ฉากทัศน์การเมืองตอนนี้ ถูกมองข้ามช็อตไปถึงการเลือกตั้งสมัยหน้าแล้ว หากมองตามไทม์ไลน์ หน้าเสื่อตอนนี้ น่ายุบสภาช่วงเดือนมกราคมปีหน้าโน้นและกว่าจะได้รัฐบาลใหม่อีกทีคงจะเป็นกลางๆปีหน้าเช่นกัน แล้วคำถามยอดฮิตก็คือ พรรคไหนจะได้เป็นแกนนำ หรือขั้วอำนาจไหนจะได้เป็นรัฐบาล
ก่อนจะไปถึงคำตอบตรงนั้น มาดูความพร้อมและการจัดทัพของแต่ละพรรคก่อน เริ่มที่พรรคประชาชน หรือพรรคเด็กๆ ในสายตาของนักการเมืองรุ่นเขี้ยวลากดิน โดย เท้ง-ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ได้ออกมาแสดงความมั่นใจในประสบการณ์ทำการเมือง 6 ปี เหมาะสมนั่งนายกฯในอนาคต
ที่เขาออกมาพูดในประเด็นนี้ เป็นเพราะมีคนนำคุณสมบัติของเท้ง-ณัฐพงษ์ ไปเปรียบเทียบกับ ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามีของ เอม-พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ซึ่งเป็นเขยใหญ่ของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังมีข่าวออกมาหนาหูว่า นี่คือตัวเลือกใหม่ที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
คราวนี้มาดูพรรคภูมิใจไทยของอนุทิน ชาญวีรกูล ตอนที่เจรจาต่อรองตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยใหม่ๆ นั้น เหมือนตกเป็นรอง ต้องยินยอมทำตามข้อเสนอของพรรคประชาชนทุกอย่าง บนเงื่อนไข MOA ยุบสภาใน 4 เดือน แต่เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง อนุทินได้อำนาจนายกฯมาเต็มมือ สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไป ค่ายสีน้ำเงินสยายปีกแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
พรรคประชาชนเองก็มองเห็นถึงความผิดปกติตรงนี้ จึงวางธง 4 ประเด็นเตรียมชำแหละรัฐบาลอนุทินในวันแถลงนโยบายปลายเดือน เรื่องแรกคือ การรักษาสัญญาตามเงื่อนไข MOA ยุบสภาใน 4 เดือน สองคดีฮั้วสว.-ที่ดินเขากระโดง สามเรื่องนโยบายเฉพาะหน้าแก้ปัญหาปากท้อง และเรื่องสุดท้าย รายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะบางคนอาจมีปัญหาเรื่องความไม่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม เกมนี้พออ่านออกว่า เพียงแค่หวังปรามๆ เพื่อสยบความอหังการของพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น ตราบใดที่ยังไม่พ้นเส้นตาย 4 เดือน คงยังไม่กล้าปิดเกม เพราะพรรคประชาชนยังต้องยืมมือรัฐบาลเสียงข้างน้อย เดินหน้าไปสู่เป้าหมายหลักคือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ได้นั้นมาถึงขั้นนี้แล้ว คงไม่มีทางเลือกเช่นกัน
ตอนนี้เริ่มมีเสียงค่อนแคะว่า พรรคเด็กๆกว่าจะรู้เดียงสา ก็เป็นนั่งร้านให้เขาโตวันโตคืนจนเอาไม่อยู่แล้ว กว่าจะถึง 4 เดือนยุบสภากระทั่งเลือกตั้งเสร็จ ได้รัฐบาลใหม่ ค่ายสีน้ำเงินก็คงรักษาการไปยาวๆ 8-9 เดือนตามที่เขาว่ากัน ถึงเวลานั้นพละกำลัง-อำนาจ-บารมีของค่ายสีน้ำเงิน คงเติบโตแข็งแกร่งถึงขีดสุด ฝ่ายตรงข้ามคงยุ่งยากรับมือ
มองฉากต่อไป หากพรรคเพื่อไทย รักษาแบรนด์ชินวัตร โดยส่งณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ลงสนามปรับทัพจับกระแสคนรุ่นใหม่จริง และถ้าพ่อตาอย่างทักษิณ ชินวัตร พ้นคุกออกมาแล้วยอมถอยออกไปก่อน ปล่อยให้เขยใหญ่เป็นคนเล่น มีนายหญิงจันทร์ส่องหล้าคุมทัพสู้-สู้ ก็อาจเอาพรรคอยู่ แม้ไม่รู้ว่าจะกู้คืนภาพลักษณ์ที่ตกต่ำกลับคืนมาได้แค่ไหน แต่คงไม่หลุดอันดับ 3
ฉะนั้นไม่ว่า พรรคประชาชน หรือพรรคภูมิใจไทย ใครจะเข้าวินก็ตาม ยังเป็นไปได้สูงว่า น้ำเงิน-แดง-พรรคร่วมรัฐบาลเดิม จะกลับมาล็อกขั้วจัดตั้งรัฐบาลอีกรอบ โดยทิ้งร่องรอยบาดหมางในอดีตไปกับข้ออ้างยุคของคนรุ่นใหม่ ส่วนพรรคสีส้มถ้าไม่แลนด์สไลด์ ก็ยากที่จะถึงฝั่งฝัน เนื่องจากอุดมการณ์แก้ไขรัฐธรรมนูญที่ยังไม่กล้าพูดออกมาเต็มปากนั้น ต่างขั้วกันโดยสิ้นเชิง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี