วันศุกร์ ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2568
l วันนี้ ขอพูดถึงเรื่องที่มีความสำคัญหนึ่ง สำหรับผู้คนในสังคม คือ เรื่อง ภาพลักษณ์ โดยเฉพาะสำหรับผู้นำในสังคมไทย
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิต ได้เห็น “ผู้นำกับภาพลักษณ์” ที่หลากหลายซึ่งมีทั้งผลดี และผลเสีย จาก “ความคิดและความเข้าใจเรื่องภาพลักษณ์” ที่ถูกและผิดเป็นเรื่องภาพลักษณ์ภายนอก และตัวจริงแก่นแท้ของตัวเอง
l ภาพลักษณ์ที่งดงาม คือภาพลักษณ์ที่ดีภายนอก ๑ ที่มาจากภาพลักษณ์ที่ดีแท้ภายใน ๑ และเราต้องศึกษา ทำความเข้าใจ และปรับภาพลักษณ์ภายในและภายนอกอยู่ตลอดเวลาเพราะ “ใจ และกาย ของมนุษย์” ที่เป็นสัตว์ประเสริฐ สามารถปรับและพัฒนาได้ จงมาทำหน้าที่ของตน ทั้งการปรับตนเอง และปรับผู้อื่นที่เป็นที่รักของเราและปรับชุมชน และสังคมในที่สุด
l ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จัก และเข้าใจ เรื่องของภาพลักษณ์กันก่อน
อาจจะมีความคิดความเห็นหลากหลาย ในหมู่นักวิชาการไทยสื่อ ฯลฯ
แต่ที่สำคัญ และมีผลมาก คือ “ความคิดของผู้นำต่อเรื่องภาพลักษณ์ (ของตนและผู้อื่นมอง)”
๑.เป็นภาพที่เกิดจากความนึกคิดหรือที่คิดว่าควรจะเป็นเช่นนั้นของเจ้าตัว
๒.เป็นภาพภายนอก ที่ผู้อื่นมองผู้นำนั้นๆ
๓.อาจจะเป็นภาพจริงๆ ที่เจ้าตัวมอง และผู้อื่นมอง อย่างถูกต้อง
๔.อาจจะเป็นภาพไม่จริงแท้ที่เจ้าตัวมองอย่างหนึ่ง แต่ผู้อื่นมองตรงกันข้ามฯ
๕.ภาพลักษณ์ภายนอก ปรับพัฒนาได้ที่ “ภาพลักษณ์ภายใน”
๖.อื่นๆ
l ภาพลักษณ์ ในเชิงองค์ความรู้ทางวิชาการ
ก. ตัวอย่าง เช่น
ภาพลักษณ์โดย พจน์ ใจชาญสุขกิจ
ภาพลักษณ์เป็นเสมือนสิ่งที่เกิดขึ้นจากความรู้สึกของแต่ละบุคคลต่อสิ่งต่างๆ และมักจะเป็นความรู้สึกที่สร้างขึ้นเองโดยมีข้อเท็จจริงเป็นหลักอ้างอิงอยู่ด้วย อาศัยประสบการณ์ การค้นคว้าหาความรู้ การหลอมรวมและสร้างสรรค์ คิด วิเคราะห์สิ่งต่างๆ จนทำให้เกิดความเชื่อการรับรู้ การเข้าใจในสิ่งต่างๆ ประกอบกันขึ้นเป็นภาพลักษณ์ของตนเอง และแสดงออกในรูปของพฤติกรรม โดยผ่านการคิดและกลั่นกรองของแต่ละคนมาแล้ว จึงทำให้ภาพลักษณ์นั้นมีลักษณะที่เกี่ยวข้องกับจิตใจโดยตรง เป็นการผ่านการตีความหมาย การเลือกสรร และการให้ความหมายของตนเอง
องค์ประกอบของภาพลักษณ์
มีอยู่ 4 ประการด้วยกัน ที่มีความเกี่ยวข้องและมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน กล่าวคือ
1. องค์ประกอบเชิงการรับรู้
2. องค์ประกอบเชิงตระหนักรู้
3. องค์ประกอบเชิงความรู้สึก
4. องค์ประกอบเชิงการกระทำ
ข.จากนักวิชาการอื่นๆ.......(ควรจะแสวงหา และศึกษา เพื่อเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจฯ)
l มาดูมุมมอง “ภาพพจน์ภายนอก” จากที่ผู้รู้สังเกตเห็น ผ่านกาลเวลาที่ยาวนานกว่า ๕๐ ปี
๑.คนที่หนึ่ง
เป็นคนมีชื่อเสียงและมีบทบาทต่อสังคมไทยสูงในทางที่ดี
(๑) ลักษณะร่วม
แสดงทัศนะ ต่อทิศทางของสังคม ในช่วงเวลาหนึ่งๆ โดยสังคมและสื่อให้ความสนใจสูงเพื่อนมิตรและผู้นำทั่วไป ยินดีที่ได้คบค้าสมาคม และจะให้ความเกรงใจมีบทบาทในการให้ความคิด และทิศทางของสังคม
(๒) ลักษณะเฉพาะของบางคน ที่หลากหลาย
สามารถคบค้าสมาคมกับ ผู้นำอื่นๆ ในสังคมได้อย่างดี วางตัวเหมาะสมมักให้ความสนใจต่อ อารมณ์ความรู้สึกของตนเองสูง ขาดการมีใจช่วยเหลือคนอื่น ระมัดระวังสูง ในการคบค้าสมาคมกับผู้นำที่มีภาพพจน์ในเชิงลบ
๒.คนที่สอง
เป็นคนเก่งมีความสามารถสูงในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนเพื่อนมิตรมีข้อจำกัดที่ตนมองไม่เห็น ในการเน้นตัวเองเป็นหลัก ขาดความจริงใจต่อมิตรสหายในช่วงวิกฤต มักจะหลบหลีก เอาตัวรอด และกลับมาเมื่องานจบ
๓.คนที่สาม
เป็นคนระดับกลาง มีความรัก ความจริงใจ เคารพคนและให้ (ช่วยเหลือ) คนที่ทุกข์ลำบากคิดและทำงานอย่างจริงจัง ผ่านชีวิตการต่อสู้เพื่อส่วนรวม ฯลฯ
๔.คนที่สี่
เป็นคนเก่ง มีความรู้ความสามารถสูงที่มีชื่อเสียงและความสำเร็จในการงาน ธุรกิจของตนมาจากการใช้อำนาจทั้งทางบวกและลบ
(๑) เป็นผู้มี ๒ อารมณ์ความรู้สึก ช่วงที่สติสงบจะคิดและแสดงความคิดความเห็นในเชิงบวกสร้างสรรค์ช่วงที่อารมณ์ลบ จะแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาต่อสังคม
(๒) ผลงานที่คิดและทำไป มักทำเพื่อผลประโยชน์ของตน ครอบครัว พวกพ้อง เป็นหลักการคิดและทำเพื่อส่วนรวม เป็นรอง
(๓) เอาตัวเองเป็นใหญ่ และมักจะเลือกสรรคนที่มีความรู้ความสามารถมาทำงานตามที่ตนสั่งไม่ใส่ใจ “ชะตากรรมของคนที่มาช่วยงานตน” เพราะมีกรอบคิดว่า “ช่วงมาทำงาน ก็ได้ผลประโยชน์ตอบแทนไปแล้ว”
ฯลฯ
l ประเด็นที่น่าสนใจ และใส่ใจ สำหรับผู้นำส่วนใหญ่ คือ
๑.ความเก่งความสามารถของตน มาจาก “ตัวเองเป็นหลัก”
๒.การปรับปรุง พัฒนาตนเอง มาจากตัวเองคนที่อยู่รอบข้าง จะไม่กล้า หรือเกรงใจในการแนะนำข้ออ่อนให้
๓.นิสัยทั้งดีและไม่ดี ก่อขึ้นมายาวนาน ในชีวิตการทำงาน
๔.การไม่มองตัวเอง ในส่วนที่ผิด เป็นลบ ทำให้เป็นข้ออ่อนของตนที่ไม่ได้ “พยายามแก้ไขส่วนที่เป็นข้ออ่อนและความผิดของตน”เกิดจากการไม่มองตนเอง ไม่ฟังคนอื่น และคนอื่นไม่กล้าแนะนำฯ
l สำหรับ “ผู้ที่มีอุดมคติ และมีธรรม เข้าใจตัวเอง ผู้อื่นและส่วนรวม”
๑.ลงทุนศึกษา ทำความเข้าใจ สภาพความเป็นจริงของตนเอง คนรอบข้างผู้อื่นและสังคมทำให้สามารถเข้าใจชีวิต กายใจ ของตน และผู้อื่นที่อยู่รอบข้าง
๒.จะหมั่นสรุปบทเรียนของตน และปรับปรุงพัฒนาตนเอง เป็นระยะ โดยในวันสำคัญของชีวิต
วันครบรอบวันเกิดของตน วันบวชเป็นพระ เป็นภิกษุณี วันมีครอบครัว วันมีลูกมีหลาน
วันสำคัญของวงศ์ตระกูล วันเกิดวันตายของพ่อแม่
วันสำคัญของปูชนียบุคคลที่ตนเคารพนับถือ
๓.จะมีความสุขและความสงบในชีวิต และใช้ชีวิตให้เกิดคุณค่าความหมายและประโยชน์ต่อสังคม

ปชป. ร่อนแถลงการณ์ ซัด พรรคส้ม ออกลูกงอแงหวังประโยชน์แก้ รธน. ยอมเอา ‘อธิปไตยชาติ’ มาเสี่ยง
ยุบสภา อนุทิน ยันแล้ว คืนอำนาจให้ประชาชน
คอนเฟิร์ม! นายกฯอนุทิน ยื่นยุบสภาแล้ว เผยต่อรอง ปชน. ชี้ สั่ง สว.ไม่ได้ ไม่โหวตตัดอำนาจ
สะพัด อนุทิน ยื่นยุบสภาคาไว้แล้ว ตั้งแต่เย็นวันนี้ ตัดหน้า ‘ปชน.’ ล่าชื่อซักฟอกรัฐบาล
สื่อนอกตีข่าว เหตุปะทะเดือดชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือน2ประเทศอพยพแล้วครึ่งล้านคน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี