หลายฝ่ายในสังคมไทยหงุดหงิด ไม่สบายใจที่นักการเมืองอเมริกัน ตลอดถึงรัฐบาลวอชิงตันแทรกแซงกิจการภายในของไทย เรียกง่ายๆ ว่า “เสือก” ออกหน้าในกรณีศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิ์ทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค 10 ปี 11 คน ที่อดีตรองประธานสภาแสดงธาตุแท้ปล่อยนานาสัตว์ออกจากปาก ระหว่างการปราศรัยหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ตัดสิทธิเลือกตั้งผู้บริหารพรรค 11 คน
ในยุคสงครามเวียดนาม ผู้เขียนอยู่กับครอบครัวอเมริกัน นาน 5 ปี และต่อมาทำงานกับคนต่างชาติส่วนใหญ่ เป็นอเมริกันนานกว่า 40 ปี และจนวันนี้ ยังมีอดีตเพื่อนร่วมงานชาวอเมริกันช่วยส่งข่าวความคืบหน้าในสงครามอิสราเอล-ฮามาสให้ จึงพูดได้เต็มปากว่า รู้เช่นเห็นชาตินักการเมืองอเมริกันมากกว่าคนไทยหลายคน และรู้ด้วยว่าสันดานอเมริกันนั้น หยิ่งผยองคิดว่าอเมริกายิ่งใหญ่กว่าใครในโลก อเมริกาจึงมองแต่ผลประโยชน์ตน นักการเมืองอเมริกันคบค้าคนต่างชาติที่สนองนโยบายวอชิงตันในการทำสงครามนอกบ้าน และแทรกแซงกิจการภายในประเทศที่ไม่ตามก้นอเมริกา
เราจึงได้เห็นนักเรียนอกหลายคนที่ได้รับทุนจากองค์กรต่างๆจากมูลนิธินี้โน้นนั้นไปล้างสมองในอเมริกาแล้วกลับมา เป็นสมุนรับใช้นักการเมืองอเมริกัน นอกจากล้างสมองในสถาบันศึกษาแล้ว การเมืองอเมริกามาในรูปของภาคประสังคม มูลนิธิ เอ็นจีโอ ไม่ว่าจะเป็น แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล ไอลอว์ กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆ ตลอดถึงเอ็นจีโอเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ล้วนแต่รับเงินมาเคลื่อนไหวภายใต้สังกัดมูลนิธิ Open Society ของ จอร์จ โซรอส หรือไม่ก็ NED (National Endowment For Democracy) และ CFR (Council of Foreign Relation) เป็นองค์กรในกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง CFR เป็น ศูนย์รวมทุนสามานย์ที่พรรคการเมืองในอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นพรรคเดโมแครต หรือ รีพับลิกัน ต้องทำตามนโยบายหลักที่ CFR กำหนดไว้
ส่วนนักการเมืองทำนโยบายปลีกย่อย เช่น เรื่องทำแท้งเสรี นโยบายประกันสุขภาพ การส่งเสริมให้มีสิทธิเท่าเทียมในการฆ่าคน ในสังคมอเมริกากราดยิงกันตายปีละกว่า 40,000 คน แต่ทั้งเดโมแครต และ รีพับลิกัน ไม่สามารถควบคุมการครอบครองอาวุธปืนได้ เนื่องจากนโยบายหลักของ CFR คือสนับสนุนอุตสาหกรรมผลิตอาวุธ และ ทำสงครามนอกบ้าน
จึงพูดได้ว่า การเมืองในอเมริกา ไม่ได้เสรีประชาธิปไตยดังที่เข้าใจ การเมืองในอเมริกาเคลื่อนไหวตามนโยบายทุนสามานย์ นักการเมืองอเมริกัน จึงคบหาเป็นพันธมิตรกับนักเคลื่อนไหวในคราบภาคประชาสังคม เอ็นจีโอ ที่ทำตามความต้องการของวอชิงตันเท่านั้น นักการเมืองอเมริกัน จึงเหมือนม้าครอบตาที่มองไปข้างหน้า ไม่มองซ้ายมองขวา มองเหลียวหลังไม่ได้ นักการเมืองอเมริกัน รับข้อมูลจากคนในเครือข่ายที่จัดตั้งไว้ทำงานเท่านั้น
ตัวอย่างที่เห็นชัดเจน คือ เมื่อศาลสูงสหรัฐใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ จากถูกดำเนินคดี ทรัมป์ถูกฟ้องข้อหาขบถปลุกระดมก่อจลาจลในรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 ทำให้ทรัพย์สินทางราชการเสียหาย และมีคนตาย 6 ศพ นอกจากข้อหาขบถ ทรัมป์ มีคดีอาญาอีก 25 กระทง ที่ศาลฎีกาให้เอกสิทธิ์คุ้มครองไม่สามารถดำเนินคดีต่ออดีตประธานาธิบดีได้ นักการเมืองอเมริกันที่เชี่ยวชาญเสือกเรื่องชาวบ้านเงียบกริบ ไม่โวยวาย มีแต่ประธานาธิบดี โจไบเดน เท่านั้น ที่พึมพำแบบผู้ชราว่า “เห็นทีต้องปฏิรูปศาลสูงกันแล้ว” ยังมีเรื่องที่นักการเมืองอเมริกัน มือถือสาก ปากถือศีลอีกมากมายพูดกันเจ็ดวันไม่หมด
เอาละมาว่ากันเรื่อง ทำไมอเมริกา จะเป็นจะตายให้ได้เมื่อศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคก้าวไกล มองกันง่ายๆ ก็พอเข้าใจได้ว่า เพราะพรรคก้าวไกลมีนโยบายต่อต้านสถาบันฯ ซึ่งตรงกับอุดมการณ์นักการเมืองอเมริกันหลายกลุ่มหลายฝ่าย ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย บางมหาวิทยาลัยในสหรัฐถึงกับมีแผนกศึกษาสถาบันสูงสุดของไทย ดังที่นายถวิล ไพรสณฑ์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ฝ่ายซ้ายในพรรคทำตามตะวันตกมากเกินไป จึงไม่แปลกใจที่พรรคก้าวไกลจ้องเล่นงานเอาเป็นเอาตายกับรัฐบาลทหารพม่า ตามก้นอเมริกาที่พยายามทำให้พม่าเกิดสงครามกลางเมืองครั้งใหญ่ หรือแม้แต่ทัวร์ต่างประเทศ สส.พรรคก้าวไกล ก็จงใจไปดูงานในประเทศโปแลนด์ ประเทศด่านหน้าประเทศยูเครน ที่สหรัฐผลักดันให้ทำสงครามตัวแทนกับรัสเซีย จนประเทศยูเครนพังทลายไปแล้วกว่า 70% ดังนั้น เมื่อพรรคก้าวไกลดำเนินนโยบายตามที่วอชิงตันต้องการ สถานทูตสหรัฐในประเทศไทยจึงสลัดมารยาท และพิธีทางการทูตทิ้งไป ออกแถลงการณ์ปลอบใจสมุนบริวารว่า..
“คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไทย ซึ่งมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิทางการเมืองของแกนนำพรรค 11 คนเป็นสิ่งที่น่ากังวลใจอย่างยิ่ง ในฐานะพันธมิตรและมิตรใกล้ชิด เราเรียกร้องให้ไทยดำเนินการเพื่อให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างแท้จริง รวมถึงเสรีภาพในการสมาคมและการแสดงออก..”
ฤาเสรีภาพในการแสดงออกของสถานทูตสหรัฐ คือ การเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพเทิดทูน และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยได้ เป็นเสรีภาพที่นักการเมืองอเมริกัน ตั้งเป้าหมายทำลายความมั่นคงภายในประเทศไทย นักการเมืองอเมริกันรู้ว่า พรรคก้าวไกลยั่วยุปลุกปั่นการต่อต้านสถาบันมากเท่าไหร่ สังคมไทยยิ่งแตกแยกรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น และอาจขยายวงกว้างไกลเป็นความวุ่นวายจนควบคุมไม่ได้ ถึงเวลานั้นสหรัฐก็เข้ามาในฐานะผู้ช่วยทำให้ความวุ่นวายขยายวงออกไปอีก สันดานของอเมริกา บอกได้จากสงครามในอิรัก เลบานอน ซีเรีย อัฟกานิสถาน และอีกหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศอัฟกานิสถาน ที่วอชิงตันปลุกปั่น อุซามะห์ บิน ลาดิน มากับมือ แต่เมื่อถึงเวลาต้องการสังหารบิน ลาดิน สหรัฐนำพันธมิตรนาโต้บุกยึดครองอัฟกานิสถานนาน 20 ปี ในข้ออ้างว่า ตามล่าบิน ลาดิน
สหรัฐเป็นชาติที่ฟังความข้างเดียว และฟังในสิ่งอยากฟังเท่านั่น ตัวอย่าง เช่น ฟังเฉพาะรายงานของซีไอเอ ว่า อิรักมีอาวุธนิวเคลียร์มากมายมหาศาล วอชิงตันใช้อาวุธหนักถล่มอิรักจนวอดวายกลายเป็นรัฐล้มเหลวมาจนวันนี้ ดังนั้น เมื่อนายธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่กับคณะร้องเรียนต่อนักการเมืองอเมริกันหลายครั้งว่า ประเทศไทยไม่เป็นประชาธิปไตย เมื่อครั้งศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่สหรัฐจึงโวยวายจะเป็นจะตายขึ้นมาเหมือนกับที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา
สถานทูตสหรัฐในประเทศไทยไม่ใส่ใจต่อกระบวนการยุติธรรมของไทยที่ใช้เวลา พิจารณาคดีกว่า 127 วัน ก่อนศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ให้ยุบพรรคก้าวไกล โดยระบุเหตุผลไว้ตอนหนึ่งว่า พฤติการณ์ของพรรคก้าวไกลที่เสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และใช้เป็นนโยบายพรรคในการหาเสียงเลือกตั้ง โดยใช้ประโยชน์จากสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อหวังคะแนนเสียง และชนะการเลือกตั้งมุ่งหมายให้สถาบันฯอยู่ในฐานะคู่ขัดแย้งกับประชาชน “ผู้ถูกร้อง(พรรคก้าวไกล) มีเจตนาเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือทําให้อ่อนแอลง อันนําไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในที่สุด การกระทำของผู้ถูกร้อง จึงเข้าลักษณะการกระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
และในคำตัดสินตอนหนึ่งศาลได้แถลงเรื่องที่ต่างชาติแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของไทยด้วย ดังนั้น จากนี้ไปสังคมไทยไม่ต้องให้ความสำคัญต่อแถลงการณ์ไร้สาระของสถานทูตอเมริกา โดยถือว่าคำทักท้วงต่อว่าของตะวันตกไม่ต่างอะไรกับเสียงหมาเห่าใบตองแห้ง
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี