วันอังคาร ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันอังคาร ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
ถ้านายกฯ รอด ประเทศไม่รอด จริงหรือ?

ดูทั้งหมด

  •  

ใกล้วันที่ศาลจะวินิจฉัยชี้ขาด เริ่มมีการปั่นกระแสแปลกๆ ออกมา

1. มีการปั่นกระแสด้วยข่าวเท็จ อ้างว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางท่าน ได้กล่าวกับนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ ในห้องไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญว่า “นั่งลงลูก”


เพื่อให้คนรู้สึกว่า ตุลาการบางท่านแสดงท่าทีเอ็นดู หรือมีใจ หรือเกรงใจนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์

ปรากฏว่า เมื่อวานนี้ ศาลรัฐธรรมนูญออกเอกสารข่าวชี้แจง และประกาศจะดำเนินคดีกับผู้กระทำการบิดเบือน

“...ภายหลังวันดังกล่าว มีการเผยแพร่คลิปและข่าวในสื่อสารมวลชนหลายช่องทาง อันเป็นเท็จบิดเบือนข้อเท็จจริงในกระบวนการไต่สวนของศาลลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวอ้างว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งพูดกับผู้ถูกร้องว่า “นั่งลงลูก” ซึ่งความจริงท่านพูดว่า “นั่งลงครับ” 

การเผยแพร่และบิดเบือนดังกล่าว เข้าข่ายเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลตามมาตรา 38 และมาตรา 39 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 และข้อ 10 และข้อ 11 ของข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2562

สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจะดำเนินการทางกฎหมายแก่บุคคล ที่กระทำการบิดเบือนและเผยแพร่คลิปดังกล่าวต่อไป...”

กรณีนี้ ตอกย้ำว่า การติดตามข่าวสารพึงต้องระมัดระวัง

ข่าวใดหวือหวา เรื่องที่โดนใจ สะใจ หรือทำให้เสียใจมากๆ อาจไม่เป็นความจริง แต่เป็นส่วนหนึ่งของการปั่นหัวคนในสังคม

พึงระมัดระวังติดตามข่าวจากแหล่งที่เชื่อถือได้

2. น่าสงสัย... นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในวันที่นายกฯอุ๊งอิ๊งค์ไปศาลรัฐธรรมนูญ

ระบุว่า “...ได้ส่งความปรารถนาดี และอวยพรท่านให้มีความสุข คุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพให้พรกับท่าน ในการทำให้พบกับความสุขความเจริญ เอาชนะภยันตรายทั้งปวง และขอให้การขึ้นศาลในวันนี้ราบรื่น ทุกฝ่ายเข้าใจถึงความจริงใจ และความตั้งใจจริงของนายกฯ ที่พยายามทำประโยชน์ให้กับประเทศ”

เมื่อถามว่า ได้มีการสอบถาม น.ส.แพทองธาร ถึงการเตรียมตัวไปขึ้นศาลวันนี้หรือไม่

นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ไม่ได้คุย เป็นหน้าที่ของท่านเอง ท่านรู้ดีที่สุด เพราะเรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้วว่าท่านมีความตั้งใจ ซึ่งเชื่อว่าไม่มีอะไรกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของประเทศ และเชื่อว่าเป็นความตั้งใจพยายามแก้ปัญหาด้วยการพูดเพื่อให้ประเทศได้ประโยชน์สูงสุด และไม่เกิดความรุนแรง และไม่ให้มีการใช้อาวุธหํ่าหั่นกัน เพราะจะเป็นภัยต่อประชาชนในชายแดนรวมถึงกำลังทหารทั้งหมดที่กำลังรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ดังนั้น เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ชัดเจนว่าจะสามารถชี้แจงและทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนได้ จะได้ตัดสินใจนายกฯ ด้วยความเมตตา และความเข้าใจในสิ่งที่นายกฯ แสดงออก”

นี่คือการพยายามชี้นำสังคมและ/หรือศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่? ให้เมตตา หรือเข้าใจในความตั้งใจจริงของนายกฯ เพื่อให้นายกฯรอดพ้นคดี หรือไม่?

3. นายเทพไท เสนพงษ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาเตือนว่า

“...ช่วงนี้ ถ้าใครได้ติดตามความเคลื่อนไหวของแกนนำพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ระดับรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา หรือแกนนำคนอื่นๆ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในรัฐบาลและในพรรคเพื่อไทย ก็จะเห็นการแสดงท่าทีต่อคดีคลิปเสียงหลุด ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ในวันที่ 29 สิงหาคม 2568 ในลักษณะมีความเชื่อมั่น มั่นใจ เชื่อว่านางสาวแพทองธารจะไม่ลาออกก่อนวันตัดสินคดี และเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินให้นางสาวแพทองธาร ยังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป

คำถามคือ บุคคลเหล่านี้เอาความมั่นใจมาจากไหน หรือมีความเชื่อมั่นต่อคดีนี้ว่า นางสาวแพทองธารจะรอดพ้นไปได้อย่างไร

คงน่าจะมาจากเหตุผล 3 ข้อ คือ

1.ปรากฏการณ์ที่นางสาวแพทองธาร เดินทางไปศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อไต่สวนพยานคดีคลิปเสียงหลุดด้วยตัวเอง ท่ามกลางการคาดคะเนว่าไม่กล้าไป ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นางสาวแพทองธาร มีความมั่นใจ เพราะโดยปกตินางสาวแพทองธาร มักจะหลีกเลี่ยงการตอบคำถาม แต่เมื่อกล้าที่จะไปไต่สวนพยาน ก็แสดงว่านางสาวแพทองธาร มีความมั่นใจ และมีกระแสข่าวว่านางสาวแพทองธาร สามารถตอบข้อซักถามของศาลรัฐธรรมนูญได้ดี เตรียมตัวมาดี มีความคล่องแคล่วในการตอบ จึงน่าจะเป็นสัญญาณที่ดี

2.น่าจะมาจากกรณีที่ศาลอาญา ตัดสินคดีการกระทำความผิดตามประมวลอาญา มาตรา 112 ของนายทักษิณ ชินวัตร มีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง ซึ่งพรรคเพื่อไทยประเมินว่า น่าจะเป็นสัญญาณเบื้องต้นของคดีแรก ที่นายทักษิณชนะคดีไปได้ และมีความเชื่อว่า 2 คดีที่เหลือ คือคดีคลิปเสียงหลุดของนางสาวแพทองธารในศาลรัฐธรรมนูญ และคดีชั้น 14 ของนายทักษิณในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็สามารถจะชนะคดีได้ ซึ่งเป็นความมั่นใจของคนพรรคเพื่อไทย

3.เนื่องจากมีกระแสข่าวปล่อย กระแสข่าวลือ กระแสข่าววิเคราะห์ว่า มติของศาลรัฐธรรมนูญ จะออกมาในลักษณะ 5:4 ให้นางสาวแพทองธาร รอดจากคดีนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสว่าจะหลุดจากตำแหน่ง 9:0 บ้าง 7:2 บ้าง 6:3 บ้าง ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า พลิกกลับมาเป็น 5:4 ผลเป็นคุณต่อนางสาวแพทองธาร

คงน่าจะมาจากเหตุผล 3 ข้อนี้ จึงทำให้สมาชิกและแกนนำพรรคเพื่อไทย มีความมั่นใจ และออกมายืนยันกับสื่อมวลชนว่า ปิดประตูตาย ไม่มีการลาออกก่อนวันมีคำวินิจฉัย และเชื่อมั่นว่าจะผ่านพ้นคดีนี้ไปได้ นางสาวแพทองธาร ยังเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป พรรคเพื่อไทยไม่ต้องเตรียมการใดๆตามที่มีข่าวว่า ถ้าหากนางสาวแพทองธาร หลุดพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะดันนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยขึ้นเป็นนายกฯคนต่อไป และพรรคเพื่อไทยจะไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือนายอนุทิน ชาญวีรกูล ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน...”

ความเคลื่อนไหวที่คุณเทพไทหยิบยกขึ้นมาตั้งข้อสังเกตนั้น คือ ตัวอย่างวิธีการพยายามชี้นำกระแสสังคม เพื่อประโยชน์ของฝ่ายนายกฯอุ๊งอิ๊งค์

เครือข่ายพรรคเพื่อไทยพยายามแสดงความมั่นใจเกินเบอร์

ไม่ต้องมีแผนสำรอง ไม่ต้องเตรียมการ เพราะเชื่อมั่นใจเกินร้อย

3. การเคลื่อนไหวนอกศาลในลักษณะสร้างความเชื่อมั่น สร้างความมั่นใจ สร้างความชอบธรรมให้นายกฯอุ๊งอิ๊งค์รอดพ้นคดี และอยู่ในอำนาจต่อไป เป็นพฤติการณ์แบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นสมัยคดีซุกหุ้นของนายทักษิณ ชินวัตร

และเป็นการนำแนวทางการต่อสู้คดีบางส่วนของนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ ออกมาปั่นกระแสนอกศาลนั่นเอง

เพราะในการต่อสู้คดี นายกฯอุ๊งอิ๊งค์ก็พยายามจะอ้างกับศาลรัฐธรรมนูญว่า

“...ผู้ถูกร้องขอประทานกราบเรียนต่อศาลว่า เมื่อคํานึงถึงสถานการณ์ของประเทศชาติเวลานี้ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองล้วนเป็นภาวะที่ประเทศไทยต้องเร่งแก้ปัญหาหลายเรื่องที่มีความสําคัญยิ่ง

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดน สถานการณ์การเจรจาเรื่องการค้ากับประเทศที่เป็นคู่ค้าสําคัญ และเป็นปัญหาระดับโลก สถานการณ์ข้อพิพาท และการใช้กําลังตอบโต้กันระหว่างประเทศในหลายภูมิภาค ของโลกที่ส่งผลกระทบต่อพลเมืองไทยที่อาศัยหรือไปทํางานอยู่ในประเทศเหล่านั้น รวมถึงการแก้ไขผลกระทบ ที่อาจถูกต้องถึงประเทศไทยในด้านอื่นๆ ด้วย

เมื่อคํานึงถึงสัดส่วนความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น หากผู้ถูกร้อง ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีได้ต่อไปตามคําขอของผู้ร้อง เป็นที่แน่ชัดว่าย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการบริหารราชการแผ่นดิน และแสดงถึงการขาดเสถียรภาพทางการเมืองภายในชาติ รวมถึงการกําหนดท่าที ความชัดเจนทางนโยบาย และโอกาสในการต่อรองเพื่อรักษาประโยชน์ของประเทศที่จะผันแปรไป

การที่ผู้ถูกร้องจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไปอย่างต่อเนื่องร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมุ่งมั่นเดินหน้าเพื่อแก้ปัญหาของบ้านเมืองโดยไม่มีการชะงักงันหรือเกิดความลังเลในการปฏิบัติราชการแผ่นดิน ย่อมเป็นประเด็นสําคัญและเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจมองข้ามได้

...เมื่อคํานึงถึงความเป็นสัดส่วนในความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการหยุดปฏิบัติหน้าที่ ของข้าพเจ้าตามที่กล่าวมา หากข้าพเจ้ายังคงปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ของ ประเทศชาติและอธิปไตยของชาติ อีกทั้งสามารถปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะบูรณาการเจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายให้สนับสนุนการทําหน้าที่ของฝ่ายทหารและแสดงถึงความเข้มแข็งภายในชาติ ซึ่งส่งผลเชิงจิตวิทยาแก่กัมพูชาในการรุกรานประเทศไทย...”

เป็นการอ้างที่ฟังไม่ขึ้น

ลองคิดดู... เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2568 ประชาชนคนไทยก้าวเท้าออกมาชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เนืองแน่น เนืองนอง ล้นทะลัก ฝนตกหนักก็ไม่ถอย

ด้วยเห็นว่า ผู้นำรัฐบาลประพฤติตนไม่เหมาะสมร้ายแรง สมควรลาออกจากตำแหน่ง

ผลสำรวจนิด้าโพล “การเมืองไทยไปต่อแบบไหนดี” ตอกย้ำว่า ประชาชนต้องการให้แพทองธารพ้นจากอำนาจรัฐไปมากกว่า 80% (ลาออก 42.37% + ยุบสภา 39.92%)

ยิ่งกว่านั้น ผลสำรวจ “นิด้าโพล” เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ยังตอกย้ำว่า ประชาชนไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่ไว้เนื้อเชื่อใจกองทัพมากกว่า

โดยกองทัพ มีกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ

ซึ่งหากรวมที่ไว้ใจกองทัพมากและค่อนข้างไว้ใจ จะไว้ใจสูงถึง 95% !!!!

ขณะที่รัฐบาลไทย มีตัวอย่างเพียงร้อยละ 11.45 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 4.66 ระบุว่า ไว้วางใจมาก

แต่ร้อยละ 54.58 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 29.01 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ

ซึ่งหากรวมที่ไม่ไว้ใจรัฐบาลเลยและไม่ค่อยไว้ใจ จะสูงถึง 84% !!!!

เรียกว่า ประชาชนไม่มีความไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งรวมถึงตัวนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์เอง ต่อการจะกลับมาแก้ปัญหาความมั่นคงนี้

เพราะฉะนั้น การอ้างว่าต้องการกลับมาบริหารประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการบริหารราชการแผ่นดินใดๆ ย่อมไร้น้ำหนักโดยสิ้นเชิง

ตรงกันข้าม น่าสงสัยว่า หากได้กลับมาเป็นนายกฯ จะบริหารราชการแผ่นดิน ท่ามกลางวิกฤตศรัทธาและความเชื่อมั่นได้อย่างไร

4. นายเทพไท เสนพงศ์ เห็นว่า นายกฯอุ๊งอิ๊งค์ไม่น่าจะรอด

แต่ชี้ว่า “อุ๊งอิ๊งค์รอดคดีคลิปเสียง โชคร้ายของประเทศ

สำหรับคดีคลิปเสียงหลุดของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีการพูดคุยกับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภา ประเทศกัมพูชา จนเป็นประเด็นทำให้สว.ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยในกรณีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้นัดฟังคำวินิจฉัย ในวันที่ 29 สิงหาคม 2568

ช่วงนี้ จึงมีการวิพากษ์วิจารณ์ มีการวิเคราะห์ รวมไปถึงมีกระแสสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นกับสังคม ที่เห็นได้ชัดมีแกนนำในรัฐบาลชุดนี้ และแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาประสานเสียงว่า ถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นางสาวแพทองธารไปต่อในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็เป็นความโชคดีของประเทศ ซึ่งเป็นความเชื่อมั่นของคนในพรรคเพื่อไทย และมีการปั่นกระแส เรื่องพฤติกรรมของนางสาวแพทองธาร ไม่ได้กระทำผิด เป็นเจตนาดีที่จะทำเพื่อประเทศชาติ เป็นการหวังดีต่อประเทศชาติ

ถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐรัฐมนตรีต่อไป จะเป็นความโชคดีของประเทศ แต่ว่าในส่วนของประชาชน มีประชาชนจำนวนไม่น้อย ที่มีความรู้สึกว่า ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ก็เป็นความโชคร้ายของประเทศมากกว่า

มีการกล่าวกันว่า ถ้านางสาวแพทองธารรอด ประเทศจะไม่รอด

แต่ถ้านางสาวแพทองธารไม่รอด ประเทศก็จะรอด ซึ่งเป็นความรู้สึกของประชาชนจริงๆ

ถ้าหากจะดูผลการสำรวจของโพลสำนักต่างๆ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ไม่มีความเชื่อมั่นและไม่มีความพึงพอใจในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของนางสาวแพทองธารเลย

คะแนนนิยมของนางสาวแพทองธารอยู่ในระดับ 4 - 5% เท่านั้น ถือว่าต่ำที่สุดในบรรดาความนิยมนายกรัฐมนตรีในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

ไม่ต้องไปเปรียบกับใคร เปรียบเทียบกับความนิยมของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีคะแนนนิยมตกต่ำในอดีต

แต่เมื่อเทียบกันแล้ว เห็นได้ชัดว่า คะแนนนิยมของนางสาวแพทองธารตกต่ำกว่าคะแนนนิยมของนางสาวยิ่งลักษณ์มาก

เมื่อเป็นเช่นนี้ การที่แกนนำพรรคเพื่อไทยออกมาประโคมข่าวว่า ถ้านางสาวแพทองธารได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ก็เป็นความโชคดีของประเทศ แต่คนไทยทั้งประเทศมีความรู้สึกว่าเป็นความโชคร้ายของประเทศไทยและคนไทยทั้งประเทศมากกว่า”

5. เป็นไปได้ว่า ถ้านายกฯอุ๊งอิ๊งค์รอด ...

ในอีกด้านหนึ่ง จะทำให้พรรคการเมืองและนักการเมืองเหลิงอำนาจ หลงอำนาจ ทำแบบนี้ก็ยังสามารถอยู่ในตำแหน่งได้ ไม่ยำเกรงอะไรอีกต่อไป

แล้วประชาชนจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ จะลุกฮือขึ้นต่อต้าน ชุมนุมขับไล่รัฐบาล ทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบ ทั้งในด้านภาพลักษณ์ในด้านลบ และถอยหลังเข้าคลองในด้านการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

อีกไม่กี่วัน รู้เรื่อง

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
10:30 น. วัดม่อนพญานาคคึกคัก!คอหวยแห่ขอพร 'ท้าวเวสสุวรรณ' ก่อนวันหวยออก
10:20 น. ‘เพื่อไทย’มั่นใจคำให้การ‘นายกฯ’ปมคลิปเสียง เชื่อ 29 ส.ค.เดินหน้าต่อ
10:11 น. ‘บิ๊กเต่า’เผยตร.ชิงจับ‘พระอลงกต’กลางดึก เหตุพบมีพฤติการณ์ส่อหลบหนี
09:51 น. รัฐบาลเตรียมรับมือ‘พายุคาจิกิ’ กำชับอพยพทันทีหากเกิดฉุกเฉิน
09:42 น. ‘ภูมิธรรม’ยัน‘บิ๊กเต่า’มีสิทธิ์ร้องปมแต่งตั้งโยกย้าย เตรียมส่งผู้เกี่ยวข้องพิจารณา
ดูทั้งหมด
แผ่นดินไหวขนาด 5.4 ที่เมียนมา แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ถึงอาคารสูงใน กทม.
นักวิชาการสหรัฐฯซัด'ฮุนเซน'กำลังเบี่ยงเบนเพื่อซื้อเวลา เผด็จการทั่วโลกมักอาศัยจังหวะนี้
'สื่อเขมร'หัวหด! ขอโทษลงข่าวเฟคนิวส์ หลังรัฐบาลเรียกคุย หวั่นชีวิตไม่ปลอดภัย
ยิ่งอายุมาก ยิ่งถ่ายยาก? แก้ง่ายนิดเดียว ทำตามนี้???
พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี มีพระบรมราชโองการ ถอดยศ ออกญา เฉง สรีรัตน์ 'วันมรณา'
ดูทั้งหมด
หรือว่าโลกนี้เคยมียักษ์..?
‘ชิน-ฮุน’กับทฤษฎีโดมิโน
เรื่อง (ไม่) ขำ
3 มิติสงคราม
ถ้านายกฯ รอด ประเทศไม่รอด จริงหรือ?
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘เพื่อไทย’มั่นใจคำให้การ‘นายกฯ’ปมคลิปเสียง เชื่อ 29 ส.ค.เดินหน้าต่อ

ทุบสถิติแข้งหงส์! ‘เอ็นกูโมฮา’ซัดชัยนาที90+10

ไม่สมหวังเสียที! หนุ่มวิ่งเปลือยกายแก้บนล่วงหน้า เร่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลัดคิว'ขอรักแท้'

‘ภูมิธรรม’ยันไทยทำถูกต้อง หลัง‘เขมร’บุกรื้อลวดหนาม‘บ้านหนองจาน’

3เขมรหนีอดตาย ลอบเข้าไทยหางานทำ ทหารพรานรวบคาไร่อ้อย

ปิดล้อมค้น17จุด! รวบตัว'หลวงพ่ออลงกต' พ่วง'หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ'ข้อหาฟอกเงิน

  • Breaking News
  • วัดม่อนพญานาคคึกคัก!คอหวยแห่ขอพร \'ท้าวเวสสุวรรณ\' ก่อนวันหวยออก วัดม่อนพญานาคคึกคัก!คอหวยแห่ขอพร 'ท้าวเวสสุวรรณ' ก่อนวันหวยออก
  • ‘เพื่อไทย’มั่นใจคำให้การ‘นายกฯ’ปมคลิปเสียง เชื่อ 29 ส.ค.เดินหน้าต่อ ‘เพื่อไทย’มั่นใจคำให้การ‘นายกฯ’ปมคลิปเสียง เชื่อ 29 ส.ค.เดินหน้าต่อ
  • ‘บิ๊กเต่า’เผยตร.ชิงจับ‘พระอลงกต’กลางดึก เหตุพบมีพฤติการณ์ส่อหลบหนี ‘บิ๊กเต่า’เผยตร.ชิงจับ‘พระอลงกต’กลางดึก เหตุพบมีพฤติการณ์ส่อหลบหนี
  • รัฐบาลเตรียมรับมือ‘พายุคาจิกิ’ กำชับอพยพทันทีหากเกิดฉุกเฉิน รัฐบาลเตรียมรับมือ‘พายุคาจิกิ’ กำชับอพยพทันทีหากเกิดฉุกเฉิน
  • ‘ภูมิธรรม’ยัน‘บิ๊กเต่า’มีสิทธิ์ร้องปมแต่งตั้งโยกย้าย เตรียมส่งผู้เกี่ยวข้องพิจารณา ‘ภูมิธรรม’ยัน‘บิ๊กเต่า’มีสิทธิ์ร้องปมแต่งตั้งโยกย้าย เตรียมส่งผู้เกี่ยวข้องพิจารณา
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ถ้านายกฯ รอด  ประเทศไม่รอด จริงหรือ?

ถ้านายกฯ รอด ประเทศไม่รอด จริงหรือ?

26 ส.ค. 2568

หวยเกษียณ (สลาก กอช.) มาแน่  ไม่ว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ หรือไป

หวยเกษียณ (สลาก กอช.) มาแน่ ไม่ว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ หรือไป

25 ส.ค. 2568

นายกฯอุ๊งอิ๊งค์ รุ่งริ่ง ร่อแร่ อาการหนัก

นายกฯอุ๊งอิ๊งค์ รุ่งริ่ง ร่อแร่ อาการหนัก

22 ส.ค. 2568

นายกฯ สอบตก (จบ)

นายกฯ สอบตก (จบ)

21 ส.ค. 2568

นายกฯ สอบตก ควรพ้นตำแหน่ง  เก้าอี้นายกฯไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของตระกูล

นายกฯ สอบตก ควรพ้นตำแหน่ง เก้าอี้นายกฯไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของตระกูล

20 ส.ค. 2568

แค้นการเมือง  ทำให้เขากระโดง กลายเป็นเขาวงกต

แค้นการเมือง ทำให้เขากระโดง กลายเป็นเขาวงกต

19 ส.ค. 2568

ไม่กล้าตัดสินใจ ก็อย่าอยู่เป็นรัฐบาล

ไม่กล้าตัดสินใจ ก็อย่าอยู่เป็นรัฐบาล

18 ส.ค. 2568

ทรัมป์คุยกับปูติน  และรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ?

ทรัมป์คุยกับปูติน และรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ?

15 ส.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved