อดีตนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยเดินทางไปเยือนจีน หารือทวิภาคีกับสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและท่านสี จิ้นผิง ก็เคยเดินทางมาเยือนไทย พบปะหารือกับนายกฯ ลุงตู่ ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงความร่วมมือกันมากมาย ทุกมิติ ไทย-จีนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง มีผลประโยชน์ของชาติร่วมกันมหาศาล ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
บริบทการเมืองในประเทศของไทย มีพรรคการเมืองบางพรรค กลุ่มการเมือง เครือข่ายแนวร่วมที่สนับสนุนม็อบสามนิ้วจะมีแนวทางเป็นปฏิปักษ์กับจีนชัดเจน ทั้งด้อยค่าวัคซีนจีนนักท่องเที่ยวจีน เป็นปฏิปักษ์จีนในประเด็นฮ่องกง ไต้หวัน หรือแม้แต่รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน พรรคส้มเอาโครงการไฮเปอร์ลูปที่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมาพยายามแทนที่รถไฟความเร็วสูงจีน นอกจากนี้ ยังมีแนวทางสอดรับกับนโยบายต่างประเทศสหรัฐแทบทุกเรื่อง ซึ่งล้วนเป็นปฏิปักษ์กับจีน ฯลฯ
บริบทการเมืองโลก ขณะนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐอเมริกา กำลังทำสงครามการค้ากับจีน และเชื่อแน่ว่า สหรัฐจะทำทุกวิถีทางเพื่อกดดัน ขัดขวาง สะกัดกั้นความร่วมมือระหว่างจีนไทย หวังปิดล้อมอิทธิพลอำนาจของจีน เหมือนที่กำลังทำกับประเทศอื่นๆ จึงเป็นปีที่ท้าทายมากว่าไทยจะเดินนโยบายที่พอเหมาะพอดีได้อย่างไรเพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดของประเทศไว้ได้
ล่าสุด นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร เดินทางไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการ ตรงกับวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย “ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย” โดยมีรัฐมนตรีร่วมคณะไปด้วยหลายคน อาทิ รมว.คลัง นายพิชัย ชุณหวชิร, รมว.คมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, มท.1
นายอนุทิน ชาญวีรกูล, รมว.ดีอี นายประเสิรฐ จันทรรวงทอง, รมว.เกษตรฯ นางสาวนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นต้น
การเดินทางไปเยือนจีนของนายกฯไทยครั้งนี้ ในสายตาสื่อจีน เป็นอย่างไร?
1.สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน
China Xinhua News สื่อจีน รายงานว่า
“สี จิ้นผิง หนุน “จีน-ไทย” ยกระดับร่วมมือ ฉลองปีทองแห่งมิตรภาพ
…วันพฤหัสบดี (6 ก.พ.) สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้พบปะหารือกับแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ณ กรุงปักกิ่งของจีน โดยสี จิ้นผิง กล่าวว่า ปี 2025 ตรงกับวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย รวมถึง “ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย” ซึ่งทั้งสองฝ่ายควรสานต่อความสำเร็จและทำงานร่วมกันเพื่อเดินหน้าการสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกัน เพื่อส่งมอบผลประโยชน์แก่ประชาชนสองประเทศ ภูมิภาค และโลกเพิ่มขึ้น
ยามเผชิญการเปลี่ยนแปลงอันลึกซึ้งที่ไม่เคยพบในรอบศตวรรษ
จีนและไทยควรเสริมสร้างความไว้วางใจเชิงยุทธศาสตร์ซึ่งกันและกัน สนับสนุนอีกฝ่ายอย่างหนักแน่น และรับมือกับความไม่แน่นอนของสภาพแวดล้อมภายนอกด้วยความมั่นคงและความเชื่อมั่นในความสัมพันธ์จีน-ไทย โดยจีนพร้อมทำงานร่วมกับไทยเพื่อประสานยุทธศาสตร์การพัฒนา ขยายความร่วมมือที่ได้ประโยชน์ร่วมกัน ดำเนินโครงการสำคัญอย่างทางรถไฟจีน-ไทย และส่งเสริมวิสัยทัศน์พัฒนาการเชื่อมต่อจีน ลาว และไทย เพื่อบรรลุผลลัพธ์อันดีโดยเร็ว
สี จิ้นผิง เรียกร้องความพยายามกระชับความร่วมมือในอุตสาหกรรมเกิดใหม่ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัลและยานยนต์พลังงานใหม่ สร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานที่มีความมั่นคงและความราบรื่นเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน จีนชื่นชมมาตรการอันมีประสิทธิภาพของไทยในการปราบปรามการพนันออนไลน์และการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม ซึ่งทั้งสองฝ่ายควรเดินหน้าเสริมสร้างการบังคับใช้กฎหมาย ความร่วมมือด้านความมั่นคงและตุลาการ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาค
ทั้งสองฝ่ายควรร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตทวิภาคี และเพิ่มพูนความเข้าใจซึ่งกันและกันและสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชนสองประเทศ ขณะเดียวกัน จีนสนับสนุนบทบาทของไทยในการเป็นประธานร่วมของกรอบความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง และแสดงความยินดีที่ไทยกำลังจะกลายเป็นประเทศหุ้นส่วนของกลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS) ด้วย
สี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนพร้อมทำงานใกล้ชิดร่วมกับไทยเพื่อปกป้องระบบระหว่างประเทศอันมีสหประชาชาติ (UN) เป็นแกนกลางและระเบียบระหว่างประเทศบนพื้นฐานกฎหมายระหว่างประเทศ ขยับขยายความสามัคคีกลมเกลียวและความร่วมมือในโลกใต้ (Global South) คุ้มครองสันติภาพโลก และส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน…”
China Xinhua News ยังเจาะจงรายงานเพิ่มเติมอีกด้วยว่า
“สี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนชื่นชมความพยายามและมาตรการอันมีประสิทธิภาพของไทยในการปราบปรามการพนันออนไลน์และการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม โดยทั้งสองฝ่ายควรเดินหน้าเสริมสร้างการบังคับใช้กฎหมาย ความร่วมมือด้านความมั่นคงและตุลาการ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงรักษาการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคที่ราบรื่น
แพทองธารกล่าวว่าไทยยินดีจะเสริมสร้างความร่วมมือบังคับใช้กฎหมายกับจีนและกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านแห่งอื่นๆ และจะดำเนินมาตรการอันมีประสิทธิภาพขั้นเด็ดขาดเพื่อปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดน ซึ่งรวมถึงการพนันออนไลน์และการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม”
2.หลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน
China Xinhua News รายงานผลการประชุมร่วมกัน ระบุว่า
“หลี่ เฉียง หารือแพทองธาร หนุนสัมพันธ์จีน-ไทยสู่ระดับใหม่
…เมื่อวันพฤหัสบดี (6 ก.พ.) หลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้หารือกับแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ณ กรุงปักกิ่ง โดยหลี่กล่าวว่า ปีนี้ตรงกับวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย และ “ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย” ซึ่งจีนให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสัมพันธ์กับไทยในการทูตเพื่อนบ้านเสมอมา
หลี่กล่าวว่าจีนพร้อมทำงานร่วมกับไทยเพื่อดำเนินการตามแนวปฏิบัติเชิงยุทธศาสตร์ของคณะผู้นำสองประเทศ รักษาการแลกเปลี่ยนระดับสูงอันใกล้ชิด และเสริมสร้างความไว้วางใจเชิงยุทธศาสตร์ซึ่งกันและกัน เพื่อผลักดันความสัมพันธ์จีน-ไทยสู่ระดับใหม่ และนำพาผลประโยชน์มาสู่ประชาชนสองประเทศเพิ่มขึ้น
จีนพร้อมทำงานร่วมกับไทยเพื่อส่งเสริมการประสานงานระหว่างความร่วมมือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางที่มีคุณภาพสูงกับยุทธศาสตร์การพัฒนาของไทย ดำเนินแผนปฏิบัติการร่วมความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์จีน-ไทย ระยะ 5 ปี เดินหน้า ยกระดับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การเชื่อมต่อนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม การท่องเที่ยว เยาวชน สุขภาพ และสื่อมวลชน
หลี่กล่าวว่ามีการส่งเสริมบริษัทผู้ประกอบการของจีนเข้าลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นและสำรวจศักยภาพความร่วมมือในอุตสาหกรรมเกิดใหม่ เช่น ยานยนต์พลังงานใหม่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจของสองประเทศได้ดียิ่งขึ้น
ทั้งสองฝ่ายควรเสริมสร้างความแข็งแกร่งของความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายและความมั่นคง รวมถึงปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และจีนสนับสนุนไทยในการเป็นประธานร่วมของกรอบความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง และประธานกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD) และพร้อมเสริมสร้างความร่วมมือกับไทยภายใต้กรอบการทำงานจีน-อาเซียน…
...ทั้งนี้ หลี่และแพทองธารได้ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามเอกสารความร่วมมือทวิภาคีหลายฉบับเกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ การตรวจสอบและการกักกันทางศุลกากร และการพัฒนาอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย”
3.ความร่วมมือทวิภาคีหลายฉบับที่ไทย-จีน ลงนามร่วมกันในครั้งนี้ ครอบคลุมหลายเรื่อง
กล่าวโดยสรุป ดังนี้
ประเด็นทิศทางความร่วมมือระหว่างไทย-จีน ได้บรรลุแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการพัฒนาความสัมพันธ์ไทย-จีน สู่ระดับสูงสุด บนพื้นฐานของวิสัยทัศน์ที่มองไปข้างหน้า และให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง (เป็นทิศทางร่วมของทั้งสองรัฐบาล)
ประเด็นเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ ได้แก่ บันทึกความเข้าใจ (MOU) ด้าน AI ระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของไทย กับคณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน, MOU จัดตั้งห้องปฏิบัติการ AI ร่วมกัน ระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมของไทย กับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีน
ประเด็นการพัฒนาเศรษฐกิจและการลงทุน ได้แก่ MOU ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ ระหว่างสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของไทย กับคณะกรรมาธิการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน, MOU ด้านการลงทุนสีเขียว ระหว่างกระทรวงพลังงานของไทย กับกระทรวงพาณิชย์ของจีน, MOU ด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กับกระทรวงพาณิชย์ของจีน
ประเด็นการค้าและโลจิสติกส์ ได้แก่ พิธีสารว่าด้วย มาตรฐานสุขอนามัยและกักกันโรค สำหรับผลิตภัณฑ์ประมงไทยที่ส่งออกไปจีน, กรอบความตกลงเรื่อง การเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียวเพื่อการค้าข้ามแดน ระหว่างกรมศุลกากรของทั้งสองประเทศ, ข้อตกลง ยอมรับร่วมกันของโครงการ AEO (Authorized Economic Operator) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการส่งออกไทย-จีน
ประเด็นเทคโนโลยีอวกาศและพลังงานนิวเคลียร์ ได้แก่ MOU สำรวจอวกาศดวงจันทร์ ไทย-จีน ภายใต้โครงการฉางเอ๋อ-7, MOU ความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ ระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษาของไทย กับองค์การพลังงานปรมาณูแห่งชาติจีน
ประเด็นการสื่อสารและข้อมูลข่าวสาร ได้แก่ MOU ด้านไปรษณีย์และโลจิสติกส์ ระหว่างกระทรวงดิจิทัลฯ ของไทยกับการไปรษณีย์แห่งชาติจีน, MOU การแลกเปลี่ยนข่าวสาร ระหว่างกรมประชาสัมพันธ์ของไทย กับสำนักข่าวซินหัว, MOU ความร่วมมือด้านสื่อ ระหว่างองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (Thai PBS) กับ China Media Group
4.พิจารณาแล้ว เห็นว่า จีนต้องการให้ไทยหนักแน่นในการรับมือกับความท้าทายใหม่ (คือ นโยบายสหรัฐยุคทรัมป์ 2.0) ยกระดับความสัมพันธ์กับจีนขึ้นไปอีก เพื่อผลประโยชน์ที่จะได้รับเพิ่มขึ้น
จีนต้องการร่วมปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่อเนื่อง โดยร่วมกับไทยและชาติอาเซียน
จีนสนับสนุนโครงการรถไฟไทย - จีน เชื่อมต่อไทยสปป.ลาว และจีน
จีนจะสนับสนุนบทบาทของไทยในเวทีต่างๆ รวมทั้ง BRICS ด้วย ฯลฯ
โดยรัฐบาลไทยก็แสดงท่าทีตอบรับชัดเจน ทั้งการตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การอนุมัติรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟสสอง โคราช-หนองคาย เชื่อมไปลาว-จีน ก่อนเดินทางไปจีนครั้งนี้
เห็นได้ว่า แนวทางที่รัฐบาลปัจจุบันเดินหน้าความสัมพันธ์กับจีนนั้น คือ การสานต่อและต่อยอดจากสิ่งที่รัฐบาลลุงตู่ดำเนินการไว้แล้วทั้งสิ้น ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ถูกต้อง เหมาะสม เป็นประโยชน์กับประเทศไทยส่วนรวม และควรได้รับการสนับสนุนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของทีมประเทศไทย
สันติสุข มะโรงศรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี