วันพุธ ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

ดูทั้งหมด

  •  

ถึงแม้ว่ากรุงศรีอยุธยาจะต้องต่อสู้กับกองทัพหงสาวดีที่มีกำลังพลมากกว่า ๔ แสนนาย และที่สำคัญกว่านั้นก็คือผู้นำทัพคือพระมหากษัตริย์ที่ได้ชื่อว่า ผู้ชนะสิบทิศหรือพระเจ้าบุเรงนอง พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรหงสาวดีก็ตาม แต่กรุงศรีอยุธยาภายใต้การนำทัพของสมเด็จพระเจ้าจักรพรรดิ และสมเด็จพระมหินทราธิราช ก็สามารถต้านทานกองทัพหงสาวดีอยู่ได้นานถึง ๘ เดือนก่อนที่จะเสียอิสรภาพ

ในปีพ.ศ ๒๑๐๖ ซึ่งเป็นปีที่สมเด็จพระมหาจักรพรรดิครองราชย์ พระองค์ได้สมญานามว่าพระเจ้าช้างเผือกเนื่องจากในช่วงเวลานั้นพระองค์ได้ครอบครองช้างเผือกถึง ๗ เชือก มากกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใด เป็นเครื่องแสดงถึงบุญญาบารมีของพระองค์


ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้พระเจ้าบุเรงนอง มีความปรารถนาที่จะได้ช้างเผือกบางส่วนมาครอบครองเพื่อเสริมพระบารมีบ้าง จึงได้ส่งราชทูตมาขอช้างเผือกจำนวน ๒ เชือกจากสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ แต่เมื่อได้รับการปฏิเสธจึงต้องยกทัพมารุกรานกรุงศรีอยุธยา

สงครามที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นจึงได้ชื่อว่าสงครามช้างเผือก โดยพระเจ้าบุเรงนอง ได้ยกทัพมีกำลังพล ๖๐,๐๐๐ คนเข้าบุกกรุงศรีอยุธยา ใช้ปืนใหญ่ระดมยิงเข้าไปในพระนคร จนสมเด็จพระมหาจักรพรรดิเห็นว่าอาจจะต้านทานทัพหงสาวดีไม่ได้ จึงเจรจาขอสงบศึก

พระเจ้าบุเรงนองทรงยินยอมโดยมีข้อแม้ว่าขอนำพระราเมศวร พระราชโอรสในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พระยาจักรีซึ่งเป็นแม่ทัพคนสำคัญและพระยาสุนทรสงครามกลับไปยังพม่าด้วยในฐานะเชลย พร้อมกับช้างเผือก ๔ เชือก และยังต้องส่งราชบรรณาการทั้งช้างและเงินให้กับหงสาวดีทุกปีด้วย ทำให้กรุงศรีอยุธยา ต้องตกเป็นเสมือนประเทศราชในครั้งกระนั้น

พงศาวดารของพม่าระบุว่า สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ถูกนำตัวไปยังหงสาวดีด้วยและทรงผนวช ซึ่งต่อมาพระเจ้าบุเรงนองได้อนุญาตให้พระองค์เสด็จกลับมายังอยุธยา โดยในช่วงเวลาดังกล่าวสมเด็จพระมหินทราธิราช พระราชโอรสทรงปกครองแผ่นดินอยู่

ในเดือนตุลาคมปี พ.ศ. ๒๑๑๑ อยุธยาได้ก่อกบฏ ทำให้พระเจ้าบุเรงนองต้องยกทัพกลับมายังอยุธยาอีกครั้งหนึ่ง โดยครั้งนี้ยกเข้ามาทางด่านแม่ละเมาเมืองตาก รวมทั้งหมด ๗ ทัพ ประกอบด้วยทัพของพระมหาอุปราชา เจ้าเมืองแปร เจ้าเมืองตองอู เจ้าเมืองอังวะ เจ้าเมืองเชียงใหม่ และเชียงตุง เข้ามาทางเมืองกำแพงเพชร โดยได้ยึดหัวเมืองทางเหนือรวมทั้งพิษณุโลกให้มาร่วมสงครามด้วย ได้จำนวน ทหารมากกว่า ๔ แสนนาย โดยกรุงศรีอยุธยายังคงตั้งรับอยู่ภายในพระนคร

ทัพของกรุงศรีอยุธยาได้ใช้ปืนใหญ่ในการยิงโต้ตอบกับปืนใหญ่ของทัพพม่า ปืนใหญ่ที่มีชื่อเสียงมากคือปืนนารายณ์สังหาร ทำให้ทัพพม่าที่ตั้งอยู่บริเวณทุ่งลุมพีเสียหายเป็นอย่างมาก และต้องถอยทัพออกไปตั้งที่บ้านพราหมณ์ ให้พ้นจากระยะยิงของปืนใหญ่

พระเจ้าบุเรงนองทรงทราบทำเลที่ตั้งของกรุงศรีอยุธยาเป็นอย่างดีว่ามีน้ำล้อมรอบ จึงสั่งให้ทัพพม่าเน้นเข้าตีทางด้านตะวันออกเพราะมีคูเมืองแคบที่สุด และพยายามทำสะพานข้ามคูเมือง โดยการถมดินจำนวนมาก แต่ทหารไทยก็ใช้ปืนใหญ่ยิงถล่มทหารพม่าล้มตายเป็นจำนวนมาก ข้ามคูเมืองไม่ได้

ทัพของพระเจ้าบุเรงนอง โจมตีอยู่จนถึงเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๑๑๒ แม้จะเสียไพร่พลจำนวนมากแต่ก็ยังเอาชนะไม่ได้ ในช่วงนั้นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ทรงมีพระอาการประชวรจนสวรรคต และสมเด็จพระมหินทราธิราชทรงขึ้นครองราชย์แทน

ได้มีการเจรจาเพื่อจะสงบศึกอีกครั้งหนึ่ง โดยฝ่ายอยุธยาจะส่งตัวพระยาราม แม่ทัพคนสำคัญให้กับพระเจ้าบุเรงนองเพื่อประสานไมตรี แต่ปรากฏว่าหลังจากมีการส่งตัวไปแล้ว พระเจ้าบุเรงนองตระบัดสัตย์ไม่ยอมเป็นไมตรีและสงบศึก ทำให้พระมหินทราธิราชทรงพิโรธโกรธแค้นเป็นอย่างมาก และได้รับสั่งให้แม่ทัพนายกองของกรุงศรีอยุธยาเตรียมการป้องกันรักษาพระนครให้เข้มแข็ง

ขณะนั้นใกล้ช่วงฤดูกาลที่จะมีน้ำหลากลงมาท่วมรอบกรุงศรีอยุธยา ซึ่งน่าจะทำให้กองทัพพม่าต้องถอนกำลังกลับ พระเจ้าบุเรงนองจึงได้ออกอุบายที่จะให้พระยาจักรีที่ถูกนำไปเป็นตัวประกันในสงครามช้างเผือกเป็นไส้ศึก โดยการเกลี้ยกล่อมและเสนอการปูนบำเหน็จให้กับพระยาจักรี ซึ่งพระยาจักรีได้ยินยอมเพราะเห็นแก่ลาภยศ โดยพม่าได้จับพระยาจักรีล่ามโซ่ตรวน และทำทีเสมือนว่าหนีออกมาจากกองทัพพม่าได้ โดยบุเรงนองได้สั่งทหารให้ออกตามล่าตัว และเมื่อไม่สามารถตามล่าได้ก็ได้สั่งให้ประหารทหารที่ให้ติดตามตัวพระยาจักรีทั้งหมด ๓๐ คนตัดศีรษะประจานบนกำแพงค่ายของพม่า เพื่อให้ฝ่ายไทยเชื่อว่าพระยาจักรี หนีออกมาเองจริง

พระมหินทราธิราชทรงดีพระทัยเป็นอย่างยิ่งที่ได้พระยาจักรีกลับคืนมา และได้มอบหมายให้พระยาจักรีเป็นแม่ทัพในการจัดกำลังรักษาพระนคร ซึ่งปรากฏต่อมา ว่าพระยาจักรีได้ดำเนินการสับเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่ของฝ่ายต่างๆ ที่จะป้องกันพระนครให้อ่อนแอลง จนกระทั่งในที่สุดทัพของหงสาวดีก็สามารถเข้าสู่พระนครได้ในระยะเวลาเพียง ๑ เดือน หลังจากนั้น โดยพระยาจักรีส่งสัญญาณให้ทัพพม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยาและเปิดประตูเมืองให้ กรุงศรีอยุธยาจึงตกเป็นเมืองขึ้นของหงสาวดีเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ชาติไทย

สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกู้ชาติไทยกลับคืนมา ด้วยการหลั่งน้ำษิโณทก ประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแคลง ในปีพ.ศ.๒๑๒๗

พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ได้ทรงต่อสู้เพื่อรักษาแผ่นดิน เพื่อให้ชาติคงอยู่มาโดยตลอด บางพระองค์ได้ยอมเสียสละแม้เลือดเนื้อและชีวิต เพื่อรักษาแผ่นดินผืนนี้ไว้

เมื่อประเทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บริหารประเทศ จึงเป็นหน้าที่ที่รัฐบาลภายใต้ความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี จะต้องปกปักรักษาแผ่นดินไว้

เหตุการณ์ชายแดนไทยและเขมรในขณะนี้มีลักษณะคุกรุ่นจนกลายเป็นความตึงเครียด ในเรื่องของแนวเขตแดนที่บางส่วนทับซ้อนกันอยู่ เช่นบริเวณประสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ที่ทหารเขมรได้ยั่วยุด้วยการพาชาวเขมรจำนวนหนึ่งขึ้นมาปักธงและร้องเพลงชาติเขมรในบริเวณพื้นที่ที่ยังตกลงกันไม่ได้ ทั้งๆ ที่ปราสาทตาเมือนธม ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของไทยโดยกรมศิลปากรมาตั้งแต่ปีพุ.ศ.๒๔๗๘ แล้วก็ตาม ซึ่งทหารไทยภายใต้ความรับผิดชอบของแม่ทัพภาคที่ ๒ ซึ่งมีความเข้มแข็งมากก็ได้ดูแลรักษาพื้นที่นี้อย่างเต็มที่ ไม่ให้มีการล่วงล้ำของทหารเขมรเกิดขึ้น

แต่จุดที่เป็นประเด็นและมีทีท่าจะลุกลามนั้นคือบริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีซึ่งทหารเขมรได้เข้ามาขุดคูเลตหรือหลุมเพลาะตลอดแนวชายแดน ในส่วนที่ยังเป็นปัญหาเป็นระยะทางยาวถึง ๖๕๐ เมตร ซึ่งไม่เป็นไปตาม MOU ๔๓ เมื่อทหารไทยเข้าไปตรวจสอบ ก็เกิดการปะทะโดยเขมรเป็นฝ่ายยิงก่อน ฝ่ายไทยจึงต้องยิงโต้ตอบ จนทำให้ทหารเขมรเสียชีวิต

ผู้นำเขมรทั้งระดับสมเด็จ ระดับนายก ตลอดจนผู้บัญชาการทหารของเขมร ได้มีปฏิกิริยาในเรื่องนี้อย่างรุนแรง ด้วยการส่งกำลังรบจำนวนไม่น้อยพร้อมอาวุธพิสัยใกล้และไกลเข้ายังบริเวณชายแดนไทย ซึ่งคงตั้งใจที่จะทำอยู่แต่เดิมแล้ว โดยการออกสื่อทางโซเชียลให้ประชาชนเขมรได้รับทราบในลักษณะที่ไทยเป็นผู้รุกราน และเขมรเป็นผู้ใฝ่สันติภาพ ซึ่งทำให้นานาชาติอาจจะเข้าใจประเทศไทยผิดได้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่ Facebook โดยกล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องดำเนินการทั้ง ๓ ทาง คือทางทหาร ทางการเมือง และทางกฎหมาย โดยการดำเนินการทางกฎหมายอาจจะใช้วิธีเดียวกับการที่ทำให้ไทยต้องสูญเสียเขาพระวิหารก็เป็นได้

เรื่องการรุกรานของเขมรนั้น ถึงแม้ประชาชนจะสนใจติดตาม แต่สื่อสำนักต่างๆก็ไม่ได้มีการนำเสนอในเรื่องนี้เท่าที่ควร จนเหมือนกับถูกปิดปาก แม้แต่รัฐบาลเองก็ไม่เคยประกาศอย่างเป็นทางการให้ประชาชนหรือนานาชาติได้รับทราบจุดยืนของไทยแม้แต่น้อย การให้ข่าวของรัฐมนตรีกลาโหมก็มีเพียงว่ามีการเจรจากันและใช้คำนี้มาหลายครั้งแล้ว โดยไม่เห็นผลลัพธ์ใดๆ

ถ้ารัฐบาลโดยนายกฯหญิงคนนี้ ไม่มุ่งมั่นที่จะรักษาแผ่นดินของชาติ และยังบริหารประเทศจนเกือบจะเรียกว่าล้มเหลว (failed state) ภายใต้การถูกครอบงำเชิงนโยบายโดยอดีตนักโทษ ก็โปรดพิจารณาตัวเองว่าจะดำเนินการอย่างไรให้ตัวเองและคณะรัฐบาลพ้นสภาพจากการเป็นผู้บริหารประเทศเสียที หรือว่าจะให้ประชาชนเป็นผู้ขับไล่

ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:39 น. คกก.เยียวยาผู้เสียหายฯ มีมติจ่ายชดเชยเหยื่อซ้อมทรมาน3กรณี
22:05 น. 'สุรเดช'ลุยพบเกษตรกรภาคเหนือ รับฟังปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ
21:58 น. 'เต้น'มาแล้ว 50 ปี 'ทักษิณ-อิ๊งค์'ร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิด
21:40 น. ‘สมชัย’สวด‘อิ๊งค์’ ชี้พยักเพยิด-หัวเราะ ไม่ให้เกียรติ‘สื่อ’
21:27 น. 'นายกฯอิ๊งค์'ย้ำ! รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของชาติ
ดูทั้งหมด
‘อาร์ต’รู้สึกผิดปล่อยโฮ หลังรู้ว่าเป็นต้นเหตุให้ ‘เฌอเบลล์’ เสี่ยงกายหยาบดับ
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 มิถุนายน 2568
'เจิมศักดิ์'บอก'ออกอาการแล้ว' หลัง'ทูตรัศม์'โพสต์ป่วยจิตวิปลาส ปลุกหมอล้มรัฐบาลเลือกตั้ง
ยายอายุ 90 ปีร้อง! ฝากเงินไว้ 30 ปี 2 ล้านกว่า จู่ๆธนาคารไม่ให้เบิกเงิน
‘หมอตุลย์’ไขข้อข้องใจ แพทย์ตั้งใจรักษา‘ทักษิณ’ทำไมถูกลงโทษด้วย
ดูทั้งหมด
พื้นฐานความคิดของนโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา
เลิกได้ ก็ทำไป
‘เด็กน้อยอุ๊งอิ๊งค์’ไร้ภาวะผู้นำกรณีเขมร
บทบาทของประเทศพลังอำนาจขนาดกลาง
โลกคริปโตเข้าสู่ยุคใหม่: ชาติมหาอำนาจแข่งสะสม Bitcoin พร้อมปรับกฎหมายรับการเติบโต
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

คกก.เยียวยาผู้เสียหายฯ มีมติจ่ายชดเชยเหยื่อซ้อมทรมาน3กรณี

'เต้น'มาแล้ว 50 ปี 'ทักษิณ-อิ๊งค์'ร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิด

‘สมชัย’สวด‘อิ๊งค์’ ชี้พยักเพยิด-หัวเราะ ไม่ให้เกียรติ‘สื่อ’

(คลิป) 'เรวัช'ลั่นพร้อมสมัครเป็น'กองหนุน'ปกป้องชายแดน ทบ.เปิดรับ

รวบแล้ว'บังฝาด' คดียิงถล่ม 30 นัด ปิดคดี 13 วัน

คู่รักต่างวัย! 'ไทด์-ทับทิม'ย้อนเส้นทางรัก 3 ปี ปัดคบหลบซ่อน

  • Breaking News
  • คกก.เยียวยาผู้เสียหายฯ มีมติจ่ายชดเชยเหยื่อซ้อมทรมาน3กรณี คกก.เยียวยาผู้เสียหายฯ มีมติจ่ายชดเชยเหยื่อซ้อมทรมาน3กรณี
  • \'สุรเดช\'ลุยพบเกษตรกรภาคเหนือ รับฟังปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ 'สุรเดช'ลุยพบเกษตรกรภาคเหนือ รับฟังปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ
  • \'เต้น\'มาแล้ว 50 ปี \'ทักษิณ-อิ๊งค์\'ร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิด 'เต้น'มาแล้ว 50 ปี 'ทักษิณ-อิ๊งค์'ร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิด
  • ‘สมชัย’สวด‘อิ๊งค์’ ชี้พยักเพยิด-หัวเราะ ไม่ให้เกียรติ‘สื่อ’ ‘สมชัย’สวด‘อิ๊งค์’ ชี้พยักเพยิด-หัวเราะ ไม่ให้เกียรติ‘สื่อ’
  • \'นายกฯอิ๊งค์\'ย้ำ! รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของชาติ 'นายกฯอิ๊งค์'ย้ำ! รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของชาติ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

2 มิ.ย. 2568

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

26 พ.ค. 2568

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

19 พ.ค. 2568

แพทย์ พึงรักษาศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

แพทย์ พึงรักษาศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

12 พ.ค. 2568

เศรษฐกิจไทย จะล่มสลายหรือไม่

เศรษฐกิจไทย จะล่มสลายหรือไม่

5 พ.ค. 2568

รัฐบาลที่รุกรบไม่เป็น ก็ยอมแพ้เถอะ

รัฐบาลที่รุกรบไม่เป็น ก็ยอมแพ้เถอะ

28 เม.ย. 2568

ไทย ต้องไม่ทำตัวเป็นประเทศราช

ไทย ต้องไม่ทำตัวเป็นประเทศราช

21 เม.ย. 2568

ของขวัญปีใหม่ไทย ต้องไม่ใช่บ่อนกาสิโน

ของขวัญปีใหม่ไทย ต้องไม่ใช่บ่อนกาสิโน

13 เม.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved