คนไทยจำนวนไม่น้อยฟันธงตรงกันว่า แพทองธาร ชินวัตร ต้องหลุดพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะมีความผิดด้านจริยธรรมทางการเมืองอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการสนทนากับฮุนเซน แห่งกัมพูชา โดยคำพูดในบทสนทนานั้นส่อสะท้อนชัดเจนว่ายอมให้ประเทศไทยตกอยู่ในสภาพไก่รองบ่อนของกัมพูชา แถมยังมีคำพูดเลวร้ายที่ว่าทหารไทยเป็นศัตรูกับนายกรัฐมนตรีไทย แต่นายกรัฐมนตรีไทยดันประกาศตัวเป็นฝ่ายเดียวกันฮุนเซน แล้วก็ปรากฏต่อมาว่าฮุนเซนสั่งให้ทหารกัมพูชายิงจรวดถล่มไทยอย่างหนัก จนทำให้ประชาชนไทยและทหารไทยเสียชีวิตรวมกันประมาณ 30 คน บาดเจ็บสาหัสอีกหลายสิบคน บ้านเรือน ทรัพย์สินของราชการและประชาชนเสียหายประเมินค่าไม่ได้

ความผิดที่ชัดเจนที่เกิดจากความจงใจของแพทองธารเป็นสิ่งที่สาธารณชนประจักษ์เป็นอย่างดี แต่ขณะนี้ยังต้องรอดูว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเรื่องนี้อย่างไร แต่ก็มีข่าวไม่ดีนักกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางคน เพราะประชาชนจำนวนไม่น้อยยังฝังใจกับคำของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2544 ที่บอกว่า บกพร่องโดยสุจริต จนทำให้ทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ จนสุดท้ายบ้านเมืองของเราก็เกิดปัญหาหนักตามมา รวมถึงยังจดจำฝังใจกับคำว่า ทุจริตเชิงนโยบาย ที่เป็นตราบาปของการเมืองไทยจวบจนปัจจุบัน 

ขอย้ำว่าคำพูดในบทสนทนาระหว่างแพทองธารกับฮุนเซนคือการขายชาติไทยให้กัมพูชาอย่างชัดเจน เพราะไม่มีนายกรัฐมนตรีของประเทศไหนบนโลกนี้จะบอกกับผู้นำการเมืองของอีกฝ่ายหนึ่งว่าจะเอาอะไรก็ขอให้บอกมา แล้วจะจัดการให้ทันที และไม่มีนายกรัฐมนตรี หรือผู้นำการเมืองหน้าไหนในโลกนี้ประกาศว่าทหารของประเทศตนเองเป็นศัตรูกับรัฐบาล แล้วรัฐบาลดันไปเป็นมิตรรักกับประเทศอื่น 

แพทองธารทำผิดด้วยความตั้งใจ แต่กลับแก้ตัวแบบน่าสมเพช น่าขยะแขยงว่าพูดไปเพราะความรักชาติ ขอย้ำว่าไม่มีผู้ประเทศไหนบนโลกใบนี้รักชาติด้วยการประกาศตัวเป็นศัตรูกับทหารของตนเอง แต่ต้องย้ำว่าคำพูดของแพทองธารคือคำพูดที่ประกาศให้กัมพูชารับรู้โดยทันทีว่าสยบยอมใต้เบื้องบาทของฮุนเซน การกระทำดังกล่าวไม่ใช่การรักชาติ แต่มันคือการทำลายชาติอย่างแท้จริง

ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทยบอกกับฮุนเซนว่าทหารไทยเป็นศัตรู แบบนี้มันคือการประกาศว่ารัฐบาลไม่สนับสนุนการทำงานของทหาร เมื่อฮุนเซนได้ยินเช่นนี้ก็ต้องมั่นใจแล้วว่าสามารถถล่มทหารไทยได้ทันที เพราะทหารไทยกลายเป็นศัตรูของรัฐบาลแพทองธาร

คนไทยที่ไม่โง่เขลาเบาปัญญาจนเกินไป เมื่อได้ฟังบทสนทนาของแพทองธารกับฮุนเซนแล้ว ก็ต้องเข้าใจตรงกันทันทีว่ามันคือการประกาศตัวเป็นพันธมิตรกับฮุนเซน ถามว่า แพทองธารไม่รู้หรือว่าฮุนเซนประกาศว่าต้องการนำเรื่องพรมแดนของไทยที่กัมพูชาต้องการครอบครองไปขึ้นศาลโลก อย่าลืมว่ากัมพูชาประกาศเรื่องนี้มาตลอด แล้วคำประกาศนั้นก็เกิดมาก่อนที่แพทองธารมีบทสนทนากับฮุนเซน เพราะฉะนั้น จึงเข้าใจได้ว่าแพทองธารสนับสนุนให้ฮุนเซนได้ครอบครองดินแดนของไทยตามความต้องการ

ใครที่ได้อ่านคำแก้ตัวแสนไร้สาระที่แพทองธารส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ โดยอ้างเทคนิคการเจรจาแบบไร้ตรรกะก็จะยิ่งสมเพชเวทนาในตัวแพทองธารหนักเข้าไปอีก แล้วก็ต้องเวทนาตัวเองและคนไทยที่ต้องอยู่ใต้การบริหารงานของคนที่สิ้นไร้สติ ไร้ปัญญา ไร้ความละอาย

ความหวังของคนไทยในยามนี้คือ หวังให้แพทองธารพ้นไปจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยเร็ววัน เพราะการปล่อยให้แพทองธารอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปอีกเพียง 1 วันก็หมายถึงความวินาศบรรลัยฉิบหายของประเทศ ดังนั้น ประชาชนไทยจึงหวังจะเห็นว่าประเทศไทยไม่มีนายกรัฐมนตรีชื่อแพทองธาร ชินวัตร และไม่ต้องการเห็นสมาชิกรายใดในตระกูลทักษิณ ชินวัตร ได้กลับมามีอำนาจรัฐในประเทศไทยอีกเพราะที่ผ่านมานั้นประเทศเสียหายจนเกินเยียวยาเพราะการกระทำของคนในครอบครัวทักษิณ ชินวัตร