หากรัฐบาลเป็ดง่อยพรรคเพื่อไทยมีอุดมการณ์ทำงานเพื่อชาติเพียงเศษเสี้ยวของประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ผู้แทนไทยไม่ต้องเสียเวลาไปเจรจา คณะกรรมการทั่วไปชายแดน ไทย-กัมพูชา หรือจีบีซี ที่หาข้อสรุปไม่ได้มาหลายสิบปี
และจะต้องมีการเจรจากันต่อไป ตราบใดที่มีไส้ศึกสั่งการให้ทหารไทยหยุดรบ ในขณะที่ศัตรูเพลี่ยงพล้ำ ถูกกองทัพไทยบดขยี้ศัตรูอยู่ในภาวะที่พร้อมยอมจำนน ไส้ศึกคงกลัวศัตรูจะล่มสลายสั่งให้ทางทหารไทยหยุดรบ
พฤติกรรมของไส้ศึกในเมืองไทยแสดงธาตุแท้ออกมา ตั้งแต่ก่อนนัดวันเจรจาหยุดยิง 28 กรกฎาคม ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง 24.00 น. ของคืนเดียวกัน พูดได้ว่า ไส้ศึกครั้งนี้เลวร้ายกว่า พระยาจักรี ที่ให้สัญญาณพม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยา และเปิดประตูเมืองให้ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2112 ทำให้ทัพพม่า เข้ายึดพระนครสำเร็จ
ไส้ศึกในยุคนี้เลวร้ายกว่าพระยาจักรี ที่สั่งการให้ทหารไทยหยุดยิงในขณะที่ทหารไทยกำลังยึดปราสาทตาควาย ซึ่งเป็นยุทธภูมิสำคัญได้ การสั่งหยุดยิงของไส้ศึก จึงเปิดทางให้ทหารเขมรวางกับระเบิดทั่วบริเวณ และทหารเขมรเข้าไปยึดปราสาท เป็นป้อมปราการหลังจากเส้นตายหยุดยิงผ่านไป
อย่างไรก็ตาม ทหารไทยยังตั้งมั่นอยู่บริเวณรอบนอกปราสาทซึ่งเป็นยุทธภูมิสำคัญของเส้นแบ่งปันเขตแดน จึงพูดได้ว่าการกระทำของไส้ศึกในรัฐบาล ทำให้การเจรจาเรื่องเขตแดน และหยุดยิงไม่สามารถหาข้อยุติได้ในที่ประชุม GBC ในประเทศมาเลเซีย 4 ถึง 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา
พูดแต่ต้นว่าหากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีอุดมการณ์รักชาติเพียงเศษเสี้ยวของปธน.ปูติน ป่านนี้กัมพูชายอมจำนนไปแล้ว ไม่มีเวลา ได้ปากล้าท้ารบอยู่อย่างทุกวันนี้ ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน กล่าวเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ว่า รัสเซียให้สัญญาจะหยุดยิงทันที ที่ทาง เคียฟ ถอนทหารออกจาก 4 แคว้น ที่รัสเซียยึดได้ และเลิกความพยายามเป็นสมาชิกนาโต
เงื่อนไขหยุดยิงทันทีของ ปธน.ปูติน คือ ให้ยูเครนถอนทหารทั้งหมดออกจากแคว้นโดเนตสก์ ลูฮันสก์ เคอร์ซอน และแคว้นซาโปริซเซีย และให้ยูเครนประกาศยุติความพยายามเข้าเป็นสมาชิกนาโตทันทีที่เคียฟตกลงตามขั้นตอนนี้ รัสเซีย จะหยุดยิงในนาทีเดียวกัน
ยูเครนซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต หรือรัสเซียปัจจุบัน ซึ่งเหมือนกับเขมรที่เป็นประเทศราชของสยาม คือประเทศไทยปัจจุบัน ก่อนหน้าฝรั่งเศสยึดครองกัมพูชา และขีดเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ พ.ศ. 2450
พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ จึงเป็นเมืองที่คนไทยที่ตกค้างอยู่ในกัมพูชาเมื่อฝรั่งเศสปกครอง เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ผู้ปกครองเมืองพระตะบอง เทครัว มาอยู่ภายใต้โพธิสมภารของรัชกาลที่ 5 และปักหลักอยู่ที่ปราจีนบุรี ซึ่งมีผู้สืบสกุลอภัยวงศ์ จนบัดนี้
ประเทศยูเครน สมัยประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ซึ่งโปรรัสเซีย ชาวสลาฟที่พูดภาษารัสเซีย ที่ตกค้างอยู่ในยูเครนตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียตได้รับการปฏิบัติเท่าเทียมกับคนยูเครนทั่วไป แต่หลังจาก ปธน.โปโรเชนโกถูกขับพ้นจากตำแหน่ง จากความพยายามขยายอิทธิพลมาทางตะวันออกของนาโต
ทหารต่างชาติจำนวนมาก เข้ามาฝังตัวในยูเครนสมัยประธานาธิบดีเซเลนสกีผู้ทะเยอทะยานนำยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต ความขัดแย้งระหว่างเคียฟกับมอสโกก็เริ่มคุกรุ่น เมื่อรัสเซียกล่าวหาว่าทหารต่างชาติในยูเครนสังหารคนเชื้อสายรัสเซียประมาณสองแสนคน
เซเลนสกีก็ยั่วยุท้าทายให้รัสเซียคืนแคว้นไครเมีย ที่ผนวกเป็นรัสเซียตั้งแต่ปี 2012 เซเลนสกี กล้ายั่วยุท้าทายรัสเซียเพราะมั่นใจว่า อเมริกาและนาโตช่วยรบยูเครนเอาชนะรัสเซียได้ เซเลนสกียั่วยุท้าทายรัสเซีย จน ปธน.ปูตินสั่งปฏิบัติการทหารในยูเครน 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 จนถึงวันนี้ประเทศยูเครนพินาศวอดวาย
อเมริกาและประเทศตะวันตกผู้สนับสนุนยูเครนค่อยๆ ถอนตัวออกไป เมื่ออยู่สถานะได้เปรียบทุกด้าน ปธน.ปูติน จึงตั้งเงื่อนไขว่าหยุดยิงก็ได้แต่ “ทหารยูเครนต้องถอนตัวออกจาก 4 แคว้นที่รัสเซียยึดได้ และยกเลิกความพยายามเป็นสมาชิกนาโต”
เข้าใจวิธีจัดการของรัสเซียต่ออดีตประเทศในสหภาพโซเวียตแล้ว หันดูรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจัดการกับกัมพูชาที่เคยเป็นประเทศราชสยามว่า แตกต่างกันอย่างไร อย่างแรกคือไส้ศึกในรัฐบาลมีส่วนคล้ายกับพระยาจักรี พ.ศ.2112 ที่ไส้ศึกยุคใหม่เคยนำความลับในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปให้ศัตรู และไส้ศึกเคยพึ่งบารมีอริราชศัตรูของชาติอยู่หลายปี
ซึ่งคล้ายกับพระยาจักรีที่ตกเป็นเชลยศึกพม่า และพระยาจักรีเห็นแก่ทรัพย์ที่พระเจ้าบุเรงนองประทานให้จึงอาสาเป็นหนอนบ่อนไส้ในกรุงศรีอยุธยา โดยเข้าไปในกรุงศรีอยุธยาทำทีเป็นว่าหลบหนีมาจากกรุงหงสาวดี
หนอนบ่อนไส้ในรัฐบาลนี้ ก็ทำเป็นขัดแย้งกับฮุนเซน เพื่อให้คนไทยตายใจ แต่เมื่อความขัดแย้งไทย-กัมพูชาบานปลาย กลายเป็นการปะทะกันด้วยกำลังอาวุธ ซึ่งกองทัพไทยมีศักยภาพเหนือกว่าหลายเท่า เมื่อถึงจุดที่กองทัพกัมพูชาล่มสลายหากปะทะกันต่อไปไส้ศึกในรัฐบาลจึงสั่งให้ทหารไทยหยุดยิงในเวลาเดียวกันไส้ศึกส่งสัญญาณให้ศัตรูเสริมกำลังเข้าพื้นที่สู้รบในวันเจรจาหยุดยิง
คืนวันที่ 28 กรกฎาคม จึงมีการปะทะกันอย่างหนัก มีรายงานว่าขณะที่ทหารไทยกำลังยึดปราสาทตาควายซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญได้ ไส้ศึกในรัฐบาลสั่งให้ทหารไทยถอนตัวออกมาจากจุดปะทะ เปิดโอกาสให้ทหารเขมรมุดเข้าไปอยู่ในปราสาทตาควาย และวางกับระเบิดไว้ทั่วบริเวณ
นี่คือความแตกต่างระหว่างปธน.ปูติน ผู้มีอุดมการณ์รักชาติด้วยจิตวิญญาณ ที่เสนอเงื่อนไขหยุดยิง เมื่อยึดพื้นที่ของศัตรูได้กว่า 20% ที่ทำให้รัสเซียป้องกันการคุกคามของตะวันตกได้อย่างมีนัย ในขณะรัฐบาลเพื่อไทยสั่งให้หยุดยิงขณะที่ศัตรูเพลี่ยงพล้ำเลยทำให้ศัตรูยึดยุทธภูมิสำคัญไว้ได้
ไส้ศึกในรัฐบาลเพื่อไทยมีพฤติกรรมคล้ายพระยาจักรีที่สร้างความอ่อนแอให้กรุงศรีฯ โดยย้ายแม่ทัพนายกองคนสำคัญออกจากป้อมค่ายใกล้ประตูเมือง ส่วนไส้ศึกยุคนี้จงใจ ไม่ให้มีรัฐมนตรีกลาโหม ผู้มีอำนาจสั่งการกองทัพให้ลุยทำลายศัตรู หรือพักรบแค่นั้น
ความจริงทหารไทยรู้ว่า มีไส้ศึกในรัฐบาล ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีพยายามขัดขวางยุทธวิธีทหารหลายครั้ง และมันชัดเจนขึ้นเมื่อนายกฯบอกอริราชศัตรูว่า “แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นคนของฝ่ายตรงกันข้ามกับเรา” คำพูดของเธอจึงเลวร้ายกว่าพระยาจักรี ที่สำคัญคือโง่บัดซบกว่าพระยาจักรีที่ตีเนียนไม่เป็น
อย่างไรก็นับว่าโชคดีที่กองทัพไทยมีอุดมการณ์รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และปกป้องอธิปไตยของชาติเหนือสิ่งอื่นใด ทหารไทยจึงทำทุกอย่างเพื่อปกป้องอธิปไตยตลอดถึงชีวิตทรัพย์สินของคนไทยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงแม้ได้รับการสนับสนุนแบบเสียมิได้จากรัฐบาลก็ตาม แต่ยังมีคนไทยทั้งประเทศสนับสนุน ให้กำลังใจ เป็นเกราะทองแดงกำแพงเหล็กให้ทหาร รัฐบาลลุแก่อำนาจอย่างไรก็ไม่สามารถปลด/ย้ายทหารได้ตามความต้องการ
คนไทยจึงไม่มีหวังใดๆกับรัฐบาลเพื่อไทยที่นับเวลาถอยหลังยังมีเวลาทำร้ายประเทศไทยได้ไม่เกิน 50 วัน คือไม่ศาลฯก็ทหารต้องจัดการไม่ให้รัฐบาลเป็ดง่อยทำร้ายประเทศชาติได้อีกต่อไป
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รู้ชะตากรรมล่วงหน้าว่า ต้องพ้นจากหน้าที่ จากคดีคลิปเสียงฮุนเซน แต่เธอก็พยายามยื้อเวลา เป็นรัฐบาลนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยขอยืดเวลาส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญสองครั้ง และเมื่อยื้อเวลาต่อไปไม่ได้ก็ส่งคำชี้แจงพอเป็นพิธีเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากยื่นคำชี้แจงต่อศาลฯให้สมุนบริวารออกมาประสานเสียงว่า“ไม่ลาออก” ซึ่งในความเป็นจริงคนไทยหลายล้านคนเชื่อว่า เธอต้องลาออกก่อนวันศาลฯนัดฟังคำตัดสิน
ประวัติความเจ้าเล่ห์คนในสกุลนี้ยื้อเวลาจนนาทีสุดท้าย ตัวอย่างเช่นนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่หนีออกจากประเทศในวันที่ศาลนัดฟังคำตัดสิน เชื่อว่า น.ส.แพทองธาร
ลาออกก่อนถึงวันศาลนัดฟังคำตัดสินเพราะหากคำตัดสินออกมาเป็นลบ เธอถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดไป
ส่วน สทร. พ่อนายกฯคงไม่อยู่ในประเทศไทยวันที่ศาลฯ นัดฟังคำตัดสินคดีชั้น 14 วันที่ 9 กันยายน จึงภาวนาขออย่าให้ทหาร Take Actions ก่อน วันที่ 9 กันยายน เพื่อประเทศไทยมีรัฐบาลประชาธิปไตยต่อเนื่องได้
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี