วันเสาร์ ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ทวนกระแสข่าว
ทวนกระแสข่าว

ทวนกระแสข่าว

สุทิน วรรณบวร
วันเสาร์ ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
อาเซียนเปลี่ยนทิศทางการค้า หันไปหา BRICS มากขึ้น

ดูทั้งหมด

  •  

ในขณะที่ประเทศไทยติดกับความขัดแย้งไทย-กัมพูชาขอยกย่องชื่นชมทหาร และข้าราชการทำให้ประเทศไทยได้เปรียบทั้งในสนามรบและสงครามข่าวสาร แต่น่าเสียดายที่ประเทศไทยไม่มีรัฐบาลนำผลงานทหารไปต่อยอดได้ในเวทีโลก

กรณีที่กองทัพประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศนำคณะทูตและผู้ช่วยทหารจาก 23 ประเทศและสื่อมวลชนลงพื้นที่จังหวัดอุบลฯและศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมนั้นคณะทูต และสื่อต่างประเทศได้เห็นธาตุแท้ของกัมพูชาว่าป่าเถื่อนไร้มนุษยธรรมและกระทำผิดกฎสงคราม ผิดกฎหมายสากลโดยไร้ยางอาย ที่ยิงจรวด ยิงปืนใหญ่ใส่พื้นที่พลเรือน ทำลายโรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อและบ้านเรือนประชาชน ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 15 ศพ บาดเจ็บนับร้อยราย และมีผู้หนีความโหดร้ายของกัมพูชาไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวกว่า 130,000 คน


ความโหดร้ายป่าเถื่อนของกัมพูชาชาวโลกได้เห็นกับตา ได้ยินกับหู โดยไม่ต้องชี้แจงเพิ่มเติมอะไรในสหประชาชาติ ขอเพียงท่านทูตเหล่านั้น เป็นพยานให้ประเทศไทยในเวทีโลก แต่ที่น่าเสียดายและน่าสลดใจคือประเทศไทยไม่มีรัฐบาลทำงานเพื่อชาติมาสองปีแล้วประเทศไทยจึงไม่สามารถต่อยอดความสำเร็จของทหาร โดยการฟ้องทหารเขมรและรัฐบาลกัมพูชาเป็นอาชญากรสงครามได้

หากประเทศไทยมีรัฐบาลทำงานเพื่อชาติ ต้องนำผลงานและการพลีชีพพลเรือนและทหาร จัดการกับผู้นำกัมพูชาเป็น อาชญากรสงคราม อย่างน้อยทั่วโลกได้ตราหน้าผู้นำกัมพูชาเป็น อาชญากรสงคราม

หากรัฐบาลฟ้องกัมพูชาเป็นอาชญากรสงครามการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ GBC ในมาเลเซียก็ไม่มีความหมาย แต่ที่ตัวแทนประเทศไทยเป็นไก่รองบ่อนให้กัมพูชา เพราะว่ารัฐบาลไทยไม่มีน้ำยาไม่ฟ้องกัมพูชาในข้อหาอาชญากรสงคราม

คนไทยจึงไม่ได้ตั้งความหวังอะไรจากการประชุม GBC ในมาเลเซียวันที่ 4 ถึง 7 สิงหาคมนี้ เพราะตัวแทนประเทศไทยไปเล่นเกมที่กัมพูชาสมคบกับสหรัฐอเมริกาและมาเลเซียกำหนดกติกาไว้ล่วงหน้า ให้ตัวแทนประเทศไทยไปเข้าฉากเป็นตัวประกอบเท่านั้น เนื่องจากประเทศไทยมีรัฐบาลก็เหมือนไม่มีมาสองปีแล้ว

เอาละ มาดูกันว่า เพื่อนบ้านอาเซียนด้วยกันทั้งที่อยู่ใกล้และไกลออกไป เขาปรับตัวเปลี่ยนทิศทางการค้าอย่างในขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ทำสงครามการค้า ขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้ตามอำเภอใจสร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลก

ประเทศยักษ์ใหญ่ อาทิ จีน อินเดีย รัสเซีย ในฐานะผู้ก่อตั้ง BRICS (บริกส์) กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ เริ่มตอบโต้ ทรัมป์ โดยการส่งเสริมการค้าเสรีและลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยการใช้เงินสกุลท้องถิ่นซื้อขายแลกเปลี่ยนกันซึ่งประเทศเอเชียใต้และแอฟริกาได้เริ่มมาตรการของบริกส์ตอบโต้ทรัมป์บ้างแล้ว และบางชาติในอาเซียนก็เริ่มปรับตัวเช่นกัน

วันที่ 31 กรกฎาคม ประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียประธานหมุนเวียน Brics ได้เปิดพระราชวังเครมลิน ให้การต้อนรับ นายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศ สปป.ลาวในโอกาสเดินทางไปเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม -1 สิงหาคม 2568

การเดินทางเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการของประธานประเทศลาวรอบนี้ ทั้ง 2 ประเทศได้มีการลงนามในเอกสารข้อตกลงความร่วมมือรวม 7 ฉบับ ซึ่ง 1 ในนั้น เป็นความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์ ระหว่าง Rosatom บริษัทด้านพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซีย กับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของลาว

ปธน.ปูติน กล่าวขอบคุณผู้นำ สปป.ลาว สำหรับของขวัญที่มอบให้กับรัสเซียเป็นช้างจำนวน 2 เชือก

ในเวลาเดียวกัน และสำนักข่าวทางการรัสเซียรายงานว่าประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน จะหารือกับกษัตริย์สุลต่านอิบราฮิมแห่งมาเลเซีย ในวันที่ 6 สิงหาคม ณ กรุงมอสโก และ เวียดนามกับอินโดนีเซียมีกำหนดเดินทางไปเยือนมอสโกเร็วๆ นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้า

ข่าวจากรัสเซียบ่งชี้ว่า อาเซียนได้เลือกข้างแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินโดนีเซีย ที่ปธน.ทรัมป์ขู่เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมว่า หากอินโดนีเซีย ยังคงเป็นหุ้นส่วนบริกส์ และปฏิบัติตามนโยบายลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐ ปธน.ทรัมป์ จะขึ้นภาษีนำเข้าจากอินโดนีเซียจาก 32% เป็น 42%

วันที่ 15 กรกฎาคม นายปราเซตโย ฮาดี รัฐมนตรีประจำทำเนียบประธานาธิบดีอินโดนีเซีย แถลงว่า รัฐบาลจาการ์ตาจะไม่มีทางออกจากการเป็นสมาชิกบริกส์ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่

ปรากฏว่า วันที่ 31 กรกฎาคม ปธน.ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีอินโดนีเซีย 19% เท่ากับมาเลเซีย กัมพูชาและประเทศไทย ชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยหยุดยิงกับกัมพูชาหรือไม่ ประเทศไทยก็ถูกภาษีเท่ากับอินโดนีเซีย ที่ ปธน.ทรัมป์ ขู่จะขึ้นภาษีเป็น 42%

ส่วน สปป.ลาวกับพม่าไม่มีปริมาณการค้ากับสหรัฐมากนักสปป.ลาวจึงไปหารัสเซียที่คบค้ากันมานานและลงนามทำสัญญาการค้ากับรัสเซียสบายใจกว่า

สหภาพเมียนมาที่ถูกกีดกันจากสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่พลเอกมิน อ่อง หล่าย ยึดอำนาจจากพรรคเอ็นแอลดีของออง ซาน ซู จี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 รัฐบาลทหารพม่ามีความสัมพันธ์ทางการค้าความมั่นคงกับจีน รัสเซีย อินเดีย มาเป็นเวลายาวนาน พม่าจึงไม่แคร์ว่า สหรัฐขึ้นภาษีการค้าต่อพม่าเท่าไหร่ ทรัมป์เสียอีกกลับตีไพ่โง่ให้พม่า โดยการส่งจดหมายไปถึงพลเอกมิน อ่อง หล่าย เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากพม่า 42% ทั้งๆ ที่ไม่มีความสัมพันธ์การค้ามาสี่ปีแล้ว

เมื่อได้รับจดหมาย พลเอกมิน อ่อง หล่าย ถือว่า ปธน.ทรัมป์ รับรองรัฐบาลทหารพม่า เขาจึงชื่นชมยกย่องทรัมป์ว่า “เป็นผู้นำแข็งแกร่ง นำพาประเทศชาติสู่ความรุ่งโรจน์ด้วยอุดมการณ์จิตวิญญาณรักชาติอย่างแท้จริง” กินลูกยอจากพม่าเข้าไป ทรัมป์ คงฝันถึงรางวัลโนเบล ถึงได้แจ้งกับมิน อ่อง หล่ายว่า สหรัฐได้ยกเลิกแซงก์ชั่นต่อคนในเครือข่ายรัฐบาลทหารพม่าแล้ว

เมื่อ ปธน.ทรัมป์ รับรองรัฐบาลทหารพม่ากลายๆ และยกเลิกคว่ำบาตรคนในเครือข่ายรัฐบาลทหาร พลเอกมินอ่อง หล่าย ก็เปิดเกมรุกทางการเมืองโดยการประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินที่รัฐบาลทหารพม่าใช้ปกครองประเทศมา 4 ปี ซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารพม่าแถลงวันที่ 1 ส.ค.ว่า “ภาวะฉุกเฉินยกเลิกโดยสิ้นเชิงตั้งแต่วันนี้ เพื่อที่จะเปิดทางให้จัดการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยหลายพรรค” เขาแถลงต่อผู้สื่อข่าว

อย่างไรก็ตาม ไม่กี่ชั่วหลังจากนั้น ทีวีทางการพม่ารายงานว่ากฎอัยการศึกและภาวะฉุกเฉินอาจประกาศใช้บางส่วนในเก้าพื้นที่ของ 14 ภูมิภาคและรัฐของพม่า เนื่องจากความกังวลถึงความรุนแรงด้วยอาวุธและการก่อขบถ ซอ มิน ตุน กล่าวด้วยว่า “การเลือกตั้งจะมีขึ้นภายใน 6 เดือน คือจะมีเลือกตั้งในเดือนธันวาคม และเดือนมกราคม”

พลเอกมิน อ่อง หล่าย เปลี่ยนสถานะจากผู้นำรัฐบาลทหารเป็นหัวหน้าคณะกรรมการเตรียมการเลือกตั้ง ผู้มีอำนาจลงนามรับรองพรรคการเมืองที่ส่งสมาชิกลงสมัคร “เราผ่านขั้นตอนที่หนึ่งมาแล้ว บัดนี้เรากำลังเข้าสู่ขั้นตอนที่สอง” หนังสือพิมพ์ นิวไล์ออฟเมียนมา รายงานคำพูดพลเอก มิน อ่อง หล่าย และ รายงานด้วยว่า พลเอกมิน อ่อง หล่าย เป็นหัวหน้าคณะ 11 คน
กำกับดูแลการเลือกตั้ง

ในวันเดียวกัน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนแถลงว่า “พรรคการเมืองและหลายกลุ่มหลายฝ่ายในพม่าแก้ปัญหาความแตกต่างกันผ่านกระบวนการเมือง ภายใต้รัฐธรรมนูญและกรอบกฎหมายอย่างเหมาะสม” พรรคการเมืองต่างพากันลงทะเบียนสมัครรับเลือกตั้ง และฝึกการใช้เครื่องมือทันสมัยที่จีนมอบได้เริ่มขึ้นแล้ว

การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในพม่าถูกสหรัฐและตะวันตกประณามว่า เป็นการเลือกอย่างน่าละอายในเวลาเดียวกันที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนออกแถลงการณ์ว่า “การเลือกตั้งในพม่าไม่ใช่ความสำคัญอันดับต้นๆ”

จึงพูดได้ว่าสมาชิกอาเซียนมีความเห็นแตกต่างกันทั้งด้านความมั่นคง การเมือง และเศรษฐกิจการค้า ขึ้นอยู่กับว่าสมาชิกกลุ่มใดเอนเอียงไปทางมหาอำนาจฝ่ายไหน สมาชิกอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย สปป.ลาว พม่า และเวียดนามกำลังหาตลาดใหม่ในกลุ่มบริกส์

ส่วนกัมพูชาหาจุดยืนไม่ได้ ทั้งๆ ที่จีนลงทุนมากที่สุดในกัมพูชาถึง 49% ของการลงทุนทั้งหมดในประเทศ โครงการสร้างพื้นฐานถนน รถไฟ ท่าเรือ แม้แต่สนามกีฬาก็จีนสร้างให้ พูดได้ว่าจีนถอดท่อออกซิเจนวันไหนกัมพูชาหมดลมหายใจวันนั้นแต่เหตุการณ์เฉพาะหน้า เมื่อกัมพูชาเพลี่ยงพล้ำต่อกองทัพไทย กัมพูชาจำเป็นต้องเกาะขาสหรัฐเพื่อหยุดยั้งการล่มสลายที่ถูกทำลายโดยกองทัพไทย

ส่วนประเทศไทยที่มีรัฐบาลหัวขาดไม่รู้จะนำพาประเทศไปทิศทางไหน คนไทยจึงได้แต่ภาวนาให้กระบวนการยุติธรรมแสดงความศักดิ์สิทธิ์โดยไว เพื่อที่ประเทศไทยจะได้รัฐบาลใหม่นำพาประเทศไทยพ้นวิกฤตรอบด้านไปได้ ด้วยความเชื่อว่าไม่มีรัฐบาลไหนเลวร้ายไปกว่านี้

สุทิน วรรณบวร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
07:22 น. 7 จว.สถานการณ์ปกติ ตลอดคืนถึงเช้านี้ไร้เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา
07:13 น. บีโอไอ ผุดมาตรการช่วยนักลงทุน หลังแบกต้นทุนขนส่งเพิ่มจากเหตุปิดด่าน
07:00 น. พาณิชย์จับมือเอกชนขยายตลาดส่งออกข้าวไทย
06:52 น. การบินไทย โชว์ผลงานแกร่ง ครึ่งปีแรกสร้างรายได้กว่า 9.64 หมื่นล้าน
06:41 น. ‘กรมอุตุนิยมวิทยา’รายงานบางพื้นที่ยังมี‘ฝนฟ้าคะนอง’ 10-15 ส.ค.ตกหนักบางแห่ง
ดูทั้งหมด
(คลิป) เผยความลับ'เขมร' แห่กลับ ที่แท้มันเป็นอย่างนี้นี่เอง!
'สิงคโปร์'มองเหตุปะทะไทย-กัมพูชา สะท้อนความล้มเหลวของผู้นำ
(คลิป) เปิดหลักฐานสำคัญ ภาพจากดาวเทียม แฉ! 'เขมร' ขนอาวุธเตรียมตัวบุก 'ไทย'
'BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน' ถูกสอบเครียด หลุดปากเพิ่งเป็นทหารมาได้ 9 เดือน
(คลิป) 'เจ๊ปอง' ยอมพูดครั้งแรก! เชื่อหรือไม่! 'ลุงตู่' กับดีลลับ 'ทักษิณ'
ดูทั้งหมด
สิงห์สีหราชยุคนี้คือขี้ข้านักการเมืองเลว?
กองทัพนำพา เป็นขวัญและกำลังใจ ที่เขตแดนไทย-กัมพูชา
ออมกำลัง?(2)
แวดวงการเงิน : 9 สิงหาคม 2568
บุคคลแนวหน้า : 9 สิงหาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘กรมอุตุนิยมวิทยา’รายงานบางพื้นที่ยังมี‘ฝนฟ้าคะนอง’ 10-15 ส.ค.ตกหนักบางแห่ง

ชาวศรีสะเกษยังกังวล! ไม่มั่นใจสถานการณ์ชายแดน เสียงปืนใหญ่ยังหลอน ยังไม่กล้ากลับบ้าน

มาเลเซียไม่ถอย! สานต่อแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา แม้หมดวาระประธานอาเซียนปลายปี

รวบ อดีต รปภ.โรงพยาบาลแสบ! ตระเวนลักทรัพย์ ซ้ำเติมทุกข์ญาติคนป่วย

'คำรณ ปราโมช'โพสต์เคารพรัก'ลุงตู่'ไม่เสื่อมคลาย ชาวเน็ตแห่ให้กำลังใจเพียบ

เปิดภาพน่ารัก! 'แก้ว อภิรดี'เสิร์ฟโมเมนต์หวานให้'เสธ.ต๊อด' ยกเค้กเซอร์ไพรส์วันเกิด

  • Breaking News
  • 7 จว.สถานการณ์ปกติ ตลอดคืนถึงเช้านี้ไร้เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จว.สถานการณ์ปกติ ตลอดคืนถึงเช้านี้ไร้เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา
  • บีโอไอ ผุดมาตรการช่วยนักลงทุน หลังแบกต้นทุนขนส่งเพิ่มจากเหตุปิดด่าน บีโอไอ ผุดมาตรการช่วยนักลงทุน หลังแบกต้นทุนขนส่งเพิ่มจากเหตุปิดด่าน
  • พาณิชย์จับมือเอกชนขยายตลาดส่งออกข้าวไทย พาณิชย์จับมือเอกชนขยายตลาดส่งออกข้าวไทย
  • การบินไทย โชว์ผลงานแกร่ง ครึ่งปีแรกสร้างรายได้กว่า 9.64 หมื่นล้าน การบินไทย โชว์ผลงานแกร่ง ครึ่งปีแรกสร้างรายได้กว่า 9.64 หมื่นล้าน
  • ‘กรมอุตุนิยมวิทยา’รายงานบางพื้นที่ยังมี‘ฝนฟ้าคะนอง’ 10-15 ส.ค.ตกหนักบางแห่ง ‘กรมอุตุนิยมวิทยา’รายงานบางพื้นที่ยังมี‘ฝนฟ้าคะนอง’ 10-15 ส.ค.ตกหนักบางแห่ง
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

อาเซียนเปลี่ยนทิศทางการค้า หันไปหา BRICS มากขึ้น

อาเซียนเปลี่ยนทิศทางการค้า หันไปหา BRICS มากขึ้น

9 ส.ค. 2568

สทร.กับที่ปรึกษาบ้านพิษฯ เป็นอาถรรพณ์หรือกาลีบ้านกาลีเมือง

สทร.กับที่ปรึกษาบ้านพิษฯ เป็นอาถรรพณ์หรือกาลีบ้านกาลีเมือง

8 ส.ค. 2568

ความยุติธรรมล่าช้าคือความอยุติธรรม

ความยุติธรรมล่าช้าคือความอยุติธรรม

5 ส.ค. 2568

กัมพูชาปรามแก๊งไซเบอร์สแกม แบบขายผ้าเอาหน้ารอด

กัมพูชาปรามแก๊งไซเบอร์สแกม แบบขายผ้าเอาหน้ารอด

2 ส.ค. 2568

ตามก้นสหรัฐและกัมพูชานำชาติสู่หายนะในความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์

ตามก้นสหรัฐและกัมพูชานำชาติสู่หายนะในความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์

1 ส.ค. 2568

คติ:สงครามคือปราบศัตรูให้อยู่หมัด ก่อนเจรจาสันติภาพ

คติ:สงครามคือปราบศัตรูให้อยู่หมัด ก่อนเจรจาสันติภาพ

29 ก.ค. 2568

Last dinner ฤา Swan song ของพ่อลูก ชินวัตร

Last dinner ฤา Swan song ของพ่อลูก ชินวัตร

26 ก.ค. 2568

เมื่อทหารไทยเด็ดขาดสร้างความขยาดให้กัมพูชาไม่กล้าทำสงครามกับไทย

เมื่อทหารไทยเด็ดขาดสร้างความขยาดให้กัมพูชาไม่กล้าทำสงครามกับไทย

25 ก.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved