วันพฤหัสบดี ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เขียนให้คิด
เขียนให้คิด

เขียนให้คิด

เฉลิมชัย ยอดมาลัย
วันอาทิตย์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
เศรษฐกิจไทยดี ทักษิณ-แพทองธร หลอกตัวเอง

ดูทั้งหมด

  •  

เมื่อดูพาดหัวข่าวเศรษฐกิจจากสื่อมวลชนทุกสำนักจะพบว่าระบุตรงกันคือ เศรษฐกิจไทยในปี 2568 ไม่ดีบางสำนักข่าวพาดหัวข่าวว่าเศรษฐกิจจะเลวร้าย เศรษฐกิจซบเซา คนไทยขาดกำลังซื้อ คนตกงานมากมาย โรงงานและร้านค้าจำนวนมากปิดตัวแล้วเลิกกิจการ เศรษฐกิจไทยอาการหนัก เศรษฐกิจไทยกำลังถดถอย คนไทยต้องรัดเข็มขัด หนี้เสียทะลักล้น ธนาคารไม่ปล่อยกู้ บ้านและคอนโดฯ ขายไม่ได้ เหลือบานเบอะล้นตลาด ฯลฯ 

แต่สงสัยหรือไม่ว่าทำไม ทักษิณ ชินวัตร และแพทองธาร ชินวัตร รวมถึงรัฐมนตรีบางคนจากพรรคเพื่อไทยยังคงพยายามบอกว่าปีหน้า (2568) เศรษฐกิจไทยจะดี จะเติบโตมากกว่าเดิม


ถามต่อไปว่า ระหว่างคำพูดของทักษิณกับแพทองธาร รวมถึงลิ่วล้อบริวารในพรรคเพื่อไทย กับการวิเคราะห์เชิงเศรษฐกิจโดยธนาคารต่างๆ และหน่วยงานด้านเศรษฐกิจทุกแห่งของไทย คุณผู้อ่านเชื่อคำพูดของใครมากกว่ากัน 

SCB EIC (SCB Economic Intelligence Center) ระบุว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะเติบโตที่ระดับ 2.8 เปอร์เซ็นต์ โดยเติบโตต่ำกว่าศักยภาพ แต่จะเกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจระหว่างคนรวยกับคนจนมากยิ่งขึ้น คนรวยจะรวยขึ้น คนจนจะจนลง

ไม่เพียงแค่สำนัก SCB EIC เท่านั้นที่พยากรณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะไม่เติบโต แต่กล่าวได้ว่าทุกสำนักที่ทำงานเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจไทยต่างก็มองไปในทิศทางเดียวกันคือ เศรษฐกิจไทยไม่เติบโต แต่อาจจะซบเซามากกว่าปี 2567 

โดยนักเศรษฐศาสตร์ และนักการเงินการธนาคาร รวมถึงบรรดาพ่อค้านักธุรกิจระดับประเทศต่างก็มองเศรษฐกิจไทยด้วยความเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่ง โดยทุกสำนักฯ มองไปในทิศทางที่ว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงขาลง และไม่ใช่ลงธรรมดา แต่อาจจะลงเหวก็ว่าได้ เพราะไม่มีปัจจัยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตเลยแม้แต่น้อย แถมกำลังซื้อในประเทศก็ลดลง การบริโภคภาคเอกชนก็จะชะลอตัวลง

มีการคาดการณ์โดยอาศัยตัวแปรทางเศรษฐกิจแล้ววิเคราะห์ได้ว่าเศรษฐกิจและธุรกิจไทย ในช่วงปี 2568 ไม่ดีและน่าจะไม่ดีเอาอย่างมากเสียด้วย ขอย้ำว่าทุกสำนักฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงขาลง

มีการระบุด้วยว่าตัวเลขการบริโภคภาคเอกชนในปี 2568 จะเติบโตแบบชะลอลงที่ 2.1 เปอร์เซ็นต์ จากระดับ 5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2567 ส่วนตัวเลขการส่งออกจะเติบโตเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ จากอัตรา 3.9 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2567 อันเนื่องมาจากปมปัญหาสินค้าจีนที่ล้นทะลักเข้ามาตีตลาดไทย ประกอบกับปัญหาหนี้ครัวเรือนของคนไทยอยู่ในระดับสูงมาก ดังจะพบว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยมีหนี้สูงเป็นประวัติการณ์

