าถ้าหากนายโดนัลด์ ทรัมป์ มาเป็นประธานาธิบดีก็จะลดทอนความรุนแรงนโยบายสร้างความขัดแย้งและสงครามของนายไบเดน ตามแนวทางของพวก deep state ของสหรัฐ และเป็นไปได้ที่โลกจะหลีกเลี่ยงสงครามโลกครั้งที่สามได้อย่างหวุดหวิด เพราะสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ชาวโลกล้วนเชื่อว่าถ้านายไบเดนเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐต่อไป การดำเนินนโยบายความขัดแย้งและสงครามก็จะยิ่งยกระดับมากขึ้นในทุกภูมิภาคของโลก และทำให้โลกเข้าใกล้สงครามโลกครั้งที่สามอย่างน่าอกสั่นขวัญแขวน
แต่เมื่อแนวโน้มการเมืองสหรัฐชัดเจนว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ จะมาเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป นโยบายต่างๆ ของนายไบเดนก็จะถูกเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญ
โดยเฉพาะคือนโยบายต่อยูเครน ต่อประเทศในตะวันออกกลางและต่อประเทศในแปซิฟิก ที่สำคัญคือนโยบายที่จะไม่ทำสงครามด้วยแสนยานุภาพกับฝ่ายองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ และถ้าเป็นเช่นนั้นโลกก็จะก้าวข้ามผ่านสงครามโลกครั้งที่สามไปได้อย่างหวุดหวิด
แต่ไม่ได้หมายความว่าโลกจะเข้าสู่ยุคสันติภาพนิรันดร เพราะไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใด คือไม่ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่ต้องการสร้างสงคราม แต่การสร้างความขัดแย้งอย่างอื่นที่มีความขัดแย้งไม่ต่างกับสงครามก็ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้น
เช่น สิ่งที่เรียกว่าสงครามทางการค้า สงครามทางการเงิน สงครามข่าวสารข้อมูล สงครามชีวภาพ สงครามที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์วอร์แฟร์ และสงครามทางวัฒนธรรม รวมความว่าสารพัดรูปแบบของสงครามทั้งหลายนอกจากการใช้อาวุธประหัตประหารกันแล้วก็จะถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่
สภาพเช่นนี้ประเทศไทยของเราได้ทำความเข้าใจอย่างดีแล้วหรือยัง และจะเตรียมรับมือสถานการณ์นั้นอย่างไร เพราะสิ่งที่เราเคยรู้เห็นชำนาญกำลังจะใช้ไม่ได้แล้ว และสิ่งที่ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นไม่เคยมีบทเรียนประสบการณ์กำลังจะเป็นปัญหาใหญ่ที่กำลังเผชิญหน้าเราอยู่
จะเอาอย่างไรดี?

'จูรี'ชี้ชัด! 3ศพหาดใหญ่ 'ความเสียหายที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ' เหตุเกิดจาก'ช่วยเหลือไม่เป็นระบบ'
พาณิชย์เสิร์ฟข่าวดี! ตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เปิดรับมันสำปะหลังไทย
'อามินทร์'ลุยเจาะไอร้อง! ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม สั่งเร่งสูบผันน้ำลงทะเล
(คลิป) 'เจ๊ปอง'แฉ! เรื่องจริงบ้านเช่าในเรือนจำ
ด่วน!! 'เปิ้ล นาคร'กลายเป็นผู้ประสบภัย! เจ็ตสกีน้ำเข้าติดอยู่บนหลังคาบ้าน รอการช่วยเหลือ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี