ยอมรับว่า นายวรัญชัย โชคชนะ เป็นผู้มีสายตายาวไกล ที่มองเห็นความเลวร้ายตั้งแต่ ฮุนเซน ใส่ชุดซาฟารีขี้เกลือขึ้น มาพบพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2532

พลเอกชาติชาย เชิญ ฮุนเซน ผู้นำระบอบ “เฮง สัมริน” ซึ่งยังไม่เป็นที่รับรองของนานาชาติ มาเยือนประเทศไทยท่ามกลางเสียงท้วงติงจากพรรคร่วมรัฐบาลและทหารหลายคนจนเกิดกระแสข่าวกดดันให้พลอากาศเอกสิทธิ เศวตศิลา พ้นจาก รมต.ต่างประเทศ เนื่องจากนโยบายสวนทางกับที่ปรึกษาบ้านพิษฯ

วันที่ ฮุนเซน เดินทางมาพบพลเอกชาติชาย ที่บ้านราชครู นายวรัญชัย ชูกระดาษเขียนคำว่า “ฮุนเซน ออกไป” พร้อมตะโกน “ประเทศไทยไม่ต้อนรับฆาตกรเขมร” หน่วยรักษาความปลอดภัยลากตัวเขาออกไป ขณะที่ฮุนเซน กับพลเอกชาติชายนั่งจิบไวน์ในบ้านราชครู

ผู้สื่อข่าวหลายคนรอหน้าบ้าน เราเป็นหนึ่งในนั้น รอฟังข่าวว่า นายกรัฐมนตรีผู้มีสโลแกน “No Problem” จะบอกอะไรกับสื่อในการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศ 190 องศา

นโยบายรัฐบาล พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ คือ แข็งกร้าว ต่อต้านรัฐบาล เฮง สัมริน ที่ ฮุนเซนเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐบาลป๋าเปรมถือว่า รัฐบาลเฮง สัมริน สถาปนาโดยเวียดนาม ที่ส่งทหารกว่า 500,000 นาย เข้ามาขับไล่เขมรแดงออกจากพนมเปญ และมีเป้าหมายข้ามแดนมาทำสงครามกับประเทศไทย

ทหารเวียดนามในกัมพูชาเคยเกิดการปะทะกับทหารไทย ที่ทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตนับร้อยนาย ซึ่งในเวลานั้นสังคมไทยหวาดหวั่นว่า สงครามจะลุกลามเข้ามาในประเทศไทย อดีตนายกรัฐมนตรี หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ปลอบใจคนไทยด้วยอารมณ์ขันว่า “รถถังเวียดนามหากบุกเข้ามาก็ไม่ถึงกรุงเทพฯเจอรถติดอยู่แค่บางนา..”

กล่าวโดยสรุปคือ ฮุนเซน มาพบพลเอกชาติชาย สร้างความไม่พอใจให้พรรคร่วมรัฐบาลและทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคกิจสังคม ที่พลอากาศเอกสิทธิเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ต่อเนื่องมาตั้งแต่รัฐบาลป๋าเปรม

คณะที่เรียกว่า “ที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลกสมัยนั้น” นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานคณะที่ปรึกษา หม่อมราชวงศ์ สุขุมพันธุ์ บริพัตร ที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ และนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ เป็นผู้ประสานงานระหว่างบ้านพิษณุโลกกับซอยราชครู

ที่ปรึกษาบ้านพิษฯเป็นตัวจักรสำคัญผลักดันให้รับรองรัฐบาล เฮง สัมริน และลดท่าทีแข็งกร้าวต่อเวียดนามจากประสบการณ์ตรงไม่นานหลังจากพลเอกชาติชายรับตำแหน่งนายกฯ
ที่ปรึกษาบ้านพิษฯนัดพบกับเหงียน โกทัก รมต.ต่างประเทศเวียดนาม ที่ห้องรับรองวีไอพีสนามบินดอนเมือง

แหล่งข่าวระดับสูงแจ้งให้ผู้เขียนรู้ว่า พวกเขาจะพบกันเวลาบ่ายสองโมงผู้เขียนไปรอหน้าห้องรับรองเพื่อสอบถามว่า ผลของการหารือเป็นอย่างไร? ได้รับคำตอบว่า “พูดกันเรื่องดินฟ้าอากาศ อย่างไร ตามเหงียน โกทัก สัมภาษณ์ในนามสำนักข่าวรอยเตอร์ส ห้านาที

ไม่มีหลักฐานยืนยันว่า การพบกันครั้งนั้น เป็นที่มาของรัฐบาลชาติชายรับรองฮุนเซนหรือไม่ แต่ไม่นานหลังจากนั้นพลอากาศเอกสิทธิ ถูกกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง รมต.กต. ว่ากันว่า
เพราะท่านไม่ด้วยเห็นกับความสัมพันธ์เป็นปกติกับกัมพูชาเวลานั้น

ยกเรื่องขึ้นมาทบทวนความจำ เพื่อยืนยันว่านายวรัญชัย โชคชนะ เป็นผู้รู้ก่อนกาลว่า ฮุนเซน เป็นอสรพิษร้ายที่รัฐบาลพลเอกชาติชาย ไม่ควรรับเข้าบ้าน ตามแรงผลักดันที่ปรึกษาบ้านพิษฯ ซึ่งตัวการสำคัญเปลี่ยนนโยบายแข็งกร้าวต่อรัฐบาลเฮง สัมริน ของรัฐบาลป๋า และเปลี่ยนสนามรบเป็นตลาดการค้า ในขณะที่เขมรเพิ่งฟื้นจากสงครามขาดแคลนทุกอย่าง แม้แต่ม้านั่งก็ต้องขอไปจากประเทศไทย

ในทศวรรษ 2530 รัฐบาลและนายทุนจากประเทศไทยเอาใจรัฐบาลกัมพูชา ขออะไรก็ให้ เนื่องจากนายทุนไทยหวังผลประโยชน์ทางธุรกิจ ทั้งสีขาวสีดำ และสีเทา พวกเขานำปัจจัยไปปรนเปรอฮุนเซน แลกกับทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ พลอย ไพลิน และ บ่อนการพนัน

ในระยะเวลาเพียงยี่สิบปี นายกฯฮุนเซน ร่ำรวยมหาศาลจากธุรกิจผิดกฎหมายกับนายทุนสีเทาทั่วเอเชีย จีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม ฮุนเซน ไม่เคยสร้างปัญหากับรัฐบาลไทยที่ไม่คอร์รัปชั่น แต่ฮุนเซน มักสร้างปัญหาใหญ่ในรัฐบาลเครือข่าย ทักษิณ ชินวัตร เช่น ปี 2546 ขณะทักษิณเป็นนายกฯ ฮุนเซน ปลุกระดมคลั่งชาติให้สมุนบริวารเผาสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญ

ปี 2551 ถึง 2554 ฮุนเซน สร้างความขัดแย้งกับรัฐบาลไทยสมัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อรัฐบาลไทยขอให้กัมพูชาส่งตัวทักษิณ ชินวัตร ให้ประเทศไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน

พนมเปญไม่ยอมส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้ กัมพูชากับไทยก็ระหองระแหงกันจนบานปลายเกิดปะทะตามแนวชายแดนในปี 2554

น่าประหลาดใจ หลังจากพรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้ง ในปีเดียวกันน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลพรรคประชาชนของฮุนเซน กับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ก็ชื่นมื่นกลมเกลียว มีรายงานว่า กัมพูชาสวมสิทธิ์ขายข้าวให้ไทย ในโครงการรับจำนำข้าวหลายพันตัน ตระกูลฮุนกับตระกูลชินร่ำรวยด้วยกันในโครงการหลายหมื่นล้านบาท

ปี 2556 คนไทยหลายล้านคนลุกฮือต่อต้านรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีรายงานว่าฮุนเซน ส่งคนเข้ามาช่วยทำร้ายคนไทยที่ต่อต้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นเหตุให้คนไทยบาดเจ็บล้มตายหลายสิบคน

7 พฤษภาคม 2557 ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในความผิดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ที่โยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี จากเลขาธิการสภาความมั่นคงฯ

22 พฤษภาคม 2557 รัฐบาลเพื่อไทยในภาวะล่มสลาย แต่ไม่ยอมลาออก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจ จากรัฐบาลผีหัวขาด คือ ไม่มีนายกฯ ไม่มี รมต. 8 ตำแหน่ง นอกจากนั้น
ไม่มีสภาตามระบอบประชาธิปไตย

ลุงตู่ ปกครองประเทศแบบรัฏฐาธิปัตย์ วันที่ 11 กรกฎาคม 2557 น.ส.ยิ่งลักษณ์ หนีออกจากประเทศไทยในวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมืองตัดสินจำคุกเธอ 5 ปี ในความผิดละเลยปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้โกงการขายข้าว “จีทูจีเก๊”
สองโครงการ

การหนีออกจากประเทศไทยไปกัมพูชาเชื่อว่า มีไส้ศึกในรัฐบาลลุงตู่ สมคบกับฮุนเซน จัดการให้ยิ่งลักษณ์หนีไปกัมพูชาได้ โดยมีนายตำรวจระดับผู้กำกับขับรถให้และเชื่อว่าไส้ศึกสั่งทุกด่านอำนวยความสะดวกให้ #เป็นที่น่าสังเกตว่า ฮุนเซนไม่กล้ามีปัญหากับไทยตลอดเวลาแปดปีในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

และหลังจากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเดือนสิงหาคม 2566 เชื่อว่าทั้งทักษิณและฮุนเซน นับถอยหลังเวลาที่จะได้ทดแทนบุญคุณกันและกัน สมเด็จฮุนเซน จึงรีบมาพบทักษิณทันทีที่ออกจากโรงพยาบาลมาอยู่บ้านจันทร์ส่องหล้า

สองสหายร่วมน้ำสาบานกับหลานสาว ฮุนเซน ปรึกษาหรือสัญญาอะไรกัน มีแต่ฮุนเซน ทักษิณ และ น.ส.แพทองธารเท่านั้นที่รู้ว่า ได้ตกลงจัดสรรผลประโยชน์อะไรกัน ดังนั้นเมื่อทักษิณจัดการให้ลูกสาวเป็นนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธารจึงบินไปกัมพูชาสัญญาทำโน้นนี่นั่นรวมทั้งสร้างสะพานมิตรภาพแห่งใหม่ให้กัมพูชา

จากประสบการณ์ตรงเชื่อว่า ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชนกัมพูชาที่แจ้งดำเนินการตามคำแนะนำของประธานที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก สมัยพลเอกชาติชาย ที่กลายเป็นประธานที่ปรึกษารัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่เคยแนะนำพลเอกชาติชาย ให้เอาใจ ฮุนเซน อย่างไร ก็แนะนำให้พรรคเพื่อไทยตามใจ ฮุนเซน อย่างนั้น

อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติแตกต่างกันตรงที่ พลเอกชาติชาย มีนายไกรศักดิ์ ลูกชาย คอยกลั่นกรองงานให้ แต่ลูกสาวนายทักษิณ ไม่รู้สี่รู้แปดเรื่องการบริหารและเกมการเมือง ทักษิณ กับ ฮุนเซน จึงจำเป็นกำหนดเกมให้ลูกๆ เล่น

เป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์เมื่อฮุนเซน สั่งให้ลูกจุดไฟโดยที่คิดว่า ลูกสาวสหาย ใช้เครื่องเพลิงเป็น แต่ที่ไหนได้ลูกสาวสหายดันใช้ปืนฉีดน้ำเล่นสงกรานต์ ดับเพลิงกองใหญ่ที่ ฮุน มาเนตก่อทิ้งไว้

ทหารไทยมีอุดมการณ์รักชาติและปกป้องอธิปไตย เมื่อเห็นไฟลามมาถึงชายคาเรือนไทย ก็รีบป้องกันผลักดันเพลิงกองใหญ่ให้โหมกระพือกลับไปเผาผลาญบ้านต้นเพลิงจนวอดวาย

ผู้เป็นพ่อที่สั่งให้ลูกเล่นไฟตกใจร้องขออเมริกา ให้ช่วยมาดับไฟในขณะที่ไฟบรรลัยกัลป์ เผาผลาญกัมพูชาทำท่าจะวอดวายไปทั้งประเทศ ในเวลาเดียวกันไส้ศึกในเมืองไทยก็ห้ามไม่ให้ทหารไทยกระพือไฟไปทางต้นเพลิง ปล่อยให้อเมริกากับมาเลเซียเป็นผู้จัดการ ไฟบรรลัยกัลป์จึงเผาผลาญเรือนไทยพอซ่อมแซมได้ แต่ฝ่ายกัมพูชาเสียหายยากจะฟื้นฟูได้ในรอบหลายปี

นี่มันเป็นอาถรรพณ์หรือกาลีบ้านกาลีเมือง ที่รัฐบาลเพื่อไทยมีที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลกวันไหน มักเกิดเหตุร้ายให้ตระกูลฮุนและตระกูลชิน ถูกไฟบรรลัยกัลป์เผาผลาญอาการสาหัส ตระกูลฮุน ที่ด้านกว่าหนังควายคงอยู่ได้อีกระยะหนึ่ง ส่วนตระกูลชินถูกบรรลัยกัลป์เผาไหม้ ถึงขั้นนับวันถอยหลังตายทางการเมืองได้

จึงพูดได้ว่า วรัญชัย โชคชนะมีสายตายาวไกลหากฟังที่เขาห้ามไม่ให้ นำฮุนเซนเข้าบ้านวันนั้น ไฟบรรลัยกัลป์คงไม่เผาผลาญในวันนี้

สุทิน วรรณบวร