ผลการสำรวจระบุว่าคนไทยมีภาระหนี้สินครัวเรือนในปี 2567 สูงเป็นประวัติการณ์ โดยมีหนี้เฉลี่ยกว่า 6 แสนบาทต่อครัวเรือน สาเหตุสำคัญเกิดมาจากรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย และมีเหตุฉุกเฉินที่ทำให้ต้องใช้เงินโดยด่วน เมื่อไม่มีเงินเก็บ ก็ต้องกู้หนี้ยืมสิน อันเป็นสาเหตุให้มีหนี้สูงมาก นอกจากนี้ยังมีปัญหาค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันปรับสูงขึ้นทุกวัน ค่าอาหาร ค่าไฟฟ้า ค่าใช้จ่ายทุกชนิดต่างปรับขึ้นตลอดเวลา ทำให้คนไทยจำนวนมากต้องเป็นหนี้ และที่น่าเป็นห่วงมากคือคนไทยประมาณ 72 เปอร์เซ็นต์ที่ตอบแบบสอบถามเรื่องการเป็นหนี้ ตอบว่ากลุ่มของตนเป็นผู้ผิดชำระการใช้หนี้ในระยะเวลาช่วง 1 ปีที่ผ่านมา (อ้างอิงงานวิจัยของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัหอการค้าไทย) และจากงานวิจัยเดียวกันยังระบุอีกว่าสถานภาพหนี้ครัวเรือนไทย ปี 2567มีครัวเรือนไทยมีภาระหนี้สินเฉลี่ย 606,378 บาทต่อครัวเรือน นับเป็นมูลหนี้ระดับสูงที่สุดตั้งแต่เริ่มสำรวจในปี 2552 แต่ที่น่าวิตกคือคนไทยมีหนี้สินมากขึ้น

ส่วนข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ที่สำรวจจากประชากรไทยทั่วประเทศ ช่วง 1-7 กันยายน 2567 จำนวนตัวอย่าง 1,300 ตัวอย่าง พบว่าหนี้ครัวเรือนของคนไทยต่อ GDP ในช่วงไตรมาสแรกปี 2567 อยู่ที่ระดับ 90.8 เปอร์เซ็นต์

ขอย้ำตรงนี้ว่าคนไทยเป็นหนี้สูงมาก ในขณะที่ผู้มีเงินออมในประเทศไทยมีอัตราต่ำมาก เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ทำให้น่าวิตกว่าจะมีโอกาสเกิดวิกฤตเศรษฐกิจได้โดยไม่ยาก เพราะสังคมใดก็ตามที่ประชากรส่วนมากมีหนี้สินจำนวนมหาศาล ก็หมายถึงความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจของสังคมโดยรวม

ถามว่าทุกวันนี้ไทยมีรายได้เข้าประเทศจากทางใดบ้าง ก็ตอบว่า มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและจากการส่งสินค้าออก 

แม้ว่าการท่องเที่ยวยังเป็นตัวจักรกลสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยยังหมุนต่อไปได้ แต่ก็จะพบว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยก็จะไม่มากไปกว่าเดิม คือตั้งเป้าหมายไว้ที่ 40 ล้านคน แต่ก็คาดว่าจะมีตัวเลขเพียง 38 ล้านคนเท่านั้น แล้วก็ต้องไม่ลืมว่าแม้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น แต่อัตราค่าใช้จ่ายต่อหัวต่อวันก็ลดลง

ส่วนรายได้จากการส่งออกสินค้าไทยที่ยังช่วยให้เศรษฐกิจไทยพอจะหมุนได้บ้าง ก็น่าจะเผชิญแรงกดดันหนักขึ้นเมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนมกราคม 2568 ดังมีความวิตกว่าทรัมป์จะเก็บภาษีสินค้าเข้าจากประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐฯ หนักและมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งไทยก็ไม่หลุดพ้นจากปัญหานี้เช่นกัน 

คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบหนักจากมาตรการกีดกันการค้าโดยประธานาธิบดีทรัมป์ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2568 เป็นต้นไป อย่าลืมว่าไทยต้องเผชิญความเสี่ยงสูงมาก กับการถูกขึ้นภาษีนำเข้าโดยสหรัฐฯ 

ขอบอกว่าสินค้าไทยมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ จะตกเป็นกลุ่มสินค้าที่สหรัฐฯ ตั้งเป้าเก็บภาษีเพิ่ม เพื่อลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ และขณะเดียวกันทางการสหรัฐฯ ก็ต้องเพิ่มการสนับสนุนห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศให้มากขึ้นเพื่อทดแทนการนำสินค้าเข้า โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องจักร และคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

จึงคาดการณ์ว่าปี 2568 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวชะลอลงอยู่ที่ 2.4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต่ำกว่าระดับศักยภาพ 2.7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในทางเศรษฐศาสตร์นับได้ว่าเศรษฐกิจจะติดลบ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำลงไปอีก

นอกจากนี้ยังต้องไม่ลืมฉากทัศน์ของสถานการณ์โลกที่อาจจะร้ายแรงสุดๆ อันเกิดมาจากข้อขัดแย้งในเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ ที่อาจจะทวีความรุนแรงมากกว่าเดิมเพราะสงครามในตะวันออกกลาง กับสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนก็ยังหาความแน่นอนไม่ได้ แล้วก็ยังมีปัญหาในทะเลจีนใต้ และปัญหาความขัดแย้งระหว่างจีนกับไต้หวัน

แต่ที่ต้องไม่ลืมอีกกรณีคือ เรื่องปัญหาสินค้าจีนที่จะล้นทะลักเข้ามาในไทย ประกอบกับเศรษฐกิจจีนก็ไม่สดใสเหมือนเดิม เมื่อจีนมีปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาก็จะกระทบถึงไทยโดยไม่ต้องสงสัย และยากจะหลีกเลี่ยงได้

ในขณะที่ธนาคารก็ยังไม่น่าจะปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ขอกู้ที่ไม่มีความมั่นคงทางด้านการเงิน หรือไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพียงพอ ในเมื่อสภาวะการเงินตึงตัวมาก ๆ ธนาคารก็จำเป็นต้องระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้ขอกู้ที่ไม่มีความสามารถชำระหนี้ได้อย่างคงเส้นคงวา ดังนั้น จึงคาดว่าปี 2568 การเติบโตของสินเชื่อจะมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสเติบโตต่ำกว่า 2 เปอร์เซ็นต์

แต่น่ามหัศจรรย์ใจที่ทั้งทักษิณและแพทองธาร รวมถึงรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยยังคงเพ้อฝัน ฝันหวานว่าเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น จะเติบโตมากขึ้น โดยทักษิณอ้างว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโต 4-5 เปอร์เซ็นต์ ถามว่าทักษิณใช้ฐานคิดจากอะไร ใช้อะไรเป็นสมมุติฐานเพื่ออ้างว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโต 4-5 เปอร์เซ็นต์ 

การสร้างวิมานในอากาศคือการหลอกตัวเอง แล้วก็จงใจหลอกคนที่คิดไม่เป็น คิดไม่ทัน ไม่ทันคิด และไม่ชอบคิดในสังคมไทยไปพร้อมๆ กัน 

คำถามคือทำไมทักษิณกับแพทองธารต้องหลอกตัวเองตลอดเวลา แล้วขอถามปิดท้ายว่า คิดหรือว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยจะหลงเชื่อกับคำลวงของทักษิณกับแพทองธาร หรือทั้งสองคนอาจถือคติว่า หลอกคนอื่นไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร ขอหลอกตัวเองไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
17:11 น. 'สิริพงศ์' ย้ำ 'นายกฯอนุทิน' ไม่เพิกเฉยปัญหาสแกมเมอร์ ประชุมนัดแรก 20 ต.ค. นี้
17:00 น. 'กัมพูชา'เรียกร้องสหรัฐฯ-อังกฤษ สอบสวนคดี'เฉิน จื้อ'ด้วยความเป็นธรรม
16:54 น. ชลน่าน ชี้ รธน.ใหม่ กรอบเวลาต้องชัด หากทำไม่ทันจะสูญเปล่า เชื่อร่างพท.ถูกตีตก เพราะการเมือง
16:50 น. จยย.ขี่ย้อนศร! ชนประสานงากับรถ SUV คนขี่สาหัส-กู้ภัยเร่งปั๊มหัวใจยื้อชีวิต
16:44 น. เพื่อไทย เตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ล็อต 2 มีชื่อ'อดีตส.ก.-ส.ส.'ด้วย
ดูทั้งหมด
ร้านอาหารจีนในไทยสวนกระแสทูตจีน ติด'หน้าฮุนเซน'พื้นทางเข้าร้าน ลูกค้าทั้งเหยียบทั้งขยี้ฉ่ำ
‘กรรชัย’เป็นดาราไม่ใช่สื่อ ‘ใบตองแห้ง’อัด‘สัญลักษณ์ยุคตกต่ำ’
‘กัน จอมพลัง’เปิดประวัติ‘เขมร’อพยพพึ่งใบบุญไทย แทนเสียงผี ดัดหลัง‘มาลี’ฟ้องIOT
สะพัด‘อนุทิน’ชง‘ครม.’โยกย้าย‘บิ๊กมท.’หลายตำแหน่ง ‘4อธิบดี’ไม่รอด ‘น้ำเงิน’ผงาด
(คลิป) 'เจ๊ปอง'สั่งลุย! ส่ง'ดร.มัลลิกา'ต้องยึดเก้าอี้ 'ผู้ว่าฯกทม'ให้ได้
ดูทั้งหมด
สว.-สส.‘3 ไส้ศึกเขมร’
ทรัมป์พยายามเล่นเรื่องสันติภาพ แล้วปูติน กับสี จิ้นผิง จะว่าอย่างไร?
เอาคืน
นักสิทธิฯ เพื่อใคร?
บุคคลแนวหน้า : 16 ตุลาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'กัมพูชา'เรียกร้องสหรัฐฯ-อังกฤษ สอบสวนคดี'เฉิน จื้อ'ด้วยความเป็นธรรม

ชลน่าน ชี้ รธน.ใหม่ กรอบเวลาต้องชัด หากทำไม่ทันจะสูญเปล่า เชื่อร่างพท.ถูกตีตก เพราะการเมือง

เพื่อไทย เตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ล็อต 2 มีชื่อ'อดีตส.ก.-ส.ส.'ด้วย

สัญญาณดี! เกาหลีใต้'สนใจลงทุน'ในไทย ผนึกกำลังปราบ'คอลเซ็นเตอร์'ในเขมร

พ่อเลี้ยงเปิดปากแล้ว! ปมสังหารโหด'หนุ่มป่วยทางจิต'

WHOเตือนแรง! ระวังยาน้ำแก้ไอ3ยี่ห้อ ปนเปื้อนสารพิษอันตรายทำเด็กเสียชีวิตเพียบ

  • Breaking News
  • \'สิริพงศ์\' ย้ำ \'นายกฯอนุทิน\' ไม่เพิกเฉยปัญหาสแกมเมอร์ ประชุมนัดแรก 20 ต.ค. นี้ 'สิริพงศ์' ย้ำ 'นายกฯอนุทิน' ไม่เพิกเฉยปัญหาสแกมเมอร์ ประชุมนัดแรก 20 ต.ค. นี้
  • \'กัมพูชา\'เรียกร้องสหรัฐฯ-อังกฤษ สอบสวนคดี\'เฉิน จื้อ\'ด้วยความเป็นธรรม 'กัมพูชา'เรียกร้องสหรัฐฯ-อังกฤษ สอบสวนคดี'เฉิน จื้อ'ด้วยความเป็นธรรม
  • ชลน่าน ชี้ รธน.ใหม่ กรอบเวลาต้องชัด หากทำไม่ทันจะสูญเปล่า เชื่อร่างพท.ถูกตีตก เพราะการเมือง ชลน่าน ชี้ รธน.ใหม่ กรอบเวลาต้องชัด หากทำไม่ทันจะสูญเปล่า เชื่อร่างพท.ถูกตีตก เพราะการเมือง
  • จยย.ขี่ย้อนศร! ชนประสานงากับรถ SUV คนขี่สาหัส-กู้ภัยเร่งปั๊มหัวใจยื้อชีวิต จยย.ขี่ย้อนศร! ชนประสานงากับรถ SUV คนขี่สาหัส-กู้ภัยเร่งปั๊มหัวใจยื้อชีวิต
  • เพื่อไทย เตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ล็อต 2 มีชื่อ\'อดีตส.ก.-ส.ส.\'ด้วย เพื่อไทย เตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ล็อต 2 มีชื่อ'อดีตส.ก.-ส.ส.'ด้วย
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

สื่อฯ ทาส หรือทาสสื่อฯ

สื่อฯ ทาส หรือทาสสื่อฯ

12 ต.ค. 2568

ขออภัยโทษ แต่ไม่รับโทษ

ขออภัยโทษ แต่ไม่รับโทษ

5 ต.ค. 2568

ทักษิณ ชินวัตร จงใจเป็นข่าวตลอดเวลา

ทักษิณ ชินวัตร จงใจเป็นข่าวตลอดเวลา

28 ก.ย. 2568

เพื่อไทยจะส่งพจมานไปแก้เกมการเมือง หรือไม่

เพื่อไทยจะส่งพจมานไปแก้เกมการเมือง หรือไม่

21 ก.ย. 2568

เพ้อพล่ามตามแบบคนสอนหนังสือที่เลื่อนลอย

เพ้อพล่ามตามแบบคนสอนหนังสือที่เลื่อนลอย

14 ก.ย. 2568

ทักษิณหนีคดีอีกแล้ว แต่จะไม่กลับมาอีก???

ทักษิณหนีคดีอีกแล้ว แต่จะไม่กลับมาอีก???

7 ก.ย. 2568

มีนายกรัฐมนตรีใหม่ ประเทศไทยจะดีขึ้นหรือไม่

มีนายกรัฐมนตรีใหม่ ประเทศไทยจะดีขึ้นหรือไม่

31 ส.ค. 2568

นายกรัฐมนตรีขายชาติได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย ใช่ไหม

นายกรัฐมนตรีขายชาติได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย ใช่ไหม

24 ส.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved