แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...

nn จะต้องควบคุมความคิดจิตใจให้สงบหนักแน่น และให้มั่นคงแน่วแน่ในเหตุผล ในความเป็นกลางอยู่เป็นปรกติ แม้ในเวลาที่มีเหตุชวนให้วุ่นวายสับสน ก็สามารถควบคุมไว้ได้ ความคิดจิตใจที่สงบหนักแน่นและเป็นกลางห่างจากอคตินี้ จะช่วยให้มีสติความระลึกรู้ถึงเหตุถึงผล ถึงข้อเท็จจริง ถึงความถูกผิดของเรื่องทั้งปวง และช่วยให้มองเห็นปัญหาได้กระจ่างแจ่มชัด สามารถวินิจฉัยชี้ขาดได้ถูกต้องเที่ยงตรง เป็นประโยชน์เสมอ ไม่มีอับจน...(ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 14 กรกฎาคม 2531) ...

nn การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ (หากตั้งใจจะให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจจริงๆ) คือการเล่นเกมชิงอำนาจรัฐอย่างเข้มข้นระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคเพื่อไทย งานนี้เป้าหมายสำคัญที่พรรคประชาชนต้องการเล่นงานมากที่สุดคือ สทร.ทักษิณ ชินวัตร และยังพยายามแสดงตนว่าเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงที่ชักใยบงการนายกรัฐมนตรีหุ่นกระบอก แพทองธาร ชินวัตร...

nn สิ่งหนึ่งที่ทั้งพรรคประชาชน และสาธารณชนรับรู้เป็นอย่างดีตรงกันคือ แพทองธารไม่มีความสามารถในการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี นอกจากไร้ความสามารถในการทำงานแล้ว ยังแสดงตัวให้เห็นชัดว่าไร้กาลเทศะ ไร้วิจารณญาณ และไร้สติ จึงต้องปล่อยให้ทักษิณบงการในทุกสิ่งอย่าง...

nn แน่นอนว่าการที่พรรคประชาชนยอมประกาศว่าไม่พูดชื่อทักษิณ ชินวัตร ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจแพทองธาร แต่ต่อให้ไม่พูดชื่อทักษิณตรงๆ แต่พูดแค่ สทร. หรือพ่อของแพทองธาร หรือนักโทษหนีคดีที่ไม่ยอมติดคุก หรือชายที่อ้างว่าป่วยทิพย์แล้วไปอ้างว่าฝังตัวอยู่บนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ หรือ Tony Woodsome ก็ทำให้คนทั่วไปที่ติดตามข่าวการเมืองไทยรู้โดยพลันว่าหมายถึง ทักษิณ ชินวัตร...

nn ประเด็นสำคัญของการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ได้อยู่ที่การเอ่ยชื่อทักษิณ แต่มันอยู่ที่การใช้ข้อมูลข้อเท็จจริงเพื่อบดขยี้ และประจานพฤติกรรมของคนที่เป็นพ่อของ แพทองธาร กลางสภา ควบคู่ไปกับการประจานความไร้สาระ ไร้สติสิ้นปัญญาของ แพทองธาร เพราะฉะนั้น รอดูวันอภิปรายฯ ก็แล้วกันว่า แพฯ จะอยู่ในห้องประชุมนานกี่นาที แล้วจะตอบคำถามเอง หรือจะโยนให้องครักษ์ตอบแทน หากแพฯ จะตอบเอง ก็น่าสนใจว่าจะพูดรู้เรื่องหรือไม่...

nn ต้องย้ำๆๆ ว่าทักษิณเป็นคนที่ไม่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเขากลัวการถูกอภิปรายฯ เขาจึงทำทุกหนทางเพื่อหนีการถูกเปิดอภิปรายฯ ดังนั้น จึงไม่ประหลาดใจที่สังคมจะได้ยินทักษิณถามว่า อภิปรายฯ เขาเพราะอะไร เขาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และขอให้ทำอะไรตามหลักเกณฑ์ อย่าทำให้น่ารำคาญ นั่นคือการแสดงความหวาดกลัวออกมาอย่างชัดเจนจากปากของทักษิณ...

nn มีคำถามจากวิญญูชนถึงทักษิณตลอดเวลาว่า ทุกครั้งที่ทักษิณอ้างว่าไปเจรจากับ BRN หรือให้ไปเรียกทูตจาก EU มาหารือ หรืออ้างว่าผมสั่งการสารพัดเรื่องให้ต้องทำสิ่งต่างๆ เช่น ลดค่าไฟฟ้า แก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ หรือแก้ปัญหาความไม่สงบในเมียนมา หรือแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำถามคือทักษิณสั่งการใคร ทักษิณมีอำนาจสั่งการได้อย่างไร แล้วทำไมทุกคำพูดของทักษิณจึงต้องถูกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยนำไปพูดต่อ ราวกับได้รับคำบัญชาโดยตรงจากนายกรัฐมนตรี...

nn พรรคประชาชนต้องกลับไปถามธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ และผู้นำจิตวิญญาณของพรรคประชาชนว่า มีความเกี่ยวพันใดๆ กับทักษิณหรือไม่ ทำไมทักษิณจึงอ้างชื่อธนาธรเมื่อนักข่าวถามทักษิณเรื่องการอภิปรายฯ โดยพรรคประชาชน เรื่องที่ทักษิณอ้างธนาธรไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมาย เพราะคอการเมืองต่างรู้ดีว่าทักษิณกับธนาธรต้องเจรจากันเป็นระยะๆ และไม่มีวันเจรจาเรื่องลูกๆ หลานๆ ตามที่ธนาธรเคยอ้างแบบส่งเดชเมื่อถูกนักข่าวต้อนหลังจากจับได้ว่าธนาธรบินไปพบทักษิณที่ฮ่องกง...

nn แพทองธาร จะไปชี้แจงคำอภิปรายฯ ของฝ่านค้านหรือไม่ เรื่องนี้ยังเป็นประเด็นที่คอการเมืองติดตามเฝ้าสังเกต หลายคนบอกว่าแพทองธารไม่ต้องการให้มีการอภิปรายฯ แต่ก็ยังคงฝืนตอบแบบเล่นละครเมื่อถูกนักข่าวถาม โดยเมื่อนักข่าวถามประเด็นอภิปรายฯ 30 ชั่วโมง แพฯ ก็ตอบว่า ได้ค่ะ ตามจริงได้วางแผนไว้แล้ว ถ้าอภิปรายฯ ก็ไปฟังอยู่แล้ว และคงอยู่ที่สภาเพื่อเตรียมตัว และเตรียมคำตอบตามนั้นไป ไม่มีอะไร surprise ...

nn ลองวิเคราะห์คำตอบของแพฯ แล้วจะเห็นว่า ทุกอย่างลอยๆ ไม่มีความมั่นคง ไม่ชัดเจน โดยเฉพาะถ้ามีอภิปรายฯ หมายความว่าอย่างไรกับคำคำนี้ หมายถึงจะไม่มีการอภิปรายฯ หรืออย่างไร อันที่จริง หากแพฯ กล้าหาญและต้องการแสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ใจในการทำหน้าที่นายกฯ ก็ต้องบอกให้ลิ่วล้อบริวารในพรรคเพื่อไทยปล่อยให้เปิดอภิปรายฯ ได้โดยสะดวก เพราะดิฉันต้องการตอบทุกคำถามของพรรคประชาชน คำถามคือ ระหว่างแพฯ กับชายคนนั้นที่เป็นพ่อของแพฯ ใครกันแน่ที่กลัวการถูกอภิปรายฯ หรือว่ากลัวทั้งสองคน...

nn โลกในยุคที่สหรัฐฯ มีประธานาธิบดีผู้เต็มไปด้วยคดีความต่างๆ ซึ่งคนคนนั้นชื่อโดนัลด์ ทรัมป์ เขาเข้าดำรงตำแหน่งในวาระที่สอง ส่งผลให้โลกกำลังเข้าใกล้การเกิดสภาวะไร้ระเบียบมากขึ้นทุกขณะ แต่ก็ต้องบอกว่าการอุบัติขึ้นของทรัมป์ 2.0 ทำให้ยุโรปตะวันตกสามารถจับมือกันได้มากขึ้น แล้วพยายามเข้ามารับผิดชอบโลกมากกว่าเดิม หลังจากที่ปล่อยให้สหรัฐฯ ทำตัวเป็นตำรวจโลกมาหลายทศวรรษ หลังจากจบสงครามโลกครั้งที่สอง...

nn ยุคนี้ สหรัฐฯ ถูกประชาคมโลกมองว่าทำตัวเป็นเสมือนอันธพาลสร้างความปั่นป่วน สร้างปัญหาให้โลก เพราะฉะนั้น จึงทำให้นักวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองโลกจับตาเฝ้าสังเกตว่า หากผู้นำสหรัฐฯ ยังคงแสดงความบ้าบอเช่นนี้ต่อไป คนอเมริกันจะยังอดทนได้อีกนานแค่ไหนขณะเดียวกันก็เฝ้ามองว่า ในที่สุดแล้วยุโรปตะวันตกจะหันไปจับมือกับจีนได้แน่นแฟ้นมากขึ้นหรือไม่ เพราะต่อให้ยุโรปตะวันตกอาจจะมองว่าจีนมีการปกครองที่ต่างจากตนเอง แต่เมื่อเห็นพฤติกรรมพิสดารของทรัมป์แล้ว ก็อาจทำให้กลุ่มยุโรปตะวันตกคิดว่าการจับมือกับจีน น่าจะไม่เสียหายอะไร เพราะดีกว่าปล่อยให้ทรัมป์แสดงความบ้าบอต่อไป...

nn อีกสิ่งที่นักวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองโลกเฝ้าสังเกตก็คือ หากทรัมป์ยังคงแสดงความไร้สาระต่อไป สุดท้ายแล้วสหรัฐฯ จะสูญเสียอิทธิพลในฐานะมหาอำนาจชั้นนำของโลกหรือไม่ แล้วสหรัฐฯ จะวางตัวอย่างไรเมื่อสิ้นไร้พันธมิตรจากยุโรปตะวันตก หลายคนกำลังเฝ้าดูว่า หากสหรัฐฯ ถูกยุโรปตะวันตก และอีกสารพัดประเทศในมุมต่างๆ ของโลกเลิกคบค้าสมาคมด้วย และไม่พึ่งพาพึ่งพิงสหรัฐฯ อีกต่อไป หากวันนั้นมาถึงจริงๆ สหรัฐฯ จะเผชิญกับสภาวะเอ๋อหนักสักเพียงใด...

nn แน่นอนว่า ในวันนี้ขณะนี้ สหรัฐฯ ยังดูเสมือนว่ายังยิ่งใหญ่ แต่ในความจริงนั้น ความยิ่งใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ลดลงทุกขณะ เพราะมีคู่แข่งรายสำคัญคือ จีน แม้ความจริงจะรู้ว่าจีนยังไม่สามารถเอาชนะสหรัฐฯได้ทุกแง่มุม แต่ก็ต้องยอมรับว่าหลายแง่มุมนั้นจีนไม่ด้อยกว่าสหรัฐฯ โดยเฉพาะเรื่องไฮเทคโนโลยี แต่ถึงแม้เงินดอลลาร์สหรัฐ จะยังทรงอิทธิพลในยุคนี้แต่ก็มีความพยายามจะสร้างเงินสกุลอื่นขึ้นมาดับรัศมีของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ทุกขณะ ซึ่งเรื่องนี้ทรัมป์รู้ดี และสหรัฐฯ ก็รู้ดี จึงพยายามโจมตีคู่แข่งให้เลิกคิดที่จะแข่งกับสหรัฐฯ แต่ขอบอกว่าไม่มีทางที่สหรัฐฯ จะอยู่ยั้งยืนยงได้ตลอดไป ไม่ต้องดูอะไรอื่นไกล แค่ดูจากประวัติศาสตร์การล่มสลายของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ก็เห็นชัดแล้ว และก็ขอยืนยันว่าสหรัฐฯ ก็จะต้องพบกับความล่มสลายในอนาคต แล้วยิ่งมีตัวเร่งความล่มสลายให้มากขึ้นเร็วขึ้นอย่างทรัมป์ ก็ไม่ต้องสงสัยว่าความวิบัติของสหรัฐฯ กำลังคืบคลานเข้ามาในอัตราเร่งที่น่าวิตกมาก...nn

ธรรมกร