วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

ดูทั้งหมด

  •  

หลังจากการเสียอิสรภาพของกรุงศรีอยุธยาในปีพุทธศักราช ๒๑๑๒ ชาติของเราก็เริ่มมีความอ่อนแอ เพราะนอกจากจะต้องสูญเสียชีวิตของทหารในการรบแล้ว ผู้คนพลเมืองจำนวนหนึ่ง
รวมทั้งแม่ทัพนายกองคนสำคัญก็ถูกกวาดต้อนไปด้วย

ในช่วงเวลานั้นเขมรได้ฉวยโอกาสยกทัพมารุกรานอาณาจักรอยุธยาบ่อยครั้งโดยในปี พ.ศ.๒๑๑๓ พระบรมราชาที่ ๔ ได้ยกทัพมีกำลังพล ๓๐,๐๐๐ คน มาตีกรุงศรีอยุธยา ทัพของกรุงศรีอยุธยาได้ต่อสู้อย่างเต็มที่ จนเขมรต้องถอยกลับไป


ในปี พ.ศ.๒๑๑๔ พระบรมราชาที่๔ ก็ได้ยกทัพมีกำลังถึง ๗๐,๐๐๐ คน มาตีเมืองเพชรบุรี โดยครั้งแรกยังตีไม่ได้ ต้องถอยกลับไป ก่อนที่จะกลับเข้ามาตีอีกครั้งหนึ่ง ทำให้เมืองเพชรบุรีต้องพ่ายแพ้ มีการกวาดต้อนผู้คนและทรัพย์สมบัติไปจำนวนมาก

หลังจากที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ประกาศอิสรภาพที่เมืองแครงในปี พ.ศ.๒๑๒๗ พระองค์ได้ทำนุบำรุงบ้านเมือง รวมทั้งการสร้างกองทัพให้มีความเข้มแข็ง แม้แต่พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงจะยกทัพเข้ามาปราบในปี พ.ศ.๒๑๒๘ และ ๒๑๓๐ ก็ยังพ่ายแพ้ไปทั้งสองครั้ง ซึ่งในช่วงเวลานั้น พระบรมราชาที่ ๕ ได้ฉวยโอกาสยกทัพเข้ามาตีเมืองปราจีนบุรี สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงส่งพระยาศรีไสณรงค์กับพระยาสีหราชเดโชทัยยกทัพไปป้องกัน ตีทัพเขมรแตกพ่ายไป

หลังจากสมเด็จพระนเรศวรขึ้นครองราชย์ และศึกทางพม่าว่างเว้นไป พระองค์ทรงเห็นว่าจะต้องกำราบเขมรที่ชอบแอบมาตีท้ายครัวให้เข็ดหลาบเสียที จึงทรงร่วมกับสมเด็จพระเอกาทศรถ พระอนุชา ยกทัพไปตีเขมร พระบรมราชาที่ ๕ หรือพระยาละแวกยกทัพมาสกัดที่เมืองโพธิสัตว์และพระตะบอง แต่ถูกพระราชมนูซึ่งนำทัพกรุงศรีอยุธยาเข้าตีจนพ่ายแพ้ไป และเข้ายึดเขมรไว้ได้

ในปี พ.ศ.๒๑๓๖ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงนำทัพไปตีเมืองละแวกซึ่งเริ่มกระด้างกระเดื่องเป็นครั้งที่ ๒ จับพระยาละแวกได้ แล้วทำพิธีปฐมกรรมตัดหัวเอาโลหิตล้างพระบาท เขมรตกเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรอยุธยาอีกครั้งหนึ่ง รวมระยะเวลาที่เขมรตกเป็นของเมืองไทยยาวนานประมาณ ๔๐๐ ปี จนถึงยุคล่าอาณานิคม ของชาติตะวันตก และต้องตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส

ละแวก เป็นชื่อเมืองหลวงของเขมรในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยแต่เดิมนั้นเมืองหลวงของเขมรอยู่ที่พนมเปญและอุดรมีชัย ในปี พ.ศ.๒๐๔๖ สมเด็จพระศรีสุคนธบทซึ่งครองราชย์อยู่ที่เมืองพนมเปญถูกกบฏปลงพระชนม์ นักองค์จันผู้เป็นพระอนุชาได้หนีมาพึ่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งได้ช่วยยกทัพไปช่วยปราบปรามจนได้รับชัยชนะ ในปี พ.ศ.๒๐๕๙ ได้สถาปนานักองค์จันขึ้นครองราชย์เป็นพระบรมราชาที่ ๒ ปกครองเมืองละแวก นับเป็นเมืองหลวงใหม่ กษัตริย์องค์ต่อมาคือ พระบรมราชาที่ ๓ หรือพระยาละแวกองค์แรก ที่ประกาศอิสรภาพจากกรุงศรีอยุธยา

ในปี พ.ศ.๒๑๑๙ นักพระสัตถาพระราชโอรสได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระบรมราชาที่ ๔ ซึ่งต่อมาก็ได้มีพระราชโองการสถาปนาพระราชโอรสองค์หนึ่งขึ้นเป็นพระบรมราชาที่ ๕

เชื่อกันว่า พระบรมราชาที่ ๔ และ ๕ นั้น มีความเจ็บแค้นฝังใจ ที่คิดว่าขอมเคยยิ่งใหญ่ในย่านนี้แต่ถูกกรุงศรีอยุธยายกทัพมาทำลายจนย่อยยับในสมัยสมเด็จพระเจ้าสามพระยา ซึ่งในช่วงนั้นเขมรไม่อาจจะแก้แค้นได้ จนเมื่อไทยเริ่มอ่อนแอลงหลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๑ จึงเริ่มยกทัพเข้ามารุกราน

ต่อมาอีก ๕ ปี เขมรทราบว่า สมเด็จพระมหาธรรมราชายกทัพไปช่วยพระเจ้ากรุงหงสาวดีเพื่อตีกรุงศรีสัตตนาคณหุต พระบรมราชาที่ ๔ จึงยกทัพเรือเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยา จนถึงวัดพนัญเชิง แต่มาเจอทัพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่เสด็จกลับมา เนื่องจากพระองค์เกิดเป็นไข้ทรพิษกลางทาง จึงถูกทัพของสมเด็จพระนเรศวรฯตีจนแตกพ่ายไป

จากเหตุการณ์ในอดีตทั้งหมดจะเห็นว่า กษัตริย์เขมรซึ่งเคยถูกกบฏและพ่ายแพ้ จนต้องมาพึ่งกรุงศรีอยุธยาซึ่งก็ได้ส่งกองทัพไปช่วยปราบกบฏ จนกลับขึ้นมาครองราชย์ได้ใหม่ แต่เมื่อถึงชั้นพระโอรสและเชื้อสายที่ครองราชย์กันต่อมานั้น ไม่เคยสำนึกในบุญคุณที่พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาได้เคยช่วยเหลือแต่ประการใด กลับเนรคุณคิดคดทรยศ ยกทัพแอบมาตีท้ายครัวกรุงศรีอยุธยา และเมืองต่างๆ ของ อาณาจักรอยุธยาอยู่ตลอดเวลา

เขมรอาจจะคิดว่าเคยเป็นกลุ่มชนที่ยิ่งใหญ่ในดินแดนสุวรรณภูมิ ซึ่งหมายถึงพวกขอม แต่จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์นั้น ขอมน่าจะหมายถึงกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ทางตอนล่างของแม่น้ำเจ้าพระยารวมทั้งแม่น้ำโขงด้วย และแม้แต่ในปัจจุบันนี้เขมร ก็ไม่เคยเรียกตัวเองว่าขอม โบราณสถานที่เป็นศาสนสถานสำคัญทั้งหลายนั้น สร้างขึ้นโดยพวกขอม อาทิ นครวัด ที่สร้างโดยสุริยวรมันที่ ๒ ซึ่งเป็นกษัตริย์ของขอม หรือปราสาทพนมรุ้งในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่สร้างโดยนเรนทราทิตย์ ผู้เป็นเชื้อสายของสุริยวรมันที่ ๒

ตามที่กล่าวมาแล้วว่าเขมรตกเป็นเมืองขึ้นหรือประเทศราชของไทยอยู่เป็นระยะเวลาหลายร้อยปี ตั้งแต่สมัยอาณาจักรอยุธยาถึงอาณาจักรรัตนโกสินทร์ กระทั่งถึงยุคที่ฝรั่งเศสซึ่งเป็นชาติที่เป็นนักล่าอาณานิคมเข้ามารุกราน ทำให้เขมร ตกอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส ในปี พ.ศ.๒๔๐๖

คงจะเป็นปมด้อยของผู้ปกครองเขมรในยุคปัจจุบันนี้ในด้านความรู้สึกที่มีต่อประเทศไทย จึงมีความพยายามที่จะเรียกร้องดินแดนบางส่วนที่อยู่ใกล้ชายแดนเขมร และมีปราสาทที่สร้างในยุคขอมตั้งอยู่ เนื่องจากหลังจากที่ฝรั่งเศสเข้าครอบครองเขมรและเกิดกรณีพิพาทกับไทยในสมัยรัชกาลที่ ๕ นั้น ในที่สุดได้มีการตกลงแบ่งเขตแดน โดยยึดถือเอาสันปันน้ำของเทือกเขาพนมดงรักระหว่าง ประเทศทั้งสองเป็นหลัก ไม่มีการปักหลักเขตเป็นระยะทางนับร้อยกิโลเมตร ทำให้เกิดความไม่ชัดเจน จึงเป็นประเด็นข้อพิพาทเสมอมา นอกจากนี้เขมรยังยืนยันเขตแดนของตนเองโดยใช้แผนที่มาตราส่วน ๑ : ๒๐๐,๐๐๐ ที่หยาบมาก ในขณะที่ประเทศไทยใช้แผนที่มาตราส่วน ๑: ๕๐,๐๐๐ ซึ่งละเอียดกว่า

ในปี พ.ศ.๒๕๐๒ ได้มีกรณีพิพาทเรื่องเขตแดน โดยเขมรได้ฟ้องต่อศาลโลกซึ่งฝรั่งเศสมีอำนาจและอิทธิพลต่อศาลนี้มาก และทำให้ไทยต้องเสียเขาพระวิหาร และพื้นที่โดยรอบขนาด ๔.๖ ตารางกิโลเมตร ทำให้ไทยประกาศไม่ยอมรับศาลโลกอีกต่อไปตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๓

จึงไม่ใช่เป็นเรื่องแปลกที่ฮุนเซนและนายพลฮุน มาเนต ที่ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีเขมรในปัจจุบันนี้คิดกำเริบเสิบสานที่จะรุกรานและเข้ายึดครองพื้นที่ และปราสาทที่อยู่ติดกับชายแดนไทยในครั้งนี้ โดยการประกาศอย่างชัดเจนว่าจะนำเรื่องนี้ฟ้องศาลโลกเพื่อตัดสินให้เขมรได้ครอบครองปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ดและปราสาทตาควาย รวมทั้งพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมมรกต ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศไทย เขมรและลาว

เขมรเริ่มต้นรุกรานโดยนำทหารเข้ามาขุดหลุมเพาะในพื้นที่เขตติดต่อ ซึ่งยังไม่สามารถจะระบุได้ว่าเป็นของใคร เป็นแนวยาวถึง ๖๕๐ เมตร บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้ทหารไทยต้องเข้าไปเจรจาและเกิดการสู้รบโดยเขมรเป็นฝ่ายยิงก่อน ทำให้ทหารไทยต้องยิงต่อสู้ มีทหารเขมรเสียชีวิต ๑ นาย ทำให้เขมรเคลื่อนกองทหารพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าประชิดชายแดนไทย ทำให้ฝ่ายไทยต้องดำเนินการในรูปแบบเดียวกันเพื่อปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ

หากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับอาณาจักรอยุธยาหรือรัตนโกสินทร์ตอนต้น เขมรจะถูกทัพไทยที่อยู่ภายใต้การนำของพระมหากษัตริย์ ที่ต้องถือว่าเป็นผู้สร้างชาติและจอมทัพ ยกทัพเข้าโจมตีรุกไล่ศัตรูผู้รุกรานอย่างแน่นอน และเชื่อได้เลยว่าทัพไทยจะได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาด

แต่ในปัจจุบันนี้ที่ไทยมีนายกฯหญิงที่อ่อนแอทั้งประสบการณ์ ความรู้ความสามารถในการที่จะบริหารประเทศ รวมทั้งไม่มีชั้นเชิงอย่างไรทั้งสิ้น และยังอยู่ภายใต้การครอบงำของอดีตนายกนักโทษผู้พ่อ และยังมีรัฐมนตรีซึ่งเป็นเพียงไม้ประดับที่เห็นได้ชัดเจนในทุกครั้งที่มีการแถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี จึงทำให้ไม่สามารถที่จะสร้างและกำหนดกลยุทธ์ ในการที่จะตอบโต้กับเขมรได้ โดยประกาศแต่เพียงว่าจะใช้การเจรจาโดยสันติ ซึ่งก็น่าจะมาจากสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างอดีตนายกนักโทษและฮุนเซน ซึ่งเคยเอื้อเฟื้อให้อดีตนายกฯผู้นี้รวมทั้ง
เครือข่ายที่กระทำผิดกฎหมายของประเทศไทย หนีออกไปพักอาศัยก่อนที่จะเดินทางต่อไปอยู่ยังประเทศอื่นเพื่อหนีคดี

เมื่อผู้บริหารระดับสูงสุดไม่มีความสามารถในการจัดการเรื่องนี้ ก็ควรจะต้องให้กองทัพไทย โดยเฉพาะกองทัพบกและกองกำลังของกองทัพภาคที่ ๒ ที่เข้มแข็งมาก ซึ่งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเป็นผู้มีอำนาจเต็มในการปกป้องประเทศชาติจากศัตรูผู้รุกรานซึ่งก็เห็นได้ชัดว่ากระแสสังคมของชาวไทยที่รักชาติ ได้ออกมาสนับสนุนกองทัพอย่างเต็มที่

ไม่ใช่แค่เรื่องการป้องกันประเทศเท่านั้นที่รัฐบาลชุดนี้อ่อนแอ แต่การบริหารอื่นๆ ก็อ่อนแอไปทั้งหมด น่าจะถึงเวลาแล้วที่ท่านทั้งหลายควรจะยุติบทบาท

ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:51 น. โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชฯ ข้าราชบริพารในพระองค์ 223 ราย
22:39 น. ฝนถล่มอุดรฯ น้ำท่วมถนนหลายสายหนัก ชาวบ้าน 2 คนถูกไฟดูดเสียชีวิต
22:23 น. 'วุฒิสภากัมพูชา'อนุมัติ! เปิดทางเพิกถอนสัญชาติพลเมืองที่ทรยศต่อประเทศชาติ
22:07 น. ช็อก! คลินิกความงาม หลอกขายคอร์ส เปิดหรูในห้างดัง พบเงินบัญชีม้าเกือบ 50 ล้าน
22:04 น. ‘ทรัมป์’ได้เฮ! ศาลฎีกา‘สหรัฐฯ’ไฟเขียวแผนยุบกระทรวงศึกษาธิการ
ดูทั้งหมด
อื้อหือ! เพจดังเปิดภาพ 'สีกากอล์ฟ' ย้อนอดีต 10 ปี ไม่แปลกใจทำไมพระหวั่นไหว
'สีกากอล์ฟ'ฟาดเรียบ ทั้งเจ้าอาวาส ทั้งคนขับรถ สารภาพถูกชวนมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง
วินาที'ในหลวง'ส่งสัญญาณพระหัตถ์ถึง'พระราชินี' ทรงรีบเข้าประคองพระองค์อย่างว่องไว
‘สม รังสี’แฉเหยื่อกว่า 120,000 คนในกัมพูชา ถูกขังใน 53 ตึก โดนบังคับใช้เป็นทาสมาเฟียจีน
ชุดทหารพรานก็ไม่รอด!! เขมรแต่งเครื่องแบบคล้ายชุดทหารพรานไทย สวนสนามต้อนรับ'ฮุน มาเนต'
ดูทั้งหมด
เรามีระบบตรวจสอบ หรือมีแต่ใบอนุญาตที่ซื้อได้?
บุคคลแนวหน้า : 16 กรกฎาคม 2568
ทับละมุ
เชลียร์จนได้เรื่อง!
รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แบบเอาหน้าประชานิยม
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ฝนถล่มอุดรฯ น้ำท่วมถนนหลายสายหนัก ชาวบ้าน 2 คนถูกไฟดูดเสียชีวิต

‘ทรัมป์’ได้เฮ! ศาลฎีกา‘สหรัฐฯ’ไฟเขียวแผนยุบกระทรวงศึกษาธิการ

ช็อก! คลินิกความงาม หลอกขายคอร์ส เปิดหรูในห้างดัง พบเงินบัญชีม้าเกือบ 50 ล้าน

'เก๋ไก๋'โพสต์ครั้งแรก! พ้ออายุ28แล้วยังผิดพลาดตลอด หลังเจอดราม่าใส่กางเกงรัดรูปเข้าวัด

(คลิป) ด่วน! 6พรรคร่วมซวยแน่ ปมหัวหน้าพรรคพบ 'ทักษิณ'

นักท่องเที่ยวต่างชาติมือบอน พ่นสีหัวรถจักร-ตู้โดยสารรถไฟเสียหาย

  • Breaking News
  • โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชฯ ข้าราชบริพารในพระองค์ 223 ราย โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชฯ ข้าราชบริพารในพระองค์ 223 ราย
  • ฝนถล่มอุดรฯ น้ำท่วมถนนหลายสายหนัก ชาวบ้าน 2 คนถูกไฟดูดเสียชีวิต ฝนถล่มอุดรฯ น้ำท่วมถนนหลายสายหนัก ชาวบ้าน 2 คนถูกไฟดูดเสียชีวิต
  • \'วุฒิสภากัมพูชา\'อนุมัติ! เปิดทางเพิกถอนสัญชาติพลเมืองที่ทรยศต่อประเทศชาติ 'วุฒิสภากัมพูชา'อนุมัติ! เปิดทางเพิกถอนสัญชาติพลเมืองที่ทรยศต่อประเทศชาติ
  • ช็อก! คลินิกความงาม หลอกขายคอร์ส เปิดหรูในห้างดัง พบเงินบัญชีม้าเกือบ 50 ล้าน ช็อก! คลินิกความงาม หลอกขายคอร์ส เปิดหรูในห้างดัง พบเงินบัญชีม้าเกือบ 50 ล้าน
  • ‘ทรัมป์’ได้เฮ! ศาลฎีกา‘สหรัฐฯ’ไฟเขียวแผนยุบกระทรวงศึกษาธิการ ‘ทรัมป์’ได้เฮ! ศาลฎีกา‘สหรัฐฯ’ไฟเขียวแผนยุบกระทรวงศึกษาธิการ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

นิรโทษกรรมทำเพื่อใคร

นิรโทษกรรมทำเพื่อใคร

14 ก.ค. 2568

นักการเมิอง มนุษย์ประเภทไหน

นักการเมิอง มนุษย์ประเภทไหน

7 ก.ค. 2568

อย่าอยู่ต่อไปให้หนักแผ่นดิน

อย่าอยู่ต่อไปให้หนักแผ่นดิน

30 มิ.ย. 2568

ผู้นำอัปยศ กรรมของชาติ คนไทยยังทนได้หรือ

ผู้นำอัปยศ กรรมของชาติ คนไทยยังทนได้หรือ

23 มิ.ย. 2568

ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

16 มิ.ย. 2568

แพทยสภา ต้องดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

แพทยสภา ต้องดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

9 มิ.ย. 2568

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

2 มิ.ย. 2568

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

26 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved