ตามปกติคนเรานั้นเมื่อทำผิดแล้วสำนึกผิด ประเด็นแรกที่คนคนนั้นต้องทำคือ ยอมรับโทษตามความผิดของตน ไม่ใช่โกหกพกลมตลอดเวลาว่าตนเองไม่ได้กระทำผิด แล้วที่หนักกว่านั้นคือถ้าหากผู้กระทำผิดรายนั้นได้กล้าขอพระราชทานอภัยโทษ ก็จะต้องทำตามสิ่งที่ตัวเองได้ขอพระราชทานอภัยโทษโดยไม่มีข้อบิดพลิ้วใดๆ
แต่สำหรับนักโทษชายที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร น่าจะอยู่ในข่ายยกเว้น เพราะที่ผ่านมานั้นไม่เคยปรากฏว่าทักษิณสำนึกในความผิดที่ตนเองได้กระทำ แต่ที่มากกว่านั้นก็คือยังคงจงใจกระทำผิดต่อไปอย่างซ้ำซาก
ทักษิณ ชินวัตร เคยขอพระราชทานอภัยโทษเพื่อให้ลดโทษการถูกจำคุกมาแล้ว หลังจากที่เขาหนีคดีอาญาออกจากประเทศไทยไปนานเกือบ 20 ปี แต่เมื่อเขาได้รับพระราชทานอภัยโทษ ก็กลับไม่ปฏิบัติตามสิ่งที่ตนเองได้รับพระราชทาน ดังปรากฏเป็นข่าวชัดเจนแล้ว
มาล่าสุดมีข่าวอีกว่าทักษิณยื่นขอพระราชทานไปโพสต์เฉพาะรายผ่านกระทรวงยุติธรรม เมื่อข่าวนี้ปรากฏก็ทำให้มีคำถามว่า ทักษิณยังกล้าขอพระราชทานอภัยโทษอีกหรือ ทั้งๆ ที่เขาได้รับมาตรฐานอภัยโทษไปแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิบัติตามสิ่งที่ได้รับอย่างเคร่งครัด เพราะเขาจงใจไม่รับโทษในคุกให้ครบกำหนดเวลา
ขอย้ำว่าทักษิณขอพระราชทานอภัยโทษเมื่อวันที่เขากลับเข้ามาประเทศไทย ในวันที่ 22 สิงหาคม 2566 และได้รับพระมหากรุณาธิคุณอภัยลดโทษ โดยลดโทษให้เหลือหนึ่งปี จากโทษทั้งหมดคือการจำคุกแปดปี แต่ทว่าหลังจากนั้นเขาไม่ได้เข้าไปอยู่ในคุกแม้แต่วันเดียว
ทุกคนที่ติดตามข่าวนี้รู้ดีว่าทักษิณไม่ได้อยู่ในคุกแม้แต่วันเดียว ย้ำว่าเขาไม่ได้อยู่ในคุกแม้แต่วันเดียว แต่เขาเล่นเกมโดยอ้างว่าป่วยหนัก แต่สุดท้ายความจริงก็ปรากฏเมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายืนยันว่าทักษิณไม่เคยได้รับโทษใดๆ ซึ่งเป็นการกระทำผิดคำสั่งลงโทษโดยศาลฎีกาฯ ดังนั้นเขาจึงต้องกลับเข้าไปรับโทษในคุกเป็นเวลาหนึ่งปี
แต่ทักษิณก็ยังคงหาทางที่จะไม่ต้องรับผิด โดยปรากฏเรื่องว่าเขาทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษอีกครั้ง โดยการขอพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้ลงนามโดยมีชื่อของ ทวี สอดส่อง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ผู้ติดตามข่าวสามารถระบุได้ตรงกันว่าทวีมีความสัมพันธ์อย่างไรกับทักษิณ
แต่ล่าสุดมีข่าวว่า รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมคนใหม่ ระบุว่าหนังสือที่ลงนามโดย ทวี ถูกตีกลับแล้วส่งที่กระทรวงยุติธรรม แล้วเรื่องนี้ได้ถูกมอบหมายให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อศึกษาข้อกฎหมาย แล้วค่อยประมวลเรื่องส่งกลับภายในสามวัน แล้วจึงจะพิจารณาว่าจะนำเสนอส่งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
หรือไม่ แต่ตามขั้นตอนการขอพระราชทานอภัยโทษครั้งที่สองไม่สามารถทำได้ แต่เรื่องนี้ก็จะต้องพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง
ประเด็นที่สาธารณชนตั้งคำถามกับเรื่องนี้ก็คือ ทักษิณยังกล้าขอพระราชทานอภัยโทษอีกหรือ ทั้งที่เขาไม่ได้ปฏิบัติตามสิ่งที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี