วันอังคาร ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันอังคาร ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
ทวงคืนเกียรติและศักดิ์ศรีของประเทศไทย ด้วยความจริง และความกล้าหาญ

ดูทั้งหมด

  •  

พอกันที... การทูตแบบอ่อนข้อให้กัมพูชา เพราะผู้นำมีผลประโยชน์และความสัมพันธ์ส่วนตัวกับตระกูลฮุนเซน

ปลดแอกเขมร ออกจากบ่าประเทศไทย และความรู้สึกของคนไทย!!!


ที่ผ่านมา รัฐบาลหลานอังเคิล ถึงได้เกรงใจมันนัก

มันเลยโอหัง ไม่เห็นหัวประเทศไทย แล้วถึงได้กล้าลงมือฆ่าคนไทยและทหารไทยอย่างป่าเถื่อน

มันคงคิดว่า เดี๋ยวหลานมัน เพื่อนมัน ก็จะเอาประเทศไทยมาวางแทบเท้ามันเอง

แต่พอเปลี่ยนรัฐบาล เป็นนายกฯ อนุทิน พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำรัฐบาล (พรรคเพื่อไทยไปเป็นฝ่ายค้าน)

ประเทศไทยเราก็มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ขึ้นกล่าวอย่างผ่าเผย ฉะฉาน บนเวที UNGA สมัยที่ 80

ได้รับการตอบรับจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่ (United Nations General Assembly- UNGA) ด้วยการปรบมือหลายครั้ง

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ ในฐานะตัวแทนรัฐบาลนายกฯอนุทิน ได้นำความ “ภูมิใจไทย” กลับมาให้คนไทยและประเทศไทยอย่างแท้จริง

ทวงคืนเกียรติและศักดิ์ศรีของประเทศไทย ด้วยความจริง และความกล้าหาญ อย่างสง่างาม

1. ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ระบุว่า ในเวที UNGA สมัยที่ 80 เมื่อวานนี้ ไทยได้สกัดกั้นกัมพูชาไม่ให้ใช้เวทีสหประชาชาติ บิดเบือนข้อเท็จจริงแต่ฝ่ายเดียวได้อย่างทันท่วงที จนได้รับการชื่นชมจากคนไทยจำนวนมาก รวมทั้งได้รับการตอบรับจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่ (United Nations General Assembly- UNGA) ด้วยการปรบมือหลายครั้ง

“...เหตุการณ์นี้ ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการทูตเชิงรุกของรัฐบาลใหม่ในสงครามกัมพูชา-ไทยอย่างเป็นทางการ

ซึ่งอาจจะเป็นจุดหักเหนำไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมาได้ หากไทยสามารถสกัดกัมพูชาในทุกเวทีนานาชาติเช่นนี้ได้ต่อไปอย่างต่อเนื่อง

สาเหตุของความสำเร็จในครั้งนี้ น่าจะมีอย่างน้อย 2 ประการ คือ :

3.1) ความสามารถส่วนตัวของรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยคนปัจจุบัน ซึ่งมีประสบการณ์ในเวที UN และเวทีระดับนานาชาติมาก่อนหลายปี รวมทั้งยังเคยทำงานให้ฝ่ายการเมืองหรือรัฐบาลที่ผ่านมาในเรื่องการต่างประเทศ และเคยช่วยร่างสุนทรพจน์สำคัญให้นายกรัฐมนตรีในอดีตมาแล้วอีกด้วย ดังนั้น จึงสามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้เมื่อกัมพูชากล่าวหาไทยในเวที UNGA อย่างรุนแรง

3.2) บทบาทหรือการแทรกแซงของสหรัฐฯ และของปธน.ทรัมป์ ซึ่งในวันที่ 26 ที่ผ่านมาก่อนที่จะมีการขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุม UNGA กันนั้น Deputy Secretary of State ของสหรัฐฯ นาย Christopher Landau ได้เชิญรมต.ต่างประเทศของไทย รองนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีต่างประเทศของกัมพูชาและรัฐมนตรีต่างประเทศของมาเลเซีย ให้พบพูดคุยหารือกันสี่ฝ่ายเรื่องแนวทางยุติความขัดแย้งและข้อเสนอสำคัญของปธน.ทรัมป์ที่จะมีในเรื่องนี้ ซึ่งปธน.ทรัมป์ก็จะเดินทางมาร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนที่มาเลเซียในเดือนหน้านี้และหวังไว้ว่าจะได้แถลงถึงความสำเร็จในเรื่องนี้ในวันนั้นด้วย

บรรยากาศในการประชุมสี่ฝ่ายดังกล่าวเป็นไปด้วยดี แต่หลังจากนั้น กัมพูชาก็ขึ้นเวที UNGA โจมตีไทยอย่างรุนแรง จนทำให้ทางรมต.ของไทยต้องเปลี่ยนสุนทรพจน์ที่ได้เตรียมไว้ และปรับแนวทางชี้แจงจากเดิมมาเป็นการแก้ข้อกล่าวหา พร้อมทั้งระบุชัดเจนถึงพฤติกรรมของกัมพูชาที่บิดเบือน ไม่ทำตามข้อตกลง ต่อหน้าในที่ประชุมทำอย่าง แต่ลับหลังกลับทำอีกอย่างตามที่ปรากฏเป็นข่าว (บางส่วนได้ระบุไว้ในสุทรพจน์ข้อ 23-24 โปรดดูเอกสารคำแปลข้างล่าง)

ที่สำคัญคือ การกระทำเช่นนี้ของกัมพูชา ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่รับรู้รับทราบมานานแล้วเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาทั้งสหรัฐฯและมาเลเซียอย่างชัดเจนด้วย

ทำให้ไทยสามารถนำข้อเท็จจริงดังกล่าวมาใช้ในที่ประชุม UNGA เพื่อลดทอนความน่าเชื่อถือของกัมพูชาได้อย่างมีน้ำหนักและเหมาะสม

4) สรุป การทูตแบบเชิงรุกของไทยที่เพิ่งจะเกิดขึ้นนี้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเพราะความสามารถส่วนตัวของรัฐมนตรี หรือเพราะความจำเป็นบังคับในเหตุการณ์เฉพาะหน้า หรือเพราะมีการแทรกแซงของสหรัฐฯ ที่กลายเป็นผลดีกับไทย หรือจะด้วยเหตุบังเอิญหรือโชคเข้าข้างไทยก็ตาม ก็ผ่านไปได้ด้วยดี และนับเป็นการเริ่มบริบทใหม่ของการทูตไทยในยามสงครามของยุคสมัยปัจจุบัน

นับตั้งแต่นี้ไป ไทยจะต้องเตรียมตัวไปสกัดกัมพูชาอย่างต่อเนื่องและล่วงหน้าในเวทีนานาชาติที่สำคัญอื่นๆ โดยเฉพาะที่กำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้ เช่น การประชุมสุดยอดอาเซียน การประชุมเอเปก

ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะประสบความสำเร็จเช่นนี้ยิ่งๆ ขึ้นต่อไป

และถ้าเป็นเช่นนั้น สันติภาพและความสงบสุขที่ประชาชนส่วนใหญ่ของทั้งสองประเทศต้องการนั้นก็จะเริ่มเป็นจริง

และเราก็อาจจะหลีกเลี่ยงการทำสงครามกันอีกระลอกที่กำลังมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้”

2. สาระสำคัญในถ้อยแถลงประวัติศาสตร์

กล่าวโดยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ ๘๐ ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ๒๗ กันยายน ๒๕๖๘ (จากคำแปลไม่เป็นทางการของกระทรวงการต่างประเทศ) บางประเด็นระบุไว้น่าประทับใจ อาทิ

(1) “ประเทศไทยก็ยืนอยู่บนทางเส้นทางของช่วงการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญเช่นกัน โดยกำลังเผชิญกับความท้าทายเร่งด่วนภายในประเทศ ซึ่งเราไม่สามารถเสียเวลาต่อไปได้อีก วิสัยทัศน์ของเรานั้นกว้างไกลกว่าชายแดน เรามองสู่โลกกว้าง เพราะเรามีความปรารถนาเช่นเดียวกับทุกประเทศที่จะเห็นโลกที่สงบสุข ยุติธรรม และครอบคลุม

ด้วยเหตุนี้ ประเทศไทยจึงพร้อมที่จะมีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ที่จะสร้างสหประชาชาติให้เป็นองค์กรที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการมอบสันติภาพ การพัฒนา และสิทธิมนุษยชนให้กับทุกคนอย่างแท้จริง”

(2) “...ประเทศไทยตั้งใจที่จะทำหน้าที่ในส่วนของเรา โดยกองกำลังรักษาสันติภาพของไทยได้ปฏิบัติหน้าที่ในทุกมุมโลก เพื่อช่วยฟื้นฟูวิถีชีวิตของผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง

ภายในประเทศ ไทยได้ดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ปนเปื้อนไปแล้วกว่าร้อยละ ๙๙ ซึ่งเป็นการดำเนินการภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยการดำเนินการของไทยไม่ได้เป็นเพราะต้องปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาฯ แต่เป็นการคืนพื้นที่ให้แก่ชุมชน เพื่อให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตและเติบโต โดยเป็นการทำตามหน้าที่ของเราที่มีต่อประชาชน การปกป้องผู้คนในประเทศเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภารกิจที่ต้องกระทำ เรายังคงต้องรับมือกับความท้าทายข้ามชาติ อาทิ การโยกย้ายถิ่นฐานที่เกิดจากความขัดแย้งและภัยพิบัติ ซึ่งประเด็นเหล่านี้เป็นบททดสอบร่วมกันที่ไม่มีประเทศใดสามารถแก้ไขได้โดยลำพัง”

(3) “...ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยได้ยกระดับความพยายามในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งรวมถึงการหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยอาชญากรรมที่ไร้พรมแดนต้องอาศัยความร่วมมือไร้พรมแดนด้วยเช่นกัน”

(4) “...แม้แต่ในประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดที่สุด ความขัดแย้งระหว่างกันก็สามารถเกิดขึ้นได้ โดยต้องยอมรับว่า สถานการณ์กับกัมพูชาในปัจจุบัน ไม่ได้เป็นที่พึงประสงค์หรือเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย โดยสันติภาพ ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองของเรา ล้วนมีความเกี่ยวเนื่องกันอย่างใกล้ชิด เราไม่อาจแยกออกจากกันได้ เพราะเราเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอาเซียนเดียวกัน

เช้าวันนี้ ผมตั้งใจที่จะกล่าวในประเด็นที่ต่างจากนี้ และในเชิงบวกที่สะท้อนถึงความหวังสำหรับอนาคต แต่ผมจำเป็นแก้ไขถ้อยแถลงนี้ใหม่ เพราะคำกล่าวที่น่าผิดหวังโดยเพื่อนกัมพูชาของผม

เป็นที่น่าเสียใจว่า กัมพูชายังคงสร้างภาพให้ตนเป็นผู้ถูกกระทำ

กัมพูชาได้ให้ข้อเท็จจริงในแบบฉบับของตนที่ไม่สามารถยืนยันได้เมื่อถูกตรวจสอบครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งก็เป็นเพราะว่าสิ่งที่กล่าวเป็นการบิดเบือนความจริง

เราต่างรู้ว่าใครคือผู้ถูกกระทำที่แท้จริง

ผู้ถูกกระทำที่แท้จริง คือ ทหารไทยที่ต้องสูญเสียขาจากทุ่นระเบิด

คือเด็กๆ ที่โรงเรียนถูกโจมตี และประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่กำลังจับจ่ายซื้อของในวันนั้นที่ร้านสะดวกซื้อที่ถูกโจมตีจากจรวดของฝ่ายกัมพูชา..”

(5) “..เมื่อวานนี้ ผมได้พบกับเพื่อนกัมพูชาที่สหประชาชาติแห่งนี้ เราได้พูดคุยกันในเรื่องสันติภาพ การเจรจา ความไว้ใจ และความเชื่อมั่น

ประเด็นเหล่านี้ ได้รับการยืนยันในการหารืออย่างไม่เป็นทางการสี่ฝ่าย จัดโดยสหรัฐอเมริกา

เราขอขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์สำหรับความมุ่งมั่นต่อสันติภาพของท่าน แต่เป็นที่น่าเสียใจว่า คำกล่าวของกัมพูชาในวันนี้ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับคำกล่าวในการหารือเมื่อวาน

โดยคำกล่าวของกัมพูชาได้แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่แท้จริงของเขา

คำกล่าวหาของกัมพูชานั้น เป็นสิ่งที่คลาดเคลื่อนอย่างมาก จนทำให้ความจริงดูเหมือนเป็นเรื่องตลก

ตั้งแต่เริ่มแรก กัมพูชาเป็นผู้ริเริ่มความขัดแย้งด้วยความตั้งใจที่จะขยายข้อพิพาทชายแดนไปสู่ความขัดแย้งระดับชาติ และทำให้เป็นประเด็นระหว่างประเทศ

ดังจะเห็นได้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันนี้ หมู่บ้านที่กัมพูชาอ้างถึงในคำกล่าวก่อนหน้านี้ตั้งอยู่ในเขตแดนของประเทศไทย โดยตามข้อเท็จจริง หมู่บ้านเหล่านั้นเกิดขึ้นเพราะประเทศไทยได้ตัดสินใจด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรมที่จะเปิดชายแดนในช่วงปลายทศวรรษ ๑๙๗๐ เพื่อให้ประชาชนหลายแสนคนได้หลบหนีจากสงครามกลางเมืองและมีที่พักพิงในประเทศไทย เราได้ตัดสินใจบนหลักการของความเมตตาและมนุษยธรรม

ผมได้เห็นภาพดังกล่าวด้วยตนเอง เมื่อครั้งผมยังเป็นเพียงเป็นนักการทูตผู้น้อย

แม้ว่าสงครามกลางเมืองได้สิ้นสุด และที่พักพิงได้ปิดตัวลง แต่หมู่บ้านของกัมพูชายังคงขยายขอบเขต ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา และแม้ว่าประเทศไทยได้พยายามที่จะประท้วงอย่างต่อเนื่อง แต่ฝ่ายกัมพูชา ยังคงเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องที่จะจัดการกับปัญหาการบุกรุกดังกล่าว

เมื่อสันติภาพกลับคืนสู่กัมพูชาภายหลังจากข้อตกลงสันติภาพปารีส ค.ศ. ๑๙๙๑ ประเทศไทยได้ช่วยสร้างและฟื้นฟูให้กัมพูชาสามารถรักษาสันติภาพของชาติตนได้

เราได้ช่วยสร้างบ้านเรือน ถนน และโรงพยาบาล เพราะว่าสันติภาพของกัมพูชานั้น เป็นผลประโยชน์ของไทยด้วยเช่นกัน

และนี่คือสิ่งที่ประเทศเพื่อนบ้านควรทำเพื่อกันและกัน...”

(6) “..ท่านประธานสมัชชาฯ ข้อตกลงหยุดยิงยังคงเปราะบาง เราจำเป็นต้องทำให้ข้อตกลงนี้เกิดผล

ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความมุ่งมั่น และการกระทำที่จริงใจจากทั้งสองฝ่าย

เป็นที่น่าเสียใจว่า กัมพูชายังคงยั่วยุอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการระดมพลเรือนเข้ามาในเขตแดนของไทยและยิงเข้ามาทางฝั่งของเรา

ถือเป็นการบ่อนทำลายสันติภาพและความมั่นคงตามแนวชายแดน

ผมหมายความถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๘ ที่กองกำลังกัมพูชาได้ยิงใส่กองกำลังไทยที่ประจำอยู่บริเวณชายแดน

โดยเหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นในวันนี้ กองกำลังไทยยังได้ตรวจพบโดรนลาดตระเวนของฝ่ายกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาดินแดนไทยทุกวันบริเวณชายแดน การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และข้อตกลงหยุดยิงที่ได้เห็นชอบร่วมกันในการประชุม สมัยพิเศษที่เมืองปุตราจายา มาเลเซีย และได้รับการยืนยันอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการชายแดน ระดับทวิภาคี

โปรดอย่าได้มีข้อสงสัยต่อการยืดหยัดเพื่อสันติภาพของไทย และไทยจะดำเนินการทุกวิถีทางที่สามารถกระทำได้ เพื่อหาทางออกโดยสันติต่อปัญหากับกัมพูชา

ในขณะเดียวกัน ไทยจะยังคงยืนหยัดเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพของดินแดนของเรา

โดยเราขอเรียกร้องให้กัมพูชาร่วมมือกับเราเพื่อแก้ไขความแตกต่างผ่านการหารือโดยสันติและกลไกที่มีอยู่..”

(7) “...ในวันนี้ ประเทศของเราทั้งสองต้องตัดสินใจเลือกเส้นทาง

ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนบ้านและมิตรกัน ประเทศไทยขอถามกัมพูชาว่า จะเลือกเส้นทางใด

เส้นทางของการเผชิญหน้า หรือเส้นทางของสันติภาพและความร่วมมือ

ประเทศไทยขอเลือกเส้นทางแห่งสันติภาพ เพราะเราเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนของทั้งสองประเทศ สมควรได้รับ

แต่เราก็ยังมีข้อสงสัยว่ากัมพูชาตั้งใจที่จะร่วมมือกับเราในการมุ่งสู่สันติภาพหรือไม่

สำหรับประเทศไทย การเจรจา ความไว้วางใจ และความสุจริตใจ ไม่ใช่เป็นเพียงคำพูด แต่คือหนทางในการเดินต่อไปภายหน้า เราจะยังคงยึดมั่นในหลักการเหล่านี้ในการดำเนินความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนต่างๆ ทั้งในอาเซียนและนอกเหนือออกไป รวมถึงมหาอำนาจต่างๆ เพื่อมุ่งสู่การมีสันติภาพที่ยั่งยืนและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน...”

3. การกล่าวถ้อยแถลงข้างต้น ไม่ได้มีเฉพาะประเด็นไทย-กัมพูชา แต่ยังยืนยันประเด็นอื่นๆ ในด้านเป็นบวกกับประเทศไทย เป็นสิ่งที่คนไทยต้องภาคภูมิ เช่น ท่าทีต่อกำแพงภาษี ท่าทีต่อสงครามในภูมิภาคต่างๆ การพัฒนาด้านระบบสุขภาพในประเทศไทย การสร้างบทบาทของ อสม.ที่ได้รับการชื่นชมยกย่อง ฯลฯ

ขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐบาลนายกฯอนุทิน

แค่เริ่มต้น ก็ช่วยเอาความภูมิใจไทยของคนไทยและประเทศไทย กลับคืนมา

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:14 น. ‘สรวงศ์’ โต้ ‘ดร.จอห์น’ ออกจาก ‘เพื่อไทย’ แล้วอย่าเผาบ้าน ไม่ใช่สิ่งที่ลูกผู้ชายพึงกระทำ
21:58 น. 'เจี๊ยบ อมรัตน์' เดือด!!! ประนาม ‘จุลพงศ์’ สร้างความอับอายให้พรรคส้ม
21:58 น. เลขเด็ดคำชะโนด ฮือฮาเลขพญางูใต้ศาลปู่-ขันน้ำมนต์ ตรงกันเป๊ะ
21:40 น. ‘ตม.อุบลราชธานี’จับชายชาวลาว อยู่เกินกำหนดอนุญาต‘โอเวอร์สเตย์’ 517 วัน
21:31 น. ห่วง'คนละครึ่ง'ซื้อเสียงล่วงหน้า 'ศิริกัญญา' ดักคอ 'อย่าฉวยโอกาส'
ดูทั้งหมด
ชาวมัทฉะเดือด เปิดปมร้อน! 'ชมพู่ อารยา' โดนจับตา ใช้'ถ้วยมัทฉะ'ก๊อปปี้?
คนญี่ปุ่นเมิน! ร้านอาหารเขมรเอาธงไทยวางพื้น สุดท้ายเจ๊งไม่เป็นท่า
ชาวเน็ตโฟกัสที่ของในมือ! 'เจนี่'สนุกสุดเหวี่ยงจัดปาร์ตี้ฉลองวันเกิดอายุครบ44ปี
ครั้งประวัติศาสตร์! เปิดโผเจ้าภาพวอลเลย์โลก2027
กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานปูนซีเมนต์ ปรับปรุงที่พักกำลังพลชายแดนไทย-กัมพูชา
ดูทั้งหมด
แต่งงานอย่างอเมริกัน
‘หนู-อนุทิน’ซ่อนดาบในรอยยิ้ม
ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน
ฮีโร่คนใหม่
ทวงคืนเกียรติและศักดิ์ศรีของประเทศไทย ด้วยความจริง และความกล้าหาญ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘สรวงศ์’ โต้ ‘ดร.จอห์น’ ออกจาก ‘เพื่อไทย’ แล้วอย่าเผาบ้าน ไม่ใช่สิ่งที่ลูกผู้ชายพึงกระทำ

เลขเด็ดคำชะโนด ฮือฮาเลขพญางูใต้ศาลปู่-ขันน้ำมนต์ ตรงกันเป๊ะ

เจ็บมาก!! 'นักเขียนดัง'เทียบ 3 รมต.คนใหม่-เก่า ลั่นถูกหลอกให้เห็นเป็นอัญมณี ทั้งที่จริงคือกรวด

'เจี๊ยบ อมรัตน์' เดือด!!! ประนาม ‘จุลพงศ์’ สร้างความอับอายให้พรรคส้ม

ชาวเน็ตเสียงแตก! 'ป้าแจ๋ว ยุทธนา'เทียบช็อตต่อช็อต'ซีรีส์เกาหลี'กับ'ละครไทย' เป๊ะเวอร์อย่างไม่น่าเชื่อ

มาแล้ว!!!‘ภูมิใจไทย’เปิดรายละเอียด‘คนละครึ่งพลัส’ เริ่มใช้เมื่อไร เงินกี่บาท ใครได้สิทธิ์บ้าง

  • Breaking News
  • ‘สรวงศ์’ โต้ ‘ดร.จอห์น’ ออกจาก ‘เพื่อไทย’ แล้วอย่าเผาบ้าน ไม่ใช่สิ่งที่ลูกผู้ชายพึงกระทำ ‘สรวงศ์’ โต้ ‘ดร.จอห์น’ ออกจาก ‘เพื่อไทย’ แล้วอย่าเผาบ้าน ไม่ใช่สิ่งที่ลูกผู้ชายพึงกระทำ
  • \'เจี๊ยบ อมรัตน์\' เดือด!!! ประนาม ‘จุลพงศ์’ สร้างความอับอายให้พรรคส้ม 'เจี๊ยบ อมรัตน์' เดือด!!! ประนาม ‘จุลพงศ์’ สร้างความอับอายให้พรรคส้ม
  • เลขเด็ดคำชะโนด ฮือฮาเลขพญางูใต้ศาลปู่-ขันน้ำมนต์ ตรงกันเป๊ะ เลขเด็ดคำชะโนด ฮือฮาเลขพญางูใต้ศาลปู่-ขันน้ำมนต์ ตรงกันเป๊ะ
  • ‘ตม.อุบลราชธานี’จับชายชาวลาว อยู่เกินกำหนดอนุญาต‘โอเวอร์สเตย์’ 517 วัน ‘ตม.อุบลราชธานี’จับชายชาวลาว อยู่เกินกำหนดอนุญาต‘โอเวอร์สเตย์’ 517 วัน
  • ห่วง\'คนละครึ่ง\'ซื้อเสียงล่วงหน้า \'ศิริกัญญา\' ดักคอ \'อย่าฉวยโอกาส\' ห่วง'คนละครึ่ง'ซื้อเสียงล่วงหน้า 'ศิริกัญญา' ดักคอ 'อย่าฉวยโอกาส'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ทวงคืนเกียรติและศักดิ์ศรีของประเทศไทย  ด้วยความจริง และความกล้าหาญ

ทวงคืนเกียรติและศักดิ์ศรีของประเทศไทย ด้วยความจริง และความกล้าหาญ

30 ก.ย. 2568

พรรคส้มไม่สำเหนียก ไม่สำนึก  ยังจะดันทุรังเดินหน้าแก้ ม.112

พรรคส้มไม่สำเหนียก ไม่สำนึก ยังจะดันทุรังเดินหน้าแก้ ม.112

29 ก.ย. 2568

ไม่แก้รัฐธรรมนูญ  ไม่สิ้นเปลือง ไม่เสียเวลา ไม่เอื้อนักการเมืองโกง

ไม่แก้รัฐธรรมนูญ ไม่สิ้นเปลือง ไม่เสียเวลา ไม่เอื้อนักการเมืองโกง

26 ก.ย. 2568

ทองคำจะไปถึง 60,000 บาท !?!

ทองคำจะไปถึง 60,000 บาท !?!

25 ก.ย. 2568

นายหน้า กับ นอมินีนักการเมือง  ทรัพย์สินมหาศาลในเงามืด

นายหน้า กับ นอมินีนักการเมือง ทรัพย์สินมหาศาลในเงามืด

24 ก.ย. 2568

รถไฟฟ้า 40 บาท  ต่างจากรถไฟฟ้า 20 บาท ไม่ใช่แค่ราคาที่ต่าง

รถไฟฟ้า 40 บาท ต่างจากรถไฟฟ้า 20 บาท ไม่ใช่แค่ราคาที่ต่าง

23 ก.ย. 2568

อัยการสูงสุดต้องอุทธรณ์  คดี 112 ทักษิณ

อัยการสูงสุดต้องอุทธรณ์ คดี 112 ทักษิณ

22 ก.ย. 2568

กรณีเขากระโดง ต้องทำตามขั้นตอนกฎหมาย

กรณีเขากระโดง ต้องทำตามขั้นตอนกฎหมาย

19 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